บท
ตั้งค่า

2. เมื่อหนึ่งปีก่อน (ภาคแรกพบ) [1/3]

ปิ้ง! เสียงเตือนข้อความเข้าเมื่อชายร่างสูงผิวขาวดวงตาเข้มภายใต้กรอบเลนน์แว่นดำ ที่เปิดโทรศัพท์หลังจากลงมาจากเครื่องบินที่โดยสารมานานกว่าสิบสองชั่วโมงแล้วจากนิวยอร์กปลายทางกรุงเทพมหานคร ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

‘ขอโทษทีว๊ะเพื่อน พอดีฉันมีปัญหาเกี่ยวกับงานที่ต้องจัดการด่วนหลายวัน ช่วงนี้แกไปเที่ยวพักผ่อนที่ภูเก็ตก่อน ฉันเตรียมทุกอย่างให้แกพร้อมเครื่องบรรณาการ(รับรองว่าเป็นในแบบที่แกชอบ) แล้วเจอกันที่ภูเก็ต’ ข้อความดังกล่าวทำให้วิลต้องมองหาคนที่จะพาเขาไปยังสนามบินสำหรับไฟล์บินในประเทศ

“คุณวิลนะครับ ผมถูกส่งมารับคุณไปต่อเครื่องที่สนามบินดอนเมืองครับ” วิลพยักหน้าและปล่อยกระเป๋าเดินทางของตนให้กับชายผิวเข้มอายุน่าจะสักสี่สิบได้แล้ว

การเดินทางอย่างต่อเนื่องแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่เมืองไทยที่เป็นบ้านเกิดของเขานั้น นี่เป็นการเหยียบแผ่นดินไทยครั้งแรกในรอบยี่สิบกว่าปีที่จากไป ตอนนั้นเขาน่าจะสักห้าขวบ พ่อเขาเสียไปตั้งแต่เขาอายุได้สามขวบ ซึ่งสองปีต่อมาแม่เจอกับรักครั้งที่สองกับแจ็คสัน แม่และเขาจึงย้ายไปอยู่กับแจ็คสันที่นิวยอร์กนับตั้งแต่นั้น ซึ่งก็ผ่านไป20กว่าปีแล้ว เขาได้เดินทางกลับบ้านเกิดเป็นครั้งแรกตามคำเชิญของเพื่อนรักที่เป็นคนไทย เอกหรือเอกรินทร์ แต่การเดิน

ทางมาครั้งนี้เผอิญเพื่อนเอกก็ติดงานด่วนจึงไม่สามารถมารับและดูแลเขาได้ตามที่นัดกันไว้

“คุณเอกได้เตรียมเรือยอร์ชไว้ให้คุณวิลล่องเรือเพื่อพักผ่อน แต่ท่านให้ทางคุณวิลตัดสินใจค่ะว่าจะล่องเรือทันทีที่มาถึงหรือจะพักโรงแรมก่อนสักหนึ่งคืน”

“ออกเรือเลยแล้วกัน” แสงสีเสียงสถานแหล่งบันเทิงสำหรับเขาไม่เคยขาดหายไปจากชีวิตยามที่เขาต้องพักผ่อน แต่คราวนี้เขาขอพักผ่อนแบบสงบพร้อมกับเครื่องบรรณาการเพื่อปลดปล่อยก็พอ

รถที่มารอรับที่สนามบินมุ่งหน้าสู่ท่าเรือโดยทันที สองฟากข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงและผืนท้องทะเล เขาจำเมืองไทยไม่ได้เลยจริงๆ

เมื่อมาถึงคนขับรถยกกระเป๋าของเขาลากไปตามสะพานปลาที่ทอดยาว ขายาวค่อยๆก้าวลงสู่ลำเรือ แต่ว่าคนเฝ้าเรือไปไหนละเนี่ย

ตึกตึกตึก ไม่ทันที่จะได้มองหา เสียงฝีเท้าของชายร่างสูงกำลังวิ่งมาทางนี้ วิลหรี่ตามองดูจากรูปร่างหน้าตาและการแต่งตัวแล้วไม่น่าจะใช่คนที่เขามองหา ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนหยุดเมื่อมาถึงสุดทางเหมือนกำลังมองหาอะไร แต่จะมีอะไรนอกจากเรือกับน้ำทะเล

วิลสบตากับชายร่างสูงบนสะพาน ทั้งสองไม่ทันจะเอ่ยอะไรเสียงฝีเท้าอีกคู่ก็กำลังวิิ่งมาทางนี้ วิลหันไปและคาดเดาได้ไม่ยากว่าคือคนที่เขามองหา

“ขอโทษครับนาย พอดีแถวนี้สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดีนะครับ”

“ไปเถอะ” วิลไม่ได้ถือสาหาความในเรื่องเล็กๆ คนขับรถเดินออกมาจากในเรือและกระซิบบางอย่างกับวิลซึ่งวิลแค่พยักหน้ารับรู้ คนขับรถที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วจึงลากลับ ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของคนเรือที่กระวีกระวาดปลดเชือกผูกเรือ วิลยังยืนอยู่แถวกาบเรือไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปด้านใน แม้จะรู้ว่าเครื่องบรรณาการจะมารอแล้ว เรือค่อยๆห่างออกจากฝั่งอย่างช้าๆ ลมทะเลทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งผ่อนคลายความอ่อนล้าจากการเดินทางอย่างยาวนานได้ไม่น้อย

“โธ่เว้ย!!!!” เสียงคำรามที่ลอยมาตามลมของชายร่างสูงบนสะพานเข้าหูวิล แต่ธุระไม่ใช่ วิลจึงหันกลับไปมองผืนท้องทะเลที่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนสีเมื่อเข้าสู่ยามเย็น

ซู่ซู่ซู่ เสียงน้ำในห้องน้ำขนาดเล็กยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง หญิงสาวที่อยู่ด้านในไม่สนใจว่าน้ำจืดบนเรือแบบนี้มีจำนวนจำกัด เพราะตอนนี้เธอรุ่มร้อนเหมือนร่างกายเธอจะระเบิด ฮื้อฮึกฮื้อ เสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นไว้ก็ยังดังเล็ดรอดออกมา

ร่างบางที่เปียกปอนนั่งกอดเข่าตัวเองไว้แน่น ใบหน้าทรุดแนบกดลงระหว่างเข่า ถ้ามองจากที่ไกลๆ ร่างนี้ก็เหมือนก้อนกลมๆ ขาวๆ มากกว่าจะเป็นร่างกาย เธอตัวสั่นไม่ใช่เพราะหนาว ตรงกันข้ามเธอร้อนดั่งถูกไฟเผาและเหมือนถูกเข็มเป็นร้อยเป็นพันทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา เธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้เธอจะถูกวางยาบ้าๆ แบบนั้น

ณ ร้านอาหารไม่ไกลจากที่นี่นัก เธอก็แค่มาพักผ่อนตามคำแนะนำของคุณย่าที่อยากให้เธอมาเที่ยวทั้งๆ ที่เธอเองก็ปฎิเสธ แต่ท่านบอกว่าได้แพ็คเกตฟรีมาทิ้งไปก็เสียดายเธอเลยยอมตกลง ทั้งๆที่แอบแปลกใจไม่น้อยว่าอย่างคุณย่าเนี่ยนะจะสนใจของฟรี แต่สิ่งที่เหนือการคาดหมายคือการได้พบกับอิทธิที่นี่ เขาบอกว่าบังเอิญ ตอนแรกเธอก็เชื่อ แต่พอเธอได้ยินพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งคุยโทรศัพท์กับใครสักคนด้วยอารามดีใจที่ได้ทิ๊ปพิเศษจากการใส่บางอย่างในเครื่องดื่มของเธอ เมื่อได้ยินแบบนั้นในตอนนั้น เธอจึงรีบออกจากร้านมาทันทีหลังจากที่รู้ตัวว่าได้ดื่มน้ำแก้วนั้นไปแล้ว เลวจริงๆ แต่เธอก็ไม่อาจไปแหกปากร้องกับใครได้ มีทางเดียวคือต้องหนี หนีให้ไกลจากคนพวกนั้นรอจนกว่ายาจะหมดฤทธิ์ แต่โอ้ยยยย....มันช่างทรมานเหลือเกินเธอกินไปมากแค่ไหนกัน หรือเด็กเสิร์ฟนั้นใส่ไปมากเกิน เธอจะหัวใจวายตายก่อนไม่นะ! เพราะตอนนี้ร่างกายเธอปวดร้าวไปหมดหัวใจเธอก็เต้นแรง เหงื่อตามร่างกายผุดขึ้นมาจนแยกไม่ออกว่าน้ำบนร่างกายเธอตอนนี้ คือน้ำที่เธอราดตัวเองหรือเหงื่อกันแน่

!!! เสียงฝีเท้าจากด้านนอก ทำให้ธมนเงยหน้าขึ้นมา ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อมองคนที่ยืนอยู่ตรงขอบประตู เขามองเธอแต่เธอเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก เพราะดวงตาเธอพร่ามัว แต่เธอก็ยังสามารถแยกเพศได้

‘ให้ตายเถอะ! ไอ้เอกเล่นพิเรนไปหรือเปล่า’ สิ่งที่วิลคิด เพราะเขาไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะมองไม่ออกว่าเธอกินยามา เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติในแวดวงอาชีพแบบนี้

ผลั่ก ผลั่ก วิลเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำ ในนี้ไม่ได้กว้างมากนัก

พอเขาเข้ามาห้องก็ไม่เหลือพื้นที่แล้ว เขานั่งชันเข่าข้างหนึ่งยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้คนตรงหน้ามากขึ้น “โชคดีที่ฉันเข้ามาเร็ว ทำไมผู้หญิงแบบเธอถึงใจกล้าขนาดนี้” วิลเอ่ยเสียงบางเบาแต่เธอก็ได้ยินชัดเจน แม้ร่างกายจะปวดร้าวทรมาน

“ชะ...ช่วยด้วย” วิลยกยิ้มมุมปากอย่างเข้าใจ มันหน้าที่เขาอยู่แล้วตอนแรกกะจะนอนพักสักสองสามชั่วโมงแล้วค่อยบรรเลงเพลงสวาทกับเธอ แต่เสียงอ้อนวอนฟังแล้วช่างน่าสงสารนัก

วิลพิจารณาใบหน้าหญิงสาว แก้มเธอแดงเพราะฤทธิ์ยา ดวงตาพราวระยับด้วยหยาดน้ำตา คงอดทนมาได้สักพักแล้วสินะ รูปร่างบอบบางดูน่าทนุถนอม มือเรียวใหญ่รูปไล้ใบหน้าอย่างอ่อนโยน แม้เธอจะน่าทนุถนอมแค่ไหนแต่เธอก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ปลายนิ้วไล้ลงมาที่ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อ วิลไม่ปกปิดความพึงพอใจต่อเครื่องบรรณาการชิ้นนี้เลย

แม้ดวงตาเธอจะแพรวพราวเพราะหยาดน้ำตา ซึ่งในตอนแรกเธอมองเห็นเขาไม่ชัด แต่ตอนนี้เขาอยู่ใกล้เธอมาก มากจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของเขาที่เป่ารดเธอ ซึ่งเธอไม่ชอบแววตาที่เขามองมา รวมไปถึงสัมผัสของเขาด้วย

พรึ่บ! วิลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อจู่ๆ มือเขาก็ถูกมือเล็กปัดทิ้งไป ดูจากแววตาของเธอตอนนี้ เขาเข้าใจผิดหรือเปล่าว่าเธอกำลังโกรธ ก็น่าจะเป็นไปได้เพราะถ้าสาเหตุเพราะเขาเข้ามาช้าเกินไป ยามงอนก็ดูน่ารักมาก

พึ่บ ธมนพยายามจะลุกแต่เธอก็แทบจะขยับร่างกายไม่ไหว หรือเลือดในร่างกายเธอแข็งตัวไปแล้ว อึ้บ! วิลช้อนร่างเธอขึ้นและพาออกมาจากห้องน้ำอย่างใจดี

อื้ม! ธมนร้องออกมาเมื่อเธอถูกโยนลงบนเตียงนอนแม้ไม่รุนแรง แต่เธอก็รู้สึกไม่ดี ดวงตากลมโตค่อยๆ เปิดขึ้นมา และต้องเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อเขากำลังถอดเสื้อของเขา

“อย่า!…” เสียงที่เปล่งออกมาอย่างดัง นั่นคือสิ่งที่ธมนคิดว่าใช่ แต่จริงๆ แล้วเสียงห้ามนั้นมันอยู่แค่คอของเธอ อื้ม!!! เสียงครางที่พยายามปฎิเสธสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อร่างสูงเปลือยท่อนบนขยับขึ้นมาบนเตียง ฝ่ามือทั้งสองของเขากำลังวุ่นวายกับเสื้อของเธอธมนพยายามกำเสื้อที่กำลังจะหลุดออกจากร่างกายไว้แน่น แต่แรงเท่ามดของเธอก็ไม่อาจไปทัดทานแรงของเขาได้

พั่บ ร่างบางถูกจับให้นอนหงายแขนทั้งสองถูกกดไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของเขา ผิวขาวเนียนของเธอที่แดงเพราะฤทธิ์ยาตอนนี้คงแดงมากขึ้น เมื่อถูกดวงตาเข้มจับจ้องมองและฉายแววแห่งความพึงพอใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง “สวยมาก” เสียงพึมพำของเขา

วิลมองเรือนร่างเกือบเปลือยท่อนบนของเธอ เขาปฎิเสธไม่ได้ว่าสินค้าที่ถูกเลือกมาเพื่อเขาชิ้นนี้น่าจะระดับพรีเมี่ยมเลย แม้เธอจะไม่ได้สวยอวบอิ่มจนโดดเด่น แต่ยิ่งพิศนานเข้าก็ยากที่จะละสายตาออกไปได้

“ถ้าทำตัวดีๆ บางทีฉันอาจจะเลี้ยงเธอไว้ดูเล่นก็ได้นะ” สิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่คิดตรงกัน เพราะใครก็ตามที่รู้จักเขาจะรู้ว่าคนอย่างเขาไม่เลี้ยงผู้หญิงไว้ให้รำคาญใจ เขามันประเภทต้องการก็เรียกมา จ่ายเมื่อเสร็จกิจและต่างก็แยกทางกันไป ไม่ติดต่อไม่แลกเบอร์หรือช่องทางไหนๆ ในการติดต่อระหว่างกันทั้งนั้น

“ยะ…อื้มมมม” เสียงที่พยายามจะร้องห้ามกลับถูกกลบปิดด้วยริมฝีปากหยักอย่างไม่ทันตั้งตัว สัมผัสที่ไม่ได้นุ่มนวลนัก ทำให้ธมนรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปาก เมื่อเขาทั้งกัดและดูดริมฝีปากเธออย่างกับคนตายอดตายอยากเรื่องอย่างว่ามานาน แต่วิลกลับไม่คิดแบบนั้น แม้เธอจะบอบบางแต่สิ่งที่เขาทำกับเธอคือสิ่งที่เธอรู้และมีประสบการณ์มาแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องพิธีการอะไรมากมาย หน้าที่เธอคือรองรับการปลดปล่อยจากร่างกายเขาก็เท่านั้น

เรียวลิ้นหนาล่วงล้ำเข้าสู่โพรงปากเล็กความหอมหวานที่เกิดขึ้นมากมายจะว่าไปมากกว่าครั้งไหนๆ เท่าที่เขาเคยรู้สึกมาเลย เธอไม่ได้ตอบสนองกลับอย่างเชี่ยวชาญ ในทางตรงข้ามเธอกลับไร้เดียงสามากกระตุ้นอารมณ์ความเป็นชายของเขาได้เร็วเกินคาด ซึ่งเป็นความแปลกใจที่เขาขอเก็บไว้ในใจเงียบๆ เพราะถ้าเป็นการแสดงถือว่าเธอประสบความสำเร็จ มอบรางวัลออสก้าสาขานี้ให้เธอได้เลย

จ๊วบ! เสียงดูดดื่มความหวานกันและกัน แบบนั้นไม่ถูก! ถ้าบอกว่าเป็นเสียงตักตวงความหวานที่เขากระทำกับเธอแบบนั้นถึงจะถูก เพราะเขาเชื่องช้ารีรอไม่อิ่ม หรือพอใจที่พร้อมจะละจากโพรงปากหวานไปยังที่จุดอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองไม่น้อยเช่นกันได้ง่ายๆ แต่เมื่อเธอเริ่มเสียระบบการหายใจ เขาจำต้องละออกมาเพื่อเปิดช่องปากให้กับเธอได้หายใจช่วยจมูกโด่งเล็กๆ ที่เห็นแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อขบกัดสร้างความสั่นสะท้านเสียววูบวาบให้กับทั้งเธอและเขาอย่างช่วยไม่ได้

เฮ่อเฮ่อ ธมนหอบหายใจหนักขึ้น แม้ความเจ็บปวดก่อนหน้านี้จะจางลงเพียงเพราะสัมผัสจากเขาเมื่อครู่ คงเพราะร่างกายหลั่งสาร

อะดรีนาลีนแห่งความสุข มันคงเป็นยาบรรเทาอาการพิษร้ายจากยาที่เธอกินไปอย่างแน่นอน แต่มันคงยังไม่มากพอเพราะเมื่อร่างกายเธอไม่ไดรับสัมผัสจากเขาอาการปวดร้าวก็เหมือนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเธออยากจะอดทนกับมันมากกว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อจากนี้

จุ๊บ เสียงริมฝีปากหยักยามต้องสัมผัสกับพื้นผิวคอเล็ก จมูกโด่งไต่เลื่อนดอมดมสูดกลิ่นหอมจากเรือนกายสาวกลิ่นน้ำหอมมีระดับผสมกับกลิ่นกายเธอมันช่างดีจริงๆ เธอมีกลิ่นเฉพาะตัวที่เขาไม่อาจปฎิเสธได้ว่าเขาเองก็ชอบกลิ่นแบบนี้ บางครั้งเขาต้องปล่อยผู้หญิงบางคนที่เรียกมาเพียงเพราะน้ำหอมที่ใช้มันไม่น่าพิศมัย

มือเล็กทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าไร้การพันธนาการไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอมารู้ตัวตอนที่เนินเต่งตึงทั้งสองถูกกอบกุมด้วยฝ่ามือร้อนแรงจนทะลุผ่านเนื้อผ้าบราลูกไม้ เธออ่อนแรงหรือไม่อยากขัดจังหวะของเขา ที่ทั้งปลายจมูกปลายลิ้นลากไล้ดูดดื่มดอมดมผิวนุ่มกระตุ้นร่างกายหลั่งสารความสุขบรรเทาความปวดร้าวที่มันค่อยๆ ลดน้อยลง ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร และความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอไม่สงบเลย ร่างกายเธอขยับกระสับกระส่ายเนินเนื้อทั้งสองกระเพื่อมขึ้นลงหนักขึ้นตามแรงการหายใจที่เธอไม่พอใจกับมันสักที จึงไม่พร้อมที่จะหยุดโดยหารู้ไม่ว่าเธอกำลังยั่วยวนเขา

พึ่บ บราตัวบางถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว ลมหายถี่ร้อนพ่นออกมาอย่างไม่อาจกักกั้น ยอดเกสรสีชมพูอ่อนบนเนินเต่งตึงที่เนียนขาวละเอียดทุกอย่าง ที่สะท้อนบนดวงตาคมกร้าวมันช่างสวยงามจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel