ตอนที่ 1 เอาชีวิตแทบไม่รอด
~~แฮ่~~~ กรรรร~~~
เสียงคำรามของซอมบี้ดังก้องมาจากป่าบนภูเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป
ฟางหรงซินเดินโซเซไปตามทางบนภูเขา ไม่รู้ว่าข้าวโพดที่เธอเคยพบโดยบังเอิญก่อนหน้านี้สุกแล้วหรือยัง หญิงสาวปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า ช่วงนี้แดดยิ่งร้อนขึ้นทุกที ช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวันเป็นช่วงที่ซอมบี้ส่วนใหญ่พักผ่อน
เดินไปถึงจุดหมายเธอก็พบว่ามันเทศโตเต็มที่แล้ว หญิงสาวจึงจัดการ เร่งมือเก็บมันเทศทั้งหมดให้เสร็จก่อนเวลาพระอาทิตย์ตก เพราะถ้าหากอากาศเย็นลงเมื่อไหร่ พวกซอมบี้มันก็จะออกหากิน
พระอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า เสียงคำรามของซอมบี้ยังคงดังเป็นระยะ ๆ ฟางหรงซินแบกกระสอบมันเทศพาดบ่า เดินลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ขรุขระ เมื่อมนุษย์มีจำนวนลดลง พืชพันธุ์ก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้น ถนนลาดยางเดิมก็ถูกทำลายไปจนแทบไม่เหลือ
นับจากวันสิ้นโลกมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสิบปี จำนวนมนุษย์เหลือเพียงเศษเสี้ยว และเมื่อไม่มีพวกมนุษย์ให้พวกซอมบี้กิน พวกมันก็เริ่มฆ่ากันเอง บางส่วนก็อ่อนแรงลง ทำให้มนุษย์ที่ยังคงเหลืออยู่สามารถหลบหนีรอดพ้นเงื้อมือของพวกมันได้
ฟางหรงซินค้นพบที่หลบภัยในป่าแห่งนี้โดยบังเอิญ และเธอก็อยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบริเวณบ้าน หญิงสาวก็ผลักประตูรั้วเข้าไป หลังจากสอดส่องดูรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีร่องรอยของพวกซอมบี้บุกรุกเข้ามา เธอจึงปิดประตูแล้วขัดไว้ด้วยท่อนไม้
ฟางหรงซินเขี่ยถ่านในเตาให้ร้อนขึ้น ก่อนจะเอามันมันเทศที่เก็บมาใส่เข้าไป เมื่อสุกแล้วเธอก็หยิบขึ้นมากินคู่กับน้ำแกงผักป่าที่เหลือจากมื้อเที่ยง
หลังจากได้ดื่มน้ำแกงร้อน ๆ หญิงสาวก็ถอนหายใจยาว รู้สึกว่าร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันผ่อนคลายลงบ้าง
เมื่อสิบปีก่อนโลกมีภัยพิบัติ ครอบครัวของเธอไม่เหลือใครเลย หญิงสาวจึงเดินทางมากับกลุ่มผู้รอดชีวิต ผ่านความยากลำบากนับไม่ถ้วนจนไปถึงศูนย์หลบภัย
ช่วงแรกเธอได้ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย แต่สุดท้ายมนุษย์ก็เอาแต่แก่งแย่งกันเอง ปีที่สามศูนย์หลบภัยก็ล่มสลายเพราะการแย่งชิงกันภายใน
หลังจากนั้นฟางหรงซินก็ต้องระเหเร่ร่อนไปเรื่อย ๆ เธอเรียนรู้ที่จะใช้ดาบใหญ่ฟันซอมบี้ และเมื่อไร้ทางเลือก ก็เคยยกดาบขึ้นสู้กับมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดฟางหรงซินจึงมาอาศัยอยู่ลำพังในหมู่บ้านร้างกลางป่าแห่งนี้
ก่อนนอน หญิงสาวคิดว่าพรุ่งนี้ต้องไปที่หุบเขาด้านล่าง หากว่าข้าวโพดสุกพร้อมเก็บเกี่ยว เธอจะต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด เพราะฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ต้องเตรียมเสบียงอาหารเอาไว้ให้เพียงพอเสียก่อน
แต่เช้าวันต่อมา ฟางหรงซินก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลก ๆ เนื่องจากรอบตัวเงียบผิดปกติ
เธอลุกขึ้นเดินไปด้านหน้าประตูอย่างระมัดระวัง และพยายามหายใจให้เบามากที่สุด ก่อนจะมองผ่านช่องประตูออกไป
ภาพที่เห็นด้านหน้าทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือก
~~กรรร~~
ฝูงซอมบี้จำนวนมหาศาลมาจากไหนกัน!
ทำไมพวกมันถึงเดินผ่านตรงนี้!
ฟางหรงซินแนบตัวชิดกำแพง ด้านนอกมีเสียงหายใจหนัก ๆ และเสียงครางต่ำของซอมบี้ หญิงสาวค่อย ๆ ถอยกลับเข้าห้อง นั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงโดยไม่ขยับร่างกายแม้แต่นิดเดียว เพื่อเฝ้ารอให้ฝูงซอมบี้เดินผ่านไป
ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้กินอะไรมานาน ท่าทางอิดโรย เดินลากขาอย่างเชื่องช้า…
และในที่สุดเมื่อเวลาสองวันผ่านไป กลุ่มกำลังหลักของพวกมันก็เดินผ่านไปหมด เหลือเพียงพวกที่แยกออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ที่ยังคงเดินผ่านหน้าประตูเป็นระยะ ๆ
ฟางหรงซินกลัวว่าจะทำให้พวกซอมบี้สังเกตเห็น เธอจึงนั่งนิ่ง ๆ มาเป็นเวลาหนึ่งวันโดยไม่ได้กินหรือดื่มอะไร โชคดีที่พวกมันใกล้จะไปกันหมดแล้ว
แต่ทันใดนั้น ก่อนที่จะทันได้ตั้งตัว แผ่นดินก็ไหวอย่างรุนแรง บ้านทั้งหลังก็ถล่มลงมา!
หลังจากนั้นฝูงซอมบี้มากกว่ายี่สิบตัวก็กระโจนใส่เธอ!
ฟางหรงซินที่หิวจนหมดเรี่ยวแรง หญิงสาวรู้สึกได้ว่าทุกอย่างตรงหน้ากลายเป็นสีดำ เธอคิดอย่างเลือนลางว่าถ้ารู้อย่างนี้น่าจะกินให้อิ่มก่อนตาย อย่างน้อยก็จะได้ไม่เป็นผีที่หิวโหย
(ติ๊ด…ตรวจพบพิกัดเจ้าของระบบ… ดำเนินการผูกมัดโดยอัตโนมัติ กำลังผูกมัด… 20%… 45%… 87%… 98%… 100% ผูกมัดสำเร็จ ร่างกายของท่านกำลังถูกทำลาย ดำเนินการข้ามมิติ…ติ๊ดดด)