บท
ตั้งค่า

ชมพูพิงค์ | ตัดสินใจ เพราะเชื่อใจ

กระดาษสีขาวในมือเริ่มมัวขึ้น มันขึ้น ก่อนที่อยู่ ๆ น้ำตาฉันจะหยดเผาะลงกระดาษ และไหลรวมกับตัวหนังสือที่แม่เขียน

จากนั้นรอยปากกาสีน้ำเงินก็เริ่มเลือนลางไปทีละนิด เลือนไปพร้อมกับความคิดที่ตบตีกันในหัว ฉันต้องแต่งงานจริง ๆ เหรอ? แล้วที่ฉันรับปากกับคุณอิฐไว้ล่ะ มันจะเป็นยังไงต่อ? หรือลุงอัฐท่านตกลงกับลูกชายไว้แล้ว ไม่งั้นท่านไม่ด่วนมาถึงนี่? หรือจริง ๆ แล้ว ลุงอัฐแค่จะมายกเลิก และมาโวยคุณหญิงแม่?

พอนึกได้ฉันก็รีบพับกระดาษซ่อนไว้ใต้หมอนทันที ก่อนที่จะปาดน้ำตาอุ้มมู่ทู่เปิดประตูช้า ๆ และย่องออกมานั่งแหมะที่บันได

และเมื่อก้มมองไปที่ห้องโถงใหญ่กลางบ้าน ที่มีโซฟารับแขกเวอร์วังอลังการ ฉันก็เห็นคุณหญิงแม่นั่งคุยกับลุงอัฐแค่สองคน ท่านดูสงบเสงี่ยมเจียมตัว ถึงขนาดนั่งก้มหน้าก้มตา และบีบมือที่วางบนตักเป็นระยะ ๆ

“คุณหญิงผกา ผมต้องการให้หนูพิงค์ย้ายไปอยู่บ้านผมเร็วที่สุด”

“คะ? คุณอัฐไม่รอให้หนูพิงค์เรียนจบก่อนเหรอคะ?” คุณหญิงแม่เงยขึ้นถามตกใจ แต่ท่านก็ไม่ได้ยืนกรานปฏิเสธ

“ผมรอไม่ไหว”

“...”

“ตอนนี้หนูพิงค์อยู่ไหน ผมต้องการคุยด้วย” เท่านั้นแหละคุณหญิงแม่ก็ก้มหน้าหลบตาลุงอัฐทันที ก่อนที่จะบีบมือที่วางบนตักถี่ขึ้น ตอนนี้คงลำบากใจ ที่จะให้ฉันเจอใครสินะ เพราะมุมปากฉันมันยังมีแผลช้ำที่คุณหญิงแม่ฝากไว้อยู่เลย

“นะ หนูพิงค์ไม่ค่อยสบายค่ะคุณอัฐ”

“เหรอ? ไปบอกสิ ว่าผมมาเยี่ยม” เมื่อลุงอัฐยืนยันจะเจอฉันให้ได้ คุณหญิงแม่ก็เงียบไป และเงียบนานจนลุงอัฐถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ! งั้นผมคงต้องให้ลูกน้องผมไปตามลงมา”

“อย่าค่ะคุณอัฐ ดิฉันจะให้คนไปตามให้ค่ะรอสักครู่นะคะ” พอพูดเสียงสองนอบน้อมเสร็จก็หันขวับไปที่แม่ฉันทันที ก่อนที่จะกดตาต่ำมองท่านที่นั่งบนพื้น และสั่งว่า...

“พรไปตามพิงค์ลงมา” ได้ยินแบบนั้นฉันก็กระชับกอดมู่ทู่แน่น ก่อนจะเอื้อมมือจับราวบันไดลุกขึ้น และวิ่งเร็ว ๆ กลับเข้าห้องตัวเอง

ตอนนี้ฉันไม่รู้จะไว้ใครดี ระหว่างลุงอัฐกับคุณหญิงแม่ คนนึงเลี้ยงดูฉันมาแต่ทำร้ายจิตใจทำร้ายร่างกายฉันเป็นว่าเล่น ส่วนอีกคนก็ดูสุขุมเลือดเย็น แต่ตามที่แม่เขียนไว้กลับบอกว่าไว้ใจได้ และฉันจะปลอดภัยถ้าตัดสินใจแต่งงานกับเขา

ร่างกายปลอดภัย? แล้วจิ๊มิฉันล่ะจะปลอดภัยรึเปล่า? ฉันไม่อยากให้เรื่องที่ฉันอุตส่าห์โกหกเป็นเรื่ิองเป็นราว มันกลายเป็นเรื่องน้ำเน่าและฉาวจนใคร ๆ ก็สมน้ำหน้า โกหกหนุ่มหล่อไฮโซมา แต่ดันได้คนแก่คราวพ่อมาเป็นผัวซะงั้น

ฮือ คิดแล้วเครียด

‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

“คุณหนูคะ” เสียงเคาะประตูเบา ๆ กับเสียงแม่เรียก ทำฉันกับมู่ทู่มองหน้ากันทันที ก่อนที่เจ้าหมาในอ้อมกอดจะกระดิกหางสั้น ๆ ของเขาดุกดิก ๆ และครางหงิง ๆ ตอบ

‘หงิง... หงิง...’

“คุณหนู” และเสียงแม่ที่เบาลงจนใจหาย ก็ทำฉันตัดสินใจรีบวางมู่ทู่ลงบนพื้นและเอื้อมมือเปิดประตูทันที ก่อนที่แม่จะรีบดันเข้ามา แล้วจับมือฉันไปกุมอย่างรีบร้อน

“คุณหนู คุณอัฐมาเร่งแล้วค่ะ นมทนเห็นคุณหนูของนมโดนตบไม่ไหวแล้ว ดูสิยังช้ำอยู่เลย คุณหนูไปตกลงแต่งงานกับคุณอัฐนะคะ ออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้แล้วค่อยมารับนม”

แม่รีบพูดแกมกระซิบ แข่งกับเสียงรองเท้า ที่เดินขึ้นบันไดมาหยุดหน้าห้อง ‘ฟุบ ๆ’

จนฉันรีบหันกลับมาถาม และกุมมือแม่อีกข้าง

“ลุงอัฐเป็นคนดีใช่ไหมคะ ยืนยันกับหนูสิแม่ ว่าลุงเขาเป็นคนดี”

เสียงกระซิบถามทำแม่ชะงักไปครู่นึง ก่อนจะหันมองเงาที่หน้าประตูด้วยความลังเล แต่เมื่อเจ้าของเงาเคาะประตู ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ เร่ง แม่ก็รีบดึงแขนฉันไปอีกมุม และกระซิบเร็ว ๆ ว่า...

“คุณอัฐเป็นคนดี นมยืนยันได้ค่ะ และที่นมบอกจำได้ไหมคะ ว่าคุณอัฐเคยโดนยิงมาก่อน ตอนนี้ท่านเสื่อมสมรรถภาพแล้วค่ะ เรื่องนั้นอย่ากลัวเลยนะคะ”

วินาทีนั้นมันเหมือนทุกอย่างเบาหวิวออกจากอก สิ่งที่หนักอึ้งในหัวและวิตกกังวลหายวับไปกับตา ฉันเริ่มเห็นลู่ทางหนี เห็นแสงสว่างของชีวิต และคิดออก ว่าตัวเองจะทำอะไร และเริ่มจากตรงไหน

เรื่องลูกชายลุงอัฐ เขาอาจจะแค่ขู่ ถ้าฉันหาวิธีบอกเขาตรง ๆ ว่าฉันมีความจำเป็น และขออาศัยอยู่บ้านเขาไม่นาน เขาน่าจะเข้าใจ

อีกอย่างคนแบบนั้น เขาคงไม่ผิดใจกับพ่อเรื่องฉันคนเดียวหรอก ไหนจะธุรกิจ ไหนจะพวกพ้องพวกงาน ลูกชายคนเดียวต้องรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว

เขาไม่น่าจะเป็นลูกแง่มาตามจิกฉัน

‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

“เปิดประตูสิ แค่มาตามทำไมต้องล็อคประตู? มันชักจะนานเกินไปแล้วนะ” แล้วแม่ก็บีบมือฉันแน่น แน่นจนฉันปวดและรีบหันไปมอง สายตาท่านตอนนี้ไม่ได้วอนขอหรือเรียกร้อง แต่มันเป็นสายตาที่เป็นห่วงฉันมาก และอยากให้ฉันเชื่อใจท่าน

“เชื่อนมนะคะ”

“...” ฉันไม่ตอบ ยังนิ่ง จนแม่ค่อย ๆ ปล่อยมือลงแล้วเดินไปเปิดประตูให้คุณหญิงแม่ และทันทีที่ท่านเข้ามาเห็นฉันท่านก็มองฉันกับแม่แปลก ๆ จนฉันต้องแก้ไขสถานการณ์ รีบเดินไปหยุดตรงหน้า ดึงความสงสัยทั้งหมดมาที่ตัวเอง

“มีอะไรคะคุณหญิงแม่”

“ล้างหน้าล้างตาแต่งตัวดี ๆ คุณอัฐมาหา เอ้อ! ที่ปากน่ะ! บอกว่าหกล้มหน้ามืดนะ” ฉันพยักหน้าเบา ๆ รับรู้ จนคุณหญิงแม่เอามือกอดอกและเปรยตามองแม่ฉัน

“พรออกไป เธอจะเฝ้าลูกเธอถึงไหน”

“คุณหญิง พรขอนะคะ อย่าตบคุณหนูอีก ถ้าคุณอัฐรู้คุณหญิงคง” แม่ฉันพูดไม่ทันจบ คุณหญิงแม่ก็จิ๊ปากและจิกตาใส่ทันที ก่อนที่ท่านจะเดินมาจับต้นแขนฉัน และดึงเข้าไปหา

“นี่! ถ้าพูดง่าย ๆ ฉันจะลงไม้ลงมือทำไม? พิงค์ลงไปก็ตอบตกลงแต่งงานซะ! ไม่งั้นฉันจะไม่ตบแค่เธอนะ รอบหน้าจะตบแม่เธอด้วย!” ฉันหลับตาลงกำมือแน่น ก่อนจะสะบัดแขนตัวเองออกจากมือคุณหญิงแม่สุดแรง และถอยออกห่าง

“นี่พิงค์! อย่ามาลองดีกับฉันนะ”

“ไม่ได้ลองดี และก็เลิกข่มขู่พิงค์กับแม่สักที พิงค์จะแต่งให้ โอเคมั้ยคะ พิงค์จะไปอาบน้ำแต่งตัวสวย ๆ ไปตอบตกลงตามใจคุณหญิงแม่ทุกอย่าง!”

และท่านก็เผยยิ้มที่มุมปาก แต่เป็นรอยยิ้มที่เหยียดหยันฉันมาก คงจะคิดสินะว่ายังไงฉันก็จนมุมไปไหนไม่รอด เออ คิดถูก! ฉันจนมุมจริง ๆ นั่นแหละ! และต่อไปนี้ ฉันกับแม่จะไม่อยู่เป็นเบี้ยล่างใครอีกแล้ว!

“งั้นก็รีบแต่งตัวรีบลงมา อย่าให้ผู้ใหญ่รอนาน”

ฉันไม่ตอบก้มลงอุ้มหมาสุดที่รักเดินเข้าห้องแต่งตัวตัวเอง ไม่ได้เวอร์นะ แต่ตั้งแต่คุณอิฐมาระรานกับหมาฉัน ฉันก็เป็นห่วงมู่ทู่มาก ไม่อยากให้มันพ้นสายตาไปสักนาที ยิ่งคุณหญิงแม่ตอนนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้ หน้าเนื้อใจเสือเพราะหนี้ค้ำคอหอยอยู่ เกิดพามู่ทู่ไปขายที่สนามหลวงฉันจะทำยังไง

หลังจากแต่งตัวใส่ชุดเดรสง่าย ๆ ฉันก็ลงไปนั่งที่ห้องโถงใหญ่และยกมือไหว้ลุงอัฐ ซึ่งลุงอัฐท่านสุขุมมาก ท่านไม่ได้มองฉันสายตาแพรวพราว เหมือนพ่อบุญธรรมมองฉันเลย

“ปากไปโดนอะไร?” คำถามแรกที่ลุงอัฐถาม ทำคุณหญิงแม่ถึงกับยืดตัวตรงหลังไม่ติดเก้าอี้

“เอ่อ ช่วงนี้พิงค์ไม่ค่อยสบายค่ะคุณอัฐ เลยหน้ามืดล้มน่ะค่ะ”

ลุงอัฐไม่สนใจคุณหญิงแม่ เอาแต่นั่งจ้องรอยช้ำที่ริมฝีปากฉัน และถามฉันว่า...

“ผมถามพิงค์ ไงหนูพิงค์ ใครทำอะไรพิงค์รึเปล่า?” ฉันส่ายหน้าเบา ๆ และกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ รังสีความเป็นเจ้าพ่อ แค่พูดแค่ถามไม่กี่คำ มันก็สามารถทำให้ฉันตัวหดหางจุกตูดได้

“ไม่ค่ะ ไม่มี หนูล้ม” แล้วลุงอัฐก็พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปคุยกับคุณหญิงแม่ปกติ ท่านพูดเรื่องแต่งงานและขอฉันไปอยู่บ้านท่านเลยตอนนี้ ก่อนที่จะตกลงเรื่องหนี้ที่คุณหญิงแม่ค้างไว้ ซึ่งท่านจะยกให้ก่อนครึ่งนึง และหลังจากแต่งงานมีทายาทท่านจะยกที่เหลือให้

แต่เรื่องทายาทมันทำให้ฉันงง และนั่งขมวดคิ้วฉุกคิดในใจ แม่เพิ่งบอกว่าลุงอัฐเสื่อมสมรรภาพไปแล้วท่านจะมีทายาทอีกได้ยังไง?

เสื่อมสมรรถภาพคือมีเซ็กส์ไม่ได้ หรือทายาทที่ท่านพูดถึง คือการทำกิฟท์ ใช้หลักทางการแพทย์?

“คุณอัฐ ฉันฝากดูแลหนูพิงค์ด้วยนะคะ” ฉันสลัดเรื่องในหัวสนใจคนตรงหน้าทันทีเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง ตายจริงคุณหญิงแม่ตกลงกับลุงอัฐถึงไหนแล้ว ทำไมฉันใจลอยแบบนี้

“ได้ ไม่มีปัญหา ผมจะดูแลอย่างดี”

“...”

“ไงหนูพิงค์เต็มใจแต่งงานใช่มั้ย” คำถามนี้ ทำทุกคนในห้องจับจ้องมาที่ฉันรอคำตอบ รวมถึงแม่แท้ ๆ ที่พยักหน้ารัว ๆ ให้ฉันเชื่อใจ และเชื่อมั่นในสิ่งที่ท่านบอกก่อนหน้า หนักกว่าคือคุณหญิงแม่ที่เริ่มจิกตาและจิ๊ปากกดดัน ท่านทำให้ฉันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว จนลุงอัฐต้องเอียงคอถาม

“ไงหนูพิงค์”

“...”

“หนูพิงค์...”

“คะ... ค่ะหนูเต็มใจ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel