3. เมื่อหนึ่งปีก่อน (ภาคปัญหา) [4/4]
วิลเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า เธอรู้จักเขามาก่อนหรือเปล่า แต่เขาไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงในเมืองไทย เขาก็จัดเป็นเซเลบคนไทยที่ถือเป็นคนดังในต่างประเทศซึ่งมีไม่มากนัก ในหน้านิตยาสารกอสซิปมีรูปเขาปรากฎ
อยู่บ่อยครั้ง
เวลาค่อยๆ เดินต่ออย่างช้าๆ ซึ่งทั้งสองก็นิ่งเงียบตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองในท่าคร่อมทับกันอย่างไม่รู้ตัวกันทั้งสองฝ่าย แม้ถือเป็นคนแปลกหน้ากันแต่เวลาสั้นๆ ที่ทั้งสองผ่านประสบการณ์ทั้งสุขและทุกข์มาก็ต่างให้ทำให้เผลอไผลไป
“เท่าที่ฉันจำได้ ฉันขอแค่พอขึ้นฝั่ง ฉันก็จะไปตามทางของฉัน”
“เอาอะไรมาการันตีว่าผู้หญิงแบบคุณจะไม่หาเรื่องมาแบล็คเมล์ผม”
“แบล็คเมล์!...ฉันจะเอาหลักฐานอะไรไปป่าวประกาศละคะ” ธมน กลอกตาอย่างเหลือเชื่อ เธอยั้งปากที่จะเอ่ยคำล่อแหลม ได้แต่คิดไว้ในใจอย่างหมั่นไส้ ‘คราบน้ำลายของคุณมันผสมไปกับน้ำทะเลแล้ว’
วิลเริ่มจะหงุดหงิดตัวเองที่จู่ๆ เขาก็เหมือนว่ากลายเป็นฝ่ายตอแยเธอ “แค่คำพูดใครก็พูดได้”
“แล้วคุณจะเอายังไง”
“เอายังไง...ทำไมผมต้องเป็นคนจะต้องเอายังไง” ให้ตายเถอะ! เขาตอแยเธอจริงๆ ขนาดตัวเขายังรู้สึกได้เลย แล้วเธอละน่าจะเริ่มรู้สึกแล้วเหมือนกัน เพราะเขาเริ่มไปไม่เป็นแล้ว...ก็บอกตามตรง ยังไม่เคยเจอผู้หญิงที่นอนกับเขาแล้วไม่คลั่งไคล้เขามาก่อน
“ฉันอยากให้คุณเชื่อว่าฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน คุณคงจะรวยมากฉันเข้าใจที่คุณต้องรู้สึกหวาดระแวง ให้ฉันสัญญาสาบานอะไรคุณก็คงไม่เชื่อ นอกจากว่าจะมีการพิสูจน์กันว่าฉันจะไม่มาแบล็คเมล์คุณ”
“พิสูจน์ยังไง”
“คุณก็แค่ให้ฉันลงจากเรือที่เกาะไหนสักเกาะ...ให้คุณเป็นคนเลือก และคุณก็จากไป”
ฮาฮาฮา วิลหัวเราะขบขันกับความคิดเธอ “แล้วถ้าผมเลือกเกาะร้างละ”
“ถ้าคุณจะเลือกเกาะร้างคุณก็คงไม่กระโดดไปช่วยฉันในทะเลหรอกคะ” .... เหตุผลของเธอทำเอาวิลนิ่งไปทันทีอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ไม่โง่เท่าไหร่นะ เธอเป็นนักเจรจาที่มีภูมิปัญญาขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว
“วทัญญู” ธมนกระพริบตาปริบๆ แถวนี้มีเกาะชื่อแบบนี้ด้วยเหรอ “ผมชื่อวทัญญู....” กรี๊ดดดดดดด จู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังกลบเสียงของวิลจนหมดสิ้น
“ไม่ไม่ไม่...ฉันไม่ได้ยิน...กรี๊ดดดดดด” ธมนก็แหกปากร้องดังลั่นจนวิลตกใจ และอดไม่ได้ที่จะแปลกใจว่าเธอไปเอาเสียงแปดหลอดนี้มาจากไหน วิลทนฟังต่อไม่ได้จึงต้องเลื่อนมือปิดปากกลบเสียงเธอ แต่เธอก็ยังตะเบ็งให้เสียงเล็ดรอดออกมาจนเรียวคอเล็กปูดโปนไปด้วยเส้นเอ็นเส้นเลือดอย่างเห็นได้ชัด
“หุบปาก...หยุดได้แล้ว” วิลพยายามตะโกนแข่งกับเสียงของเธอ “ถ้าไม่หยุดผมจะปล้ำคุณสองวันสองคืนไม่หยุดเลยนะ!!!”
“…!!…” และได้ผลในรอบเดียว ความเงียบปกคลุมพื้นที่โดยทันที
“ที่แหกปากเสียงดังขนาดนี้ คุณคิดว่าผมเป็นโจรผู้ร้ายหรือไง ที่เห็นหน้ารู้ชื่อแล้วตัวเองจะต้องกลายมาเป็นพยานชี้ตัว ดูซี่รี่ห์มากเกินไปมั้ย” ธมนเลื่อนตาไปทางอื่น ก็เธอคิดแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะ อาการแบบนี้เธอดูมาจากหนัง ถ้าไม่เห็นหน้าและไม่สามารถบอก อัตลักษณ์ของคนร้ายได้เธอก็จะไม่ใช่พยาน เธอก็แค่ลดความยุ่งยากในอนาคตต่างหาก คืนนั้นแม้เธอจะถูกวางยาแต่เธอก็รู้ว่าเขาใช้เกราะป้องกัน ก็ดีที่เขายังรู้จักป้องกัน ทั้งเขาและเธอก็ไม่มีทางติดโรคจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเธอในฐานะผู้หญิงแล้วการตั้งครรภ์อย่างไม่ตั้งใจเป็นเรื่องที่เธอไม่อาจแบกรับสู้หน้าคนในสังคมได้หรอก
“นี่! จะคุยกันแบบนี้อีกนานมั้ย ฉันหนัก”
“ทีคืนก่อนไม่เห็นบ่นแบบนี้เลย” ของที่มันเสียไปแล้ว มันก็คือเสียไปแล้วมั้ย ธมนอดทนไว้ อย่าให้เขารู้เป็นอันขาดว่าเธอเป็นใคร ธมนคิดคับแค้นอยู่ในใน
ส่วนวิลเมื่อพูดจบก็ยอมออกและเดินออกจากห้องไปทันที ผู้หญิงคนนี้ปากแข็งกว่าที่คิดไว้ บางทีเธอก็ใช้ความไร้เดียงสากลบเกลื่อน ให้เขาดันทุรังไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ในเมื่อเขาก็ไม่มีอารมณ์เรื่องอย่างว่าแล้ว...แน่ใจเหรอ! วิลย้อนถามตัวเองในใจ แต่เขาเริ่มเบื่อหน่ายที่จะตอแยเธอแล้ว
“ครับนาย” คนเรือที่เห็นเจ้านายเดินมาทางตน
“กลับเข้าฝั่งเลย” คนเรือขานรับและทำตามคำสั่งนั้นทันที วิลเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
“เรากำลังกลับเข้าฝั่งไม่เกินชั่วโมงก็ถึงแล้ว คุณจะไปสภาพแบบนี้เหรอ” วิลมองคนที่ยังนอนตากระพริบถี่ๆ บนเตียง ธมนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เธอซักล้างชุดชั้นในและกางเกงของตัวเองแล้วแต่มันคงแห้งไม่ทันแน่ๆ
“ไม่เป็นไรฉันมีกางเกงของฉัน แต่คุณทำเสื้อฉันขาดเพราะฉะนั้นฉันจะยึดตัวที่ใส่อยู่เป็นการชดเชย” วิลยกยิ้มมุมปากและพยักหน้ารับง่ายๆ อย่างยอมจำนนในหลักฐานการถูกกล่าวหา
“ตามสบายครับคุณผู้หญิง” วิลเดินไปเปิดตู้เลือกเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนและเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานเขาก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ และเขาก็กลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง รวบเสื้อผ้าของตนยัดลงกระเป๋าเดินทางจนหมดอย่างไม่สนใจที่จะจัดอะไรมากมาย เพราะเดี๋ยวก็มีคนมาจัดการต่อนั้นเอง ซึ่งจริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้าเองด้วยซ้ำ ที่ทำไปทั้งหมดก็แค่หาเรื่องอยู่ในห้องนี้ต่อก็เท่านั้น...และเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เพื่ออะไรก็ไม่รู้ แต่ก็เหมือนเดิมคือไม่อยากออกจากห้องนอนนี้ไป เพราะถ้าออกไปแล้วเขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลับมา
ธมนที่ยังนอนคลุมผ้าห่มอยู่ เธอไม่ได้หลับ แต่มองไปมองมา มองตามเขาในทุกอิริยาบถอย่างเปิดเผยอยู่เงียบๆ ตอนนี้เขาก็กลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง...เพื่อ?
อื้ม! ธมนกัดฟันเอาตัวเองออกมาจากใต้ผ้าห่ม แม้เธอจะดีขึ้น แต่ร่างกายเธอก็ไม่พร้อมรับกับอากาศเย็นยิ่งในตอนนี้ด้านนอกกับลมทะเลตอนกลางคืนแล้วนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว เธอจะสามารถหารถกลับโรงแรมได้มั้ย...เอาเถอะ! ลงจากเรือได้ก่อนแล้วกัน ที่นี่เมืองไทยภาษาเดียวกันคง
ไม่ยากที่จะจัดการได้หรอกนะ หาอะไรไม่ได้ไม่เจอก็ถามทางไปบ้านผู้ใหญ่บ้านแล้วกัน
ทางด้านวิลที่กลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง เขาก็นั่งบนฝาชักโครก ! และเหมือนว่าส้นเท้าจะสัมผัสกับอะไรบางอย่าง เขาจึงก้มมอง นี่มัน! กระเป๋าสะพายใบเล็กนี่น่าจะ...แน่นอนว่าไม่ใช่ของเขา วิลจึงเปิดมันทันที ธมน โชคเจริญภักดี ชื่อที่ปรากฎบนบัตรประจำตัวประชาชนอายุย่างยี่สิบเอ็ด รอยยิ้มเผยออกมาทันที เอาบัตรประชาชนเธอแยกไว้และวางกระเป๋าสพายไว้ ก่อนหน้านี้ทั้งเขาและเธอคงด้วย ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้ห้องน้ำนี้สักเท่าไหร่ ก็ไม่แปลกที่จะไม่เห็นสิ่งของที่ตกและกระเด็นไปอยู่ในซอกแคบๆ
“อยากรู้นักถ้าเธอไม่มีเงินจะหาวิธีไหนเดินทางกลับในที่ที่จากมาได้” วิลพึมพำกับตัวเอง และเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำและออกจากห้องไปไร้ซึ่งคำทักทายคนที่นั่งหน้าอ่อนเพลียบนเตียงที่มองตาปริบๆ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเห็นรอยยิ้มของเขานะ...เขาจะยิ้มทำไมกัน ในห้องน้ำนั้นมีอะไร
ธมนจึงขยับไม่เก็บความสงสัยไว้นานเข้าไปไขข้อสงสัยและสวมบราที่แม้จะชื้นแต่จำเป็น เธอเปลี่ยนมาสวมกางเกงของตัวเอง ขนอ่อนตามร่างกายลุกชัน เพราะความชื้นของเสื้อผ้าทำให้เธอหนาวสั่นขึ้นมาทันที ซื๊ดดดด สายตาก็สะดุดกับกระเป๋าของตัวเองควับ! เธอคว้ามาโดยที่ไม่ได้สนใจตรวจเช็คของข้างในเพราะตอนนี้เธอหนาวสั่น ซื๊ดดดด
ธมนมานั่งปากสั่นอยู่ในห้องนอนต่อ เธอพยายามทำให้ร่างกายอบอุ่นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรอจนกระทั่งความเร็วของเรือเริ่มลด
ลง เธอจึงรีบกระวีกระวาดสวมรองเท้าอย่างดีใจ และวิ่งออกจากห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว เร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว และสิ่งที่เธอต้องเห็นก็คือร่างสูงในชุดสีเข้มที่เขาเปลี่ยนก่อนหน้านี้ เธอไม่เถียงหรอกว่าเขายามที่แต่งตัวเป็นทางการมากขึ้นดูสง่างามและเต็มไปด้วยอำนาจ แม้เขาจะสวมแจ็คเก็ตทับ แต่เสื้อข้างในเขาก็ติดกระดุมไม่หมดเผยแผ่นอกกำยำชวนให้มองแล้วน้ำลายไหล แน่นอนว่าไม่ใช่เธอ
ธมนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ตอนนี้ความรู้สึกเดียวคืออิสรภาพ เธอรู้สึกแบบนั้นเลย คนเรือค่อยๆ เลี้ยวเรือเข้าจอดเทียบท่า และวิลก็เป็นผู้ก้าวออกจากเรือเป็นคนแรก เขาดึงเชือกและมัดเรือไว้กับท่า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็ผายมือให้เธอเป็นสัญญาณว่าเชิญลงมาได้แล้วนั่นเอง มีหรือว่าธมนจะรีรอ
อึ้บ! อุ้ย!!! แต่ด้วยอารามดีใจมากเกินไป จึงทำให้ขาเธอพลิก หมับ! แน่นอนว่าเธอไม่ล้มก้นกระแทกพื้นหรือหน้าคม่ำ เพราะมีร่างกำยำสูงเป็นสง่ารั้งรับไว้ทัน จึงทำให้ร่างเหน่งน้อยบอบอยู่ใต้วงแขนแข็งแรงนั้นอีกครั้ง
“ทำไมตัวถึงร้อนขนาดนี้”ประโยคที่ออกมาจากปากได้รูปของเขา
อื้ม! ธนมขานรับและรีบผละออกมาจากวงแขนกำยำที่อุ่นอย่างแปลกประหลาดนั้นในทันที ควับ! ธมนโค้งให้เขาหนึ่งที ก่อนจะวิ่งจากไปอย่างเร็วที่สุด ซึ่งวิลก็ไม่ได้รั้งเธอไว้ แม้สายตาที่มองตามแผ่นหลังบางนั้นไป จะเป็นห่วงอยู่กลายๆ แต่ถ้ายังวิ่งได้แบบนี้ก็คงไม่เป็นอะไรมาก วันนี้เขายอมปล่อยให้เธอจากไป เพราะถ้าเขาต้องการรู้ว่าบ้านเธออยู่ไหนก็ไม่ยากอยู่แล้ว ยิ่งยุคสมัยนี้ด้วยแล้ว บัตรประชาชนเธออยู่กับเขานี่น่า
“นายครับ รถที่มารับมารอแล้วครับ” วิลพยักหน้ารับรู้ และเดินไปเส้นทางเดียวกับที่ร่างบางวิ่งไปก่อนหน้านี้ แม้จะมีแสงจากดวงไฟตามสะพานอยู่บ้างแต่ก็ถือว่ายังมืดอยู่ดี
“คุณ คุณ คุณ” วิลได้ยินเสียงผู้ชายร้องเรียกใครสักคนอยู่ แน่นอนว่าไม่ใช่เขา รถคันนั้นมันคือรถที่ถูกส่งมารับพร้อมคนขับคนเดิม
“เกิดอะไรขึ้น”
“สวัสดีครับนาย” คนรถทำความเคารพวิล “คนเป็นลมนะครับ เธอวิ่งมาและจู่ๆ ก็ฟุบล้มไป ผมจึงพยุงให้เธอเข้าไปนั่งในรถนะครับ แต่เรียกเท่าไหร่เธอก็ไม่ตื่น” ความรู้สึกคุ้นๆ เกิดขึ้นทันที เขาจึงเดินเข้าไปมองให้เห็นชัดๆ ยังไม่ถึงห้านาทีเลยที่จากกัน เธอก็มาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าอีกแล้ว จะใช้คำไหนดีละ...ในที่สุดก็ไปไหนไม่รอด
“พากลับโรงแรมไปด้วยแล้วกัน”
“อ่อ คุณเอกเตรียมบ้านพักไว้ให้นายแล้วครับ ไกลจากที่นี่สักหน่อย แต่ก็ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากครับ” วิลพยักหน้า
“แล้วคุณเอกจะมาเมื่อไหร่” เนื่องจากขาดการติดต่อกัน เขาจึงไม่รู้การเคลื่อนไหวของเพื่อนนัก
“พรุ่งนี้สายๆ ครับ” วิลพยักหน้าและเข้าไปในรถ ธมนก็ยังไม่รู้สึกตัวและเมื่อคนขับรถปิดประตูรถกระเป๋าเดินทางของวิลก็มาถึงพอดีโดยคนเรือ ก่อนรถจะเคลื่อนไปคนเรือทำความเคารพวิลและวิลก็ให้สินน้ำใจเป็นพิเศษกับคนเรือไปเป็นแบ้งพันหลายใบ
ขณะที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวและเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางที่หมดสติก็โคลงเคลงไปโคลงเคลงมาจนวิลเห็นแล้วกลัวว่าเธอจะคอหักไปซะ จึงดึงร่างเธอมาและให้เธอนอนหนุนตักเขาไปตลอดการเดินทาง
