พิศวาสร้อน ซ่อนรัก

159.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
107
บท
12.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะปากพล่อย พัฒน์ชนะ จึงพนันขันต่อกับเพื่อนสนิท ว่าจะแอ้มสาวสวยอย่าง ภัทรานิษฐ์ ในคืนเลี้ยงรุ่น ให้จงได้ โดยหารู้ไม่ว่าหากไม่ได้มีใจให้แล้ว การพนันครั้งนี้หรือจะสำเร็จ เพราะรักจึงส่งผลให้เธอมอบกายให้ชายหนุ่มครอบครอง

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักประธานรักแรกพบฟินๆนัดบอดเศรษฐีโรแมนติก

บทที่ 1

“เออ...เดี๋ยวข้ารีบเข้าไป อย่าเร่งนักสิวะ” เสียงที่ออกจะหงุดหงิดนิดหน่อยของพัฒน์ชนะ ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่เอ่ยบอกกับเพื่อนคนที่โทรศัพท์มาตามเป็นครั้งที่ร้อย เร่งให้เขาเข้าไปในงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนสมัยมัธยมที่จัดขึ้นยังโรงแรมชื่อดัง ซึ่งมันก็คือโรงแรมในเครือธุรกิจของเขาที่ในวันนี้คงรวมศิษย์เก่าได้หลายร้อยชีวิตและหลายรุ่นพอตัว

คิ้วดกหนาของพัฒน์ชนะกำลังขมวดกันยุ่งเนื่องจากการจราจรที่ติดเกินคาดของเมืองกรุง เขาอุตส่าห์เผื่อเวลาในการเดินทางแล้ว แต่คงไม่วายต้องเข้างานช้าแน่นอน นิ้วชี้ยาวเรียวของชายหนุ่มทั้งสองข้างเคาะพวงมาลัยรถสปอร์ตคันสวยราคาหลายสิบล้าน ริมฝีปากหนาเม้มเข้าหากันในบางครั้ง ก่อนจะสบถออกมาตามประสา

“จะติดอะไรหนักหนาวะ” พูดจบใบหน้าหล่อๆ ของชายหนุ่มก็หันซ้ายหันขวาชะเง้อมองสัญญาณไฟจราจรที่ยังเป็นสีแดง หางตาก็เหลือบมองไปเห็นบรรดาสาวๆ ในรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆ กำลังแต่งหน้าทำผมกันอยู่เหมือนกำลังเดินทางไปงานที่ไหนสักงาน ก็จะไม่ให้เขาเห็นได้ยังไงเล่นเปิดไฟกลางรถไปซะแบบนั้น แต่มีหญิงสาวหนึ่งในนั้นที่เขาคุ้นตาเสียเหลือเกิน ซึ่งเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน สายตาของพัฒน์ชนะเพ่งมองเธอผ่านกระจกรถยนต์ที่มืดสนิทของเขาสลับกับมองดูสัญญาณไฟจราจร

“หวา…เติมปากอีกไหม” เสียงใสๆ ของศิรดาเอ่ยถามเพื่อนสาว ก่อนจะยื่นลิปกลอสสีสวยยี่ห้อดังที่ถอยมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะให้กับคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งหญิงสาวนั้นต่างก็รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงปัจจุบัน ถ้านับเวลาก็เกือบจะสิบปีเข้าไปแล้ว

“ไม่ล่ะ แค่นี้พอแล้ว” ภัทรานิษฐ์ส่ายหน้า เพราะสำหรับเธอการแต่งหน้าแต่งตาเพียงเท่านี้ก็พอแล้ว เนื่องจากปรกติก็ไม่ค่อยได้แต่งหน้าทำผมแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่วันนี้มันเป็นวันพิเศษศิรดาและลักขณาเพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคนจึงจับเธอแปลงโฉมอยู่ตั้งนานสองนาน กว่าจะยอมให้ออกจากบ้าน

“คนสวยก็อย่างนี้แหละ” ลักขณาสาวสวยแสนห้าวเพื่อนสนิทอีกคนที่มาพร้อมกันเอ่ยแซวเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนภัทรานิษฐ์เมื่อได้ฟังก็รีบแก้คำพูดนั้นทันที

“อย่าแซวน่า เราจะไปสวยสู้ฝนกับเก๋ได้ยังไง”

“เหรอ!!” ศิรดาและลักขณาอุทานออกมาพร้อมๆ กัน

เพราะภัทรานิษฐ์นั้นเป็นถึงอดีตดาวมหาวิทยาลัย ถ้าเจ้าหล่อนไม่สวยก็คงแย่แล้ว ส่วนพวกเธอถ้าลองได้เดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยตอนนี้คงมีแต่คนยกมือไหว้พร้อมคำเอ่ยเรียกว่าป้าแน่นอน

“ทำเสียงแบบนี้หมายความว่าไง” คนถูกแซวอย่างภัทรานิษฐ์เอ่ยถามกลับไปบ้าง แต่หารู้ไม่ว่าท่าทางการสนทนาของพวกเธอนั้นอยู่ในสายตาของพัฒน์ชนะ

“เปล๊า” ลักขณาที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถเอ่ยตอบเสียงสูง ก่อนจะมองสัญญาณไฟจราจรที่ยังเป็นสีแดงอยู่

“ไม่รู้ว่าคืนนี้จะมีใครจำพวกเราได้บ้าง” ศิรดาเอ่ยถามลอยๆ กับการไปงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยมของพวกเธอ ก่อนจะวาดฝันถึงคนที่เธออยากพบ ผ่านมาตั้งหลายปีที่ไม่ได้พบหน้า เขาคนนั้นจะยังหล่อ พร้อมกับทำให้ใจของเธอเต้นแรงอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่านะ

“นั่นสิ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว งานเลี้ยงรุ่นเนี่ย ตั้งแต่จบมอหกมา ฉันก็ไม่เคยไปเลยนะ” สาวสวยที่ขับรถอยู่เอ่ยขึ้นบ้าง ใช่ว่าเธอไม่อยากไปงานเลี้ยงรุ่น แต่ทุกปีที่จัดเธอไม่ว่างไปร่วมงานเลยสักครั้ง

“ใช่” เสียงใสๆ ของศิรดาเอ่ยเห็นด้วย ก่อนจะเติมปาก เติมแป้งของเธอต่อ ส่วนภัทรานิษฐ์ก็พยักหน้าให้เพื่อน เพราะเธอเองตั้งแต่เรียนจบไปก็ไม่เคยได้ไปงานเลี้ยงรุ่นเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเธอนั้นไม่ว่างแต่เพราะไม่มีเพื่อนไปด้วยต่างหาก

“แล้วปีนี้ คิดยังไงถึงจะไป” ภัทรานิษฐ์เอ่ยถามขึ้น

“ไม่รู้สิ...ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างดึงดูด ไม่แน่พี่แพทอาจจะไปงานปีนี้ก็ได้นะ ฉันถึงได้เนื้อเต้นแบบนี้” ศิรดาออกอาการเพ้อ ชื่อที่ได้ยินทำให้หัวใจของภัทรานิษฐ์เต้นรัว

“ถูกต้อง เพราะตั้งแต่พี่แกจบมอหก พี่แพทสุดฮอตสุดกรี๊ดของเราไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นเลย ถ้าปีนี้พี่แกไปฉันต้องละลายแน่ๆ” ลักขณาเองก็ออกอาการเพ้อตามศิรดาไปติดๆ อีกคน ใบหน้าของชายในฝันลอยไปลอยมาในจินตนาการของทั้งสองสาว

“ไป...พาเมียสองลูกสี่ไปด้วย” คำพูดของศิรดาทำให้ฝันของลักขณาแทบพัง ก่อนจะหันมาแยกเขี้ยวใส่เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมเอ่ยค้านเสียงเขียว

“เวอร์…พี่เขายังไม่แต่งงานหรอก”

“ว่าได้เหรอจ๊ะ ผู้ชายทั้งหล่อ ทั้งรวย แบบนั้นคิดหรือว่าจะรอด” ประโยคที่สองของศิรดาเหมือนมีหินก้อนใหญ่หล่นมาปิดประตูคำว่าโอกาสของลักขณาเรียบร้อย ก่อนที่ศิรดาจะเอ่ยค้านพร้อมความมุ่งมั่น

“ไม่จริง พี่แพทของฉันต้องยังโสด ป่านนี้คงเป็นหนุ่มเนื้อหอม เป็นรุ่นพี่ในดวงใจ ที่ได้เห็นเมื่อไหร่ใจฉันต้องเต้นไม่เป็นส่ำทุกทีเลย” พูดจบลักขณาก็ยิ้มคนเดียว

“แล้วแกรู้ได้ไงว่าพี่เขายังไม่แต่งงาน เป็นปาปารัชซี่หรือไงจ๊ะ เอ๊ะ หรือว่าเป็นคนใช้บ้านพี่เขากันนะ” ภัทรานิษฐ์แอบหัวเราะให้กับคำพูดของศิรดา

“บ้า...ฉันก็แค่เดาเอา เพราะถ้าพี่แพทแต่งงาน ฉันก็อยากเห็นภรรยาพี่เขาเหมือนกันนะว่าหน้าตาจะสวยขนาดไหน แล้วทำยังไง ถึงได้คว้าหัวใจพี่แพทสุดฮอตของพวกเราไปครองได้ ว่าไหมยี่หวา” คำถามของลักขณาทำให้ภัทรานิษฐ์สะดุ้ง เพราะเธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ เหมือนกัน

“อะ…เอ่อ อืม”

“แกจะไปถามหวามันทำไมเล่า ถ้าพี่แพทมีเมียแล้ว ยี่หวาของเราก็อกหักสิ อุตส่าห์หลงรักพี่เขามาตั้งแต่อยู่มอสี่จนป่านนี้ แถมยังอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ยากสุดๆ ของเมืองไทย เพื่อตามไปเรียนที่เดียวกับพี่แพทอีก ฉันกับแกก็รู้ เพราะร่วมชะตากรรมกันมาตั้งแต่ต้น ใช่ไหม” ศิรดาหันไปถามความคิดเห็นจากเพื่อน แต่เธอไม่เสียใจหรอกที่เลือกเส้นทางนี้ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอต้องการเรียนอยู่แล้ว