ตอนที่ 6
ฉันหยิบกระเป๋าเดินออกมาจากโรงเรียนพร้อมกับเขา ระหว่างทางไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักเท่าไหร่ ฉันยืนรอรถเมล์อยู่จังหวะนั้นเห็นรถเบนซ์สีดำเคลื่อนมาจอด
“เราไปส่งที่บ้านเอาไหม?”เคเซย์หันมาถามฉัน
“ไม่เป็นไร”
“ไปเถอะ!”
เขาไม่ได้รอให้ฉันอนุญาตกลับลากฉันเข้าไปในรถเบนซ์คันนั้น ฉันรู้สึกตกใจมากไม่นึกว่าเขาจะรวยมากขนาดมีคนขับรถประจำตัวด้วย
“ฉันจะลงปล่อยฉันลงไปเลยนะเคเซย์!”ฉันโวยวายเสียงดังในรถ
“เราแค่จะไปส่ง ทำไมต้องโวยวายด้วยโซรีน”
เห็นสายตาคนขับรถมองมาฉันเลยนั่งเงียบไปตลอดทาง สุดท้ายรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าบ้านฉัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้บอกอะไรกับเขาเลยสักคำว่าบ้านอยู่ตรงไหน ฉันรีบเปิดประตูออกมาจากรถเดินสะบัดก้นเข้าบ้านโดยไม่ได้กล่าวขอบคุณอะไรเขาเลย เปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านได้ยินเสียงรถเคลื่อนออกไปแล้ว
รุ่งเช้าฉันมาถึงโรงเรียนดั่งเช่นทุกวันลมหายใจถูกถอนออกมาหลายเฮือก นักเรียนเดินเข้าห้องเรียนหลังจากเคารพธงชาติเรียบร้อยแล้ว เมื่อนั่งประจำที่ฉันเอากระหนังสือสอดไว้ใต้โต๊ะ แต่รู้สึกเหมือนมันติดอะไรสักอย่างเลยก้มลงมอง มันเป็นกล่องของขวัญผูกโบว์สีชมพูดูน่ารักมาก แม้แปลกใจว่าใครเอามาใส่แต่ใครจะสน ฉันเปิดดูและพบว่าข้างในบรรจุกล่องดนตรีรูปหัวใจซึ่งมันน่ารักมาก
เราให้นะโซรีน... เวลาเธอเหงาเปิดมันออกจะได้ยินเสียงเพลง มันคือกำลังใจจากเรานะ
เพียงแค่เห็นข้อความริมฝีปากฉันก็แย้มกว้างจนหุบไม่ลง เพื่อนๆ ต่างมามุงดู พยายามกวาดสายตามองไปรอบห้องเพื่อค้นหาว่าใครคือคนนั้น จังหวะนั้นฉันสบตาเข้ากับเคเซย์โดยบังเอิญเขารีบหลบสายตา และการกระทำเช่นนั้นมันทำให้ฉันเริ่มสงสัย
“อะไรน่ะโซรีน!”ปีแอร์ถามแล้วคว้ากล่องดนตรีในมือฉันออกไป
“เอามานะปีแอร์ มันของฉัน!”ฉันลุกยืนหันไปตวาดเขา ผู้ชายอย่างปีแอร์นิสัยเสียที่สุด
“อะไรวะเนี่ย ใครให้เธอมาเหรอโซรีนสงสัยไอ้หมอนี่มันคงชอบเธอมากแน่ๆ”หมอนั่นเบ้ปากพลิกกล่องดนตรีไปมาเหมือนของสนุก แล้วหัวเราะออกมา
เสียงหัวเราะของปีแอร์มันทำให้ฉันหงุดหงิดสุดๆ เขาต้องการอะไรกันแน่มายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไม ทั้งที่พยายามไขว่คว้าหาทางแย่งของสำคัญในมือเขา แต่ปีแอร์กลับยกกล่องดนตรีแสนสวยไว้เหนือหัว ความสูงของเขามันสุดเอื้อม ฉันเลยกระโดดเพื่อยื้อแย่ง เลยทำให้สมดุลร่างกายไม่ดีจนเซล้มลง ปีแอร์รีบคว้าเอวฉันไว้แน่น
“ปล่อยฉันนะปีแอร์!”ฉันตวาดลั่นดิ้นรนด้วยความหงุดหงิด
“ไม่ปล่อยมีอะไรไหม”รอยยิ้มยียวนส่งมา มันทำให้ฉันเดือดสุดๆ
ปีแอร์ล้อเลียนแลบลิ้นให้ เพื่อนในห้องเริ่มหันมามองส่งเสียงแซว จังหวะนั้นกล่องดนตรีในมือปีแอร์ก็ถูกชิงไป ฉันหันมองเห็นเคเซย์ถือมันอยู่
“ไม่เข็ดหรือไง ไอ้ปีแอร์!”เสียงเข้มขู่ออกไป
เอวฉันถูกปล่อย ปีแอร์หันมองแววตาของอีกฝ่ายผ่านแว่นหนา ฉันเห็นสายตาของทั้งคู่มันเหมือนกำลังจะเกิดสงครามย่อมๆ เลยทีเดียว
“ไม่เข็ด แล้วจะทำไมวะ คิดว่าเอาชนะฉันได้ครั้งหนึ่งแล้วคิดว่าตัวเองเก่งนักหรืองไงไอ้เคย์เซย์!”ปีแอร์เริ่มผลักอก
