บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ทุบให้แหลก (TW ทำร้ายร่างกาย)

เมื่อหลี่เจี้ยนถูกลากตัวออกไป ในห้องจึงเหลือเพียงหลี่ฉางที่มีสีหน้าโกรธจัด

ฟางหรงซินแสร้งเม้มปาก ดึงคอเสิ้อตัวเองแน่น ทำตัวอ่อนแอราวกับลูกแมว “คุณจะทำอะไรน่ะ อย่าตีฉันเลยนะ!”

หลี่ฉางถีบประตูปิดดังปัง ใบหน้าเย็นชาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“หุบปากไปซะ ชื่อเสียงน้องชายฉันเสียหายเพราะเธอหมดแล้ว ทำไมต้องร้องโวยวายขนาดนี้ด้วย!”

น้ำเสียงเขาเย็นยะเยือก ราวกับไม่ใส่ใจเลยว่าภรรยาตนจะถูกน้องชายลวนลาม ตรงกันข้ามกลับห่วงแค่ว่าชื่อเสียงของน้องจะเสียหาย

ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ความคิดช่างบิดเบี้ยวไม่แพ้กัน

อาจเพราะคอเสื้อเธอแหวกอยู่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนบริเวณหน้าอก ทำให้หลี่ฉางเห็นแล้วก็รู้สึกเกิดอารมณ์ร้อนรุ่มขึ้นมาแทนที่ความโกรธ แทนที่จะลงไม้ลงมือ กลับจะพุ่งเข้ามากอด หวังจะกดเธอลงบนเตียง

ฟางหรงซินเห็นดังนั้น ก็ไม่รีรอ ยกเท้าถีบเป้ากางเกงของหลี่ฉางอย่างแรง!

เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะร้องเสียงดัง เธอจึงหยิบถุงเท้ามายัดปากเขา แล้วทั้งตบทั้งต่อยอีกฝ่ายโดยไม่ออมมือสักนิด

ในห้องพลันมีเสียงดังโครมคราม ทั้งเสียงเก้าอี้ล้ม เสียงร้องอู้อี้ปนเสียงทุบตีระงม

ขณะนั้นหลี่เจี้ยนที่เพิ่งถูกพ่อแม่ลากออกมายังพยายามอธิบายว่า เขาไม่ได้ลวนลามพี่สะใภ้จริงๆ

“อาเจี้ยน แม่รู้ว่าเมื่อก่อนแกกับลูกสาวบ้านฟางอาจจะสนิทกันบ้าง แต่ตอนนี้เธอเป็นเมียพี่ชายแกแล้ว อย่าได้คิดอะไรนอกลู่นอกทางอีก ครั้งนี้แม่จะไม่ถือสา ถ้ามีอีกเมื่อไร ไม่ใช่แค่แกที่เสียชื่อเสียง แม่จะให้พี่ชายตีแกจนตายเลย!”

พูดจบก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “แม่เห็นว่านางหนูเหมยกุยหน้าแดงวิ่งหนีไป แกรีบตามไปดูหน่อยเถอะ บ้านเขามีญาติเป็นทหาร ดูมีอนาคต เธอต่างหากที่เหมาะสมกับแกจริงๆ รีบไปเร็วๆ เข้า”

ฉีกุ้ยหลันรีบผลักลูกชายให้ไปตามหาไป๋เหมยกุย

ฝูงชาวบ้านที่รายล้อมเริ่มซุบซิบนินทา

“นี่ก็ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เห็นกันชัดๆ ว่าหลี่เจี้ยนลวนลามเมียพี่ชาย แต่ดันให้พี่ชายลงโทษเมียตัวเองซะอย่างนั้น!”

หลี่ต้าเฟิงจ้องมองชาวบ้านตาเขม็ง พูดเสียงเข้ม “ไปๆๆ เรื่องในบ้านฉัน พวกแกยุ่งอะไรด้วย…บ้านไหนก็ตีเมียกันทั้งนั้นแหละ แกเองก็เคยตีเมียใช่ไหม…นี่มันแค่เรื่องในบ้าน ตำรวจก็ทำได้แค่ไกล่เกลี่ย ไม่มีใครช่วยอะไรได้หรอก”

แม้ตอนนี้จะเป็นปี 1980 บ้านเมืองเจริญขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน แต่หมู่บ้านตงหู่เป็นหมู่บ้านยากจนและห่างไกล หากจะเข้าตัวเมืองต้องเดินเท้า 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ระบบการจัดการจึงยังคงล้าหลัง

ไม่กี่เดือนก่อนเคยมีภรรยาของคนในหมู่บ้านโดนสามีทุบตีแล้วไปแจ้งความ

ตำรวจมาก็แค่ตักเตือนปากเปล่า

พอตำรวจกลับ ภรรยาคนนั้นก็โดนทุบตีอีกรอบ

หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ไปร้องเรียนอะไรอีก

ชาวบ้านได้ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ เรื่องนี้ตำรวจยังทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาที่เป็นชาวบ้านธรรมดาจึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเช่นกัน

แต่ครั้งนี้หลี่ฉางทุบตีภรรยาเสียงดังลั่นบ้าน พวกเขาชาวบ้านฟังอยู่ด้านนอกยังรู้สึกเจ็บแทน คิดว่า ฟางหรงซินคงจะไม่รอดแน่!

แต่ตอนที่ประตูก็เปิดออก พวกเขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าหลี่ฉางหน้าตาบวมปูดคลานออกมาจากห้อง

“พ่อครับ! แม่ครับ! ช่วยผมด้วย! เธอจะฆ่าผมแล้ว!”

หลี่ฉางอาศัยจังหวะที่ฟางหรงซินหยุดพัก รีบคลานไปถึงประตูแล้วหนีออกมา

ตอนนี้ใบหน้าเขาบวมช้ำจนแทบจำไม่ได้ ขาก็ดูเหมือนจะหักไปข้างหนึ่ง ถ้าโดนอีกนิด คงตายแน่

หลี่ต้าเฟิงกับฉีกุ้ยหลันมองลูกชายแล้วตะลึงงัน หันขวับไปมองฟางหรงซินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ!

ฟางหรงซินเดินออกมาจากบ้านพลางลูบมือไปมา พูดด้วยหน้าตาใสซื่อ “ไม่รู้เป็นอะไร วันนี้ฉันแรงเยอะมากเป็นพิเศษ แต่เพราะว่าเขาจะตีฉันก่อน ฉันก็แค่ป้องกันตัวเท่านั้น สุดท้ายกลายเป็นแบบนี้เฉยเลยค่ะ”

ฉีกุ้ยหลันรีบประคองลูกชายขึ้นมานั่ง แววตาเต็มไปด้วยความแค้น

หลี่ต้าเฟิงก็โกรธจัด สั่งหลี่เฉิงลูกชายคนโตให้ไปลงมือ “ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะเก่งกาจเท่าไหร่กันเชียว ลูกชายคนโตของฉันตัวใหญ่ขนาดนั้น ต้องจัดการเธอได้อยู่หมัดแน่!”

หลี่เฉิงรับคำสั่งของพ่อฟาดมือใหญ่เหมือนใบพัดเข้าใส่หน้าของน้องสะใภ้คนใหม่ทันที

แต่ฟางหรงซินที่เพิ่งกินยาเม็ดเพิ่มกำลังภายในเข้าไป เธอใช้แค่เพียงสองนิ้วก็ดันมือเขาออกได้อย่างง่ายดาย แถมสวนกลับด้วยการตบหน้าหนึ่งฉาด

แม้จะดูเหมือนไม่แรง แต่หลี่เฉิงถึงกับถอยไปหลายก้าวจนเกือบล้มลง

“อ๊า~!” ฝูงชนพากันอ้าปากค้าง

“แข็งแรงอะไรขนาดนั้น!”

คราวนี้บ้านหลี่เจอคนจริงเข้าแล้ว

หลี่ต้าเฟิงผู้เป็นพ่อยังคงไม่ยอมแพ้ คิดว่าแม้ตัวเองจะแก่แต่ก็ยังแข็งแรง สมัยหนุ่มๆ แบกของได้ตั้งเป็นร้อยกิโล เขาจึงพุ่งหมัดเข้าใส่เธอแบบเต็มแรง

ฟางหรงซินเบี่ยงตัวหลบอย่างคล่องแคล่ว ทำให้หมัดของชายวัยกลางคนพลาดไปกระแทกเสาบ้านแทน

แรงกระแทกสะท้อนกลับ ทำให้เขากระเด็นไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ไกลหลายเมตร

กร๊อบ~~

ทุกคนยังได้ยินเสียงกระดูกแตกด้วย

ลานบ้านเต็มไปด้วยเสียงโอดครวญของพ่อและลูกชาย

ฉีกุ้ยหลันร้องตะโกนใส่พวกที่ยืนมุงดู

“พวกแกยังมีความเป็นคนอยู่ไหม…จะปล่อยให้หล่อนซ้อมคนในบ้านฉันแบบนี้หรือไง… ใครก็ได้ ช่วยหน่อยสิ! ไม่ช่วยก็ไปแจ้งตำรวจก็ยังดี!”

แต่ชาวบ้านแค่เหลือบตามองกันไปมา ไม่มีใครกล้าขยับ

ก็เมื่อสักครู่นี้ หลี่ต้าเฟิงบอกเองว่าเป็นเรื่องในครอบครัว คนนอกไม่ควรยุ่งไม่ใช่หรือไง!

ฟางหรงซินเดินออกมาที่ลานบ้าน หยิบก้อนหินขนาดใหญ่ ยกขึ้นด้วยมือเดียว แล้วส่งยิ้มหวาน

“เรื่องในครอบครัว จะเรียกตำรวจทำไมกันละคะ…ตำรวจก็ทำได้แค่ไกล่เกลี่ย ไม่มีใครช่วยอะไรได้หรอกค่ะ!”

ฟางหรงซินพูดซ้ำคำพูดของหลี่ต้าเฟิง

ชาวบ้านเห็นพละกำลังของเธอก็ไม่มีใครขยับเข้าไปช่วยเพราะกลัวว่าจะโดนลูกหลงเข้า

ราวหนึ่งชั่วโมงถัดมา ฉีกุ้ยหลันรีบบอกลูกชายคนเล็กให้ไปหาเกวียนวัว เพื่อพาสามีและลูกชายไปโรงพยาบาลในเมือง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel