ตอนที่3
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..ทำไมๆ..ฮือๆๆๆ”
น้ำอิงนอนกอดหมอนะอื้นให้จนหลบไปด้วยอาการเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจ
วันต่อมา
08.00 น.
“ป้าจันทร์คะพี่อาชน์ไม่ทานข้าวเช้าหรอคะ”
อัญญาลงมารอพี่ชายเธอทานข้าวพักใหญ่แล้วแต่ไม่เห็นว่าพี่ชายเธอจะลงมาทานข้าวเช้าเสียทีจึงต้องถามจันทร์วาดหญิงวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน
“คุณอาชน์บินไปที่เหนือตั้งแต่เมือคืนแล้วค่ะ”
จันทร์วาดหันมาบอกคุณหนูของเธออมยิ้มเล็กน้อยครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่อัศวินนั้นไปไหนไม่บอกกล่าวน้องสาวอีกตามเคย
“อ้าว..อายไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
อัญญานั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โต๊ะอาหารอีกตามเคยวันนี้เธอกะว่าจะคุยเรื่องขอเบิกเงินกับพี่ชายของเธอสักหน่อยเชียวแต่ถ้าหากเป็นแบบนี้เธอจะรอคุยต่อหน้าไม่ได้เธอต้องคุยตอนนี้เลยเพราะเพื่อนเธอจำเป็นต้องใช้เงินถึงแม้ว่าน้ำอิงจะปฏิเสธแต่ยังไงหากเธอเอาเงินไปยื่นให้กับมือแล้วเพื่อนเธอก็ต้องรับความช่วยเหลือเป็นแน่
“...รับสิพี่อาชน์...”
อัญญาต่อสายหาพี่ชายเธอหลายสิบสายก็ไม่เคยจะติดแม้แต่เบอคนสนิทอย่างล็อบซ์ในตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันถึงได้ทำตัวลึกลับติดต่อยากขนาดนี้
ตลาดเช้า
ตลาดเช้าในชุมชนตอนนี้คนจอกแจกจอแจจับจ่ายซื้อของกันอย่างเจ้าละหวั่นเป็นเวลาที่ขายดีมากหากใครขายของเวลานี้ติดที่น้ำอิงไม่มีที่ที่นี่ให้เช่าเท่านั้นจึงได้เพียงแต่ขายช่วงเย็นได้อย่างเดียวตลาดสดที่นี่มีของให้ซื้อแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลเนื้อของสดของแห้งผักปลาผลหมากรากไม้รวมไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ในครัวและเสื้อผ้าคนส่วนมากจึงเลือกมาที่นี่ที่เดียวจบเรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของทุกอย่างก็ว่าได้
วันนี้เป็นวันที่น้ำอิงจะต้องมาซื้อกับข้าวเองเพราะปกติจะเป็นหน้าที่ของโอบน้องชายของเธอเพราะเธอต้องรีบทำงานบ้านและหาซื้อวัตถุดิบมาทำของขาย
หญิงสาวเดินเลือกซื้อกับข้าวเพียงแค่อย่างสองอย่างเท่านั้นเพราะเธอทานเพียงแค่คนเดียวคงอยู่ได้เป็นวันหญิงสาวเดินเชื่องช้าเหมือนคนไร้วิญญาณและไม่รู้ว่ากับข้าวที่ซื้อไปเธอจะกินมันลงหรือป่าว
“อ้าวอิงวันนี้มาซื้อกับข้าวแทนน้องหรอ”
แม่ค้าแผงผลไม้ที่รู้จักกับทั้งน้ำอิงและโอบตั้งแต่เด็กๆเมื่อเห็นหญิงสาวเธอก็ต้องทักเพราะนานๆทีจะเห็นน้ำอิงมาเดินซื้อกับข้าวเห็นปกติจะเป็นน้องชายของเธอเสียมากกว่า
“...วันนี้โอบไม่สบายนิดหน่อยจ่ะป้า...”
น้ำอิงหลุดจากภวังค์หยุดชะงักการเดินด้วยเสียงของป้าที่ร้านขายผลไม้เธอหันไปตอบคำถามหญิงวัยกลางคนด้วยใบหน้าอมยิ้มเล็กน้อยเพราะไม่อยากแสดงอาการกังวลใจอะไรมากนัก
“หรอ..หายไวๆนะ”
หญิงวัยกลางคนตอบกลับมาเสียงดังอวยพรให้โอบหายไวๆตามประสาคนเคยเห็นกันมานนานแล้ว
“ป้าเอาทุเรียนลูกนึง”
ในขณะที่น้ำอิงกำลังคุยกับป้าขายผลไม้ก็มีผู้หญิงสาวสวยใส่ส้นสูงแต่งตัวดูสง่าสะดุดสายตามาสั่งผลไม้น้ำอิงจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อมะลิเป็นพี่สาวข้างบ้านเธอที่แก่กว่าเธอหลายปีอยู่เหมือนกันและก็ไม่ได้อยู่ที่แถวนี้หลายปีแล้วด้วยเธอไม่รู้ว่าหญิงสาวไปทำอะไรมาถึงได้ดูราศีจับขนาดนี้
“หูยแม่คุณนายกลับบ้านมาทีแบรนด์เนมทั้งตัวเลยนะ”
ป้าขายผลไม้เอ่ยหยอกเย้าเล่นกับเด็กแถวบ้านที่ไม่เจอกันนานกลับมาทีก็มีแต่ของแพงๆทั้งตัว
“คนมันล่ำซำนี่นะป้า”
“แหมๆ..จ้าแม่คนรวย”
“....”
น้ำอิงยืนมองมะลิด้วยสายตาสงสัยและอยากจะรู้ว่ามะลิทำงานอะไรถึงได้มีเงินเยอะแยะจนประโคมตัวเองด้วยของแพงๆได้ขนาดนี้ถึงเธอจะไม่เคยซื้อเคยจับแต่เธอก็มองออกว่ามันเป็นของแบรนด์แพงๆทั้งนั้นเพราะเธอเคยเห็นทั้งผักหวานและอัญญาเพื่อนเธอใช้เป็นประจำ
“อ้าวอิงไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนะเรา”
“จ่ะพี่มะลิ..”
น้ำอิงกำลังจะเปิดประตูบ้านแต่ก็ต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงใครบางคนข้างบ้านเรียกเธอเอาไว้ซะก่อน
“ว้าย..เรียกพี่แจสมินสิจ้ะพี่มีชื่อใหม่แล้วนะ”
มะลิเดินมาหาน้ำอิงพร้อมบอกให้หญิงสาวเรียกชื่อของเธอใหม่เพราะเธอไม่ได้ใช้ชื่อนี้มานานหลายปีมากแล้ว
“จ่ะพี่แจสมิน”
“เอาผลไม้ไปกิน”
มะลิยื่นถุงผลไม่ให้น้ำอิงแบ่งปันของเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นอย่างที่เธอชอบทำเป็นประจำตั้งแต่เด็กๆ
“เอ่อ..ขอบคุณจ่ะพี่”
น้ำอิงรีบยกมือไหว้มะลิและรับถุงผลไม้ของหญิงสาวมาถือไว้ในมือ
“ตอนที่น้าสอางค์เสียพี่ไม่รู้เลยเสียใจด้วยนะ”
มะลิเองก็พึ่งจะรู้ข่าวว่าแม่ของน้ำอิงนั้นเสียไปแล้วสอางค์ก็เปรียบเหมือนญาติผู้ใหญ่ของเธอคนนึงเมื่อเด็กๆมีอะไรก็มาให้เธอกินตลอดเพราะเธออยู่ข้างๆบ้าน
“จ่ะ..พี่แจสมินไม่ได้อยู่ที่นี่หลายปีกลับมาก็ดูอู้ฟู่ได้งานทำดีมากเลยใช่มั้ยจ้ะ”
น้ำอิงตัดสินใจถามมะลิว่าเธอนั้นไปทำงานอะไรถึงได้มีเงินเยอะขนาดซื้อของฟุ่มเฟือยพวกนี้ได้ขนาดนี้
“เอ่อ..พี่จะตอบยังไงดีล่ะ..เงินน่ะมันดีแต่งานที่พี่ทำมันไม่ใช่งานประจำเราก็ต้องขยันรับงานน่ะ”
มะลิสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อยเมื่อโดนถามเรื่องงานแต่เธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะบอก
“ฟรีแลนซ์หรองานอะไรคะอิงอยากทำบ้างตอนนี้อิงต้องหาเงินค่ารักษาน้องชายอิงเป็นแสนเลยพี่แจสมินช่วยหางานให้อิงหน่อยนะจ้ะ”
น้ำอิงเห็นว่ามันไม่ใช่งานประจำแต่ได้เงินดีตอนนี้เธอก็เรียนจบแล้วอยากจะทำบ้างจึงขอร้องให้มะลิช่วยทั้งที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคืองานอะไร
“อิงแน่ใจนะว่าอิงจะทำ”
“ค่ะ”
“งานที่พี่ทำก็คือ..บราๆๆๆ...อิงทำได้ใช่มั้ย”
มะลิเห็นแววตาที่แน่วแน่ของน้ำอิงเธอจึงกระซิบบอกว่างานที่เธอทำมันคืออะไรทำเอาน้ำอิงยืนอ้าปากค้างกลืนน้ำลายไม่ลงคอเลยทีเดียว
“..ค่ะ..อิงทำได้ค่ะ”
น้ำอิงถอนหายใจเฮือกใหญ่จนตัดสินใจในเวลาไม่กี่นาทีต่อมาว่าเธอตกลงจะทำขอแค่ได้เงินเร็วๆด้วยตัวเองให้เธอเหนื่อยแค่ไหนหรือจะต้องอายแค่ไหนเธอก็ยอมขอแค่รักษาชีวิตของน้องเธอเอาไว้ได้
“งั้นเย็นนี้พี่จะพาไปฝากงานให้...พร้อมนะ”
