ตอน 3
แม้แต่บิดามารดา ทั้งสองฝ่ายยังเห็นตรงกันแบบนั้น ส่วนจอมยุทธเอง ทั้งเท่ สมาร์ท หล่อ ร่างสูง สมส่วน สมชายชาตรี ทั้งสุขุม เยือกเย็น แววตาอ่อนโยน มีความเป็นสุภาพบุรุษ สาวๆ จึงเทคะแนนให้จอมยุทธท่วมท้น แต่ไม่มีใครได้ใจจอมยุทธเลยสักคน เขาอยู่เพื่อดูแลพิรวี อยู่เพื่อปกป้องหญิงสาว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด คำว่ามิตรภาพความเป็นเพื่อน ไม่มีสิ่งใดสามารถแปรเปลี่ยนให้ทั้งคู่กลายมาเป็นคนรักฉันชู้สาวกันได้
“คราวนี้ฉันควรจะทำยังไงดีไอ้หมอ”
“คอยดูไปก่อนดีมั้ย อย่าเพิ่งปักใจเชื่อในสิ่งที่เห็น”
“แกบอกฉันเองนี่หว่า ว่ายัยช่อเพื่อนคนนี้ไว้ใจไม่ได้ให้ระวัง”
“จริงอยู่ แต่เรื่องนี้ต้องมีการวางแผน แกบุ่มบ่ามไปรับรองยัยช่อได้ไหวตัวหนีไปแน่”
“แกจะช่วยฉันหรือเปล่าล่ะ ลำพังฉันคนเดียวคงแย่ว่ะ รับปากฉันสิไอ้หมอ”
“แน่นอน ถ้าเวลาของฉันยังพอเหลือสำหรับจัดการเรื่องนี้ให้แก”
“ใช่สิ แกต้องทำหน้าที่ของแกสิ บอดี้การ์ดส่วนตัวฉันไงล่ะ” หญิงสาวยิ้มบาง เธอไม่เคยถูกหมอเพิกเฉยแม้แต่เรื่องเดียว
“อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิ ยัยเจ้าหญิงของฉัน”
“ไม่ คนอย่างฉันไม่มีเวลาเศร้า แค่พักหลังมานี่ฉันเหนื่อยง่าย ง่วงเร็ว เพลียมากไม่อยากตื่น ไม่รู้เพราะอะไร” เธอแอบสงสัยอาการของตัวเอง ปกติร่างกายแข็งแรง สู้แดด สู้ฝน ไม่เคยป่วย ไม่เคยเจ็บกับใครเขา แต่พักหลัง จะทำอะไร หยิบอะไรหน้ามืด พอได้ล้มตัวลงนอน หลับเป็นตาย แต่พอถึงเวลาตื่นไม่อยากตื่น เพลีย กล้ามเนื้อไร้เรี่ยวแรงในบางครั้ง บางทีร้ายแรงกว่านั้นขับรถอยู่ดีๆ มือไม้ชาขึ้นมาดื้อๆ หรือว่าทำงานหนักไป
“ยัยผู้บริหาร แกควรพักบ้าง ถ้าให้ดีตรวจสุขภาพบ้างด็ดี ให้ดีวันนี้ พรุ่งนี้เลยเป็นไง” หมอก็อย่างนี้แหละเกิดอะไรขึ้นจะให้ตรวจสุขภาพท่าเดียว
“เอาไว้ก่อนเถอะ ฉันคงต้องรีบเข้าบริษัท ไว้โอกาสหน้าฉันสัญญาจะมาตรวจแน่นอน”
“จะไปแล้วหรือ งั้นโชคดีล่ะ แม่สาวเวอร์คกิ้ง วูแมน”
“ขอบใจคุณหมอรูปหล่อ”
“รู้มั้ยความจริงเราน่าจะเป็นแฟนกันนะ แกว่ามั้ยรวี”
“แกว่างั้นหรือไอ้หมอ”
“ไม่อะ แค่ฉันล้อเล่น ถ้าฉันคิดอย่างนั้น ฉันคงได้เสียกับแกไปนานแล้วรวี”
“นั่นน่ะสิ” หญิงสาว โบกมือลาเพื่อนรักย่างเท้าจากไป ใช่....ไม่รู้เพราะอะไร เธอกับหมอรูปหล่อ ถึงไม่ลงเอยกันสักทีทั้งที่ต่างคนต่างไม่มีคนของหัวใจ ราวกับว่าเธอนั้นมีชีวิตเพื่อรอใครสักคน ใครบางคนซึ่งยังไร้ตัวตน บางคนเกิดมาเพื่อให้เราคิดถึง บางคนเกิดมาเพื่อให้รัก บางคนเกิดมาเพื่อคุ้มครองดูแล แต่แตะต้องไม่ได้ หมอจอมยุทธคงจะเป็นอย่างหลังสุด พิรวีคิด ขณะเดินจากไป
‘นั่นน่ะสิเราทำไมไม่รักกับยัยรวีซะเลย’ ยกมือเกาศีรษะทรงผมเรียบร้อยรองทรงของตัวเอง เกี่ยวกับความสงสัยในใจ พอลับหลังหญิงสาว หมอหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ ก้มหน้าลงให้ความสนใจกับเอกสารรายงานอาการคนไข้ ถูกส่งต่อมาจากแผนกอายุรกรรมอีกครั้ง
“บอส ตกลงได้พักบ้างหรือเปล่าคะ” กนกแก้วลุกจากเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ก้าวเข้าไปยืนชิดกับเจ้านายสาว ขณะเห็นอีกฝ่ายก้าวเข้ามายังแผนกบัญชีการเงิน ได้เห็นใบหน้าอิดโรยของเจ้านายรู้สึกใจหาย ไม่ใครก็ใครเงินตัวเองหายไปมหาศาลขนาดนี้จะให้หลับตาลงได้ คงเป็นไปได้ยาก กนกแก้วเข้าใจดี
“นอนไม่หลับน่ะแก้ว เธอล่ะ” หันไปถามด้วยความเป็นห่วงลูกน้องสาว ผู้ช่วยคนสำคัญ ใบหน้าสาวร่างเล็กสดใสเช่นทุกวัน ไม่น่าสงสัยอะไร
“แก้วหรือคะ กลับถึงบ้านหลับเป็นตาย” นั่นคือความจริง เธอเพลียนี่นา กินอิ่ม เข้าห้องนอนหลับ
“นั่นน่ะสินะ เธอไม่ใช่ฉัน”
“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ แก้วเพลียกับการเดินทาง อีกอย่างแก้วเป็นคนนอนง่าย กินง่าย หัวถึงหมอนหลับเป็นตาย แบบนี้ทุกวันล่ะค่ะ ถ้าแก้วเป็นคนอ้วนง่ายป่านนี้แก้วกลายเป็นยัยหมูตอนไปนานแล้วค่ะ” กนกแก้วรีบแก้ตัว ความจริงไม่ใช่แก้ตัวเธอเป็นอย่างนี้จริงๆ อีกอย่างเกรงเจ้านายจะตำหนิ เห็นว่าตัวเองไม่เดือดร้อนกับเรื่องความกังวลใจของเจ้านายเอาซะเลย
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอซะหน่อย” จะไปบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชา เครียดกับเธอไม่ได้ หญิงสาวตระหนักเรื่องนี้ดี เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเธอต้องสะสางทุกอย่างให้จบด้วยตัวเอง
“ค่ะบอส”
“อย่าคิดมากเลย ฉันไม่คิดโทษใครแม้แต่คนกำลังคิดโกงฉัน เดี๋ยวแก้วตามฉันเข้าไปในห้องด้วยนะ” บอกสาวร่างเล็กก่อนเดินเข้าไปในห้องทำงาน กนกแก้วรีบวิ่งตามหลังเจ้านายสาวเข้าไปติดๆ
จากนั้นปรากฏเสียงนกเสียงกานินทาตามหลังในความสังสัยมากมาย ทำไมช่วงหลังมานี้กนกแก้ว เด็กใหม่ แค่พนักงานบัญชีตัวเล็ก จึงได้รับความไว้วางใจขนาดนายสาวเรียกให้เข้าไปพบคุยงานในห้องทำงานส่วนตัว นานสองนาน ต่างจากพวกที่ทำงานด้วยกันนานหลายปีอย่างคุณทัศนา กลับไม่ได้รับความไว้วางใจเช่นผ่านมา ชักน่าสงสัย
ร่วมสัปดาห์แล้วภาพนั้นปรากฏต่อสายตาเพื่อนร่วมแผนกทุกคน คนอื่นไม่มีใครสงสัยอะไรมากนัก เด็กใหม่อาจจะได้รับการสอนงานจากเจ้านายเป็นได้ แต่ทว่า...ทัศนา จอมเลีย พนักงานอาวุโส ทำงานอยู่ใน พิรวี คอฟฟี่ นานหลายปี เรียกว่ารู้ตื้นลึกหนาบางของบริษัทนี้เป็นอย่างดี เพราะหล่อนมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายบัญชี การเงิน เข้าขากันดีกับช่อชบา เวลานี้นายสาวอีกคนพักร้อน คงเที่ยวสบายใจ พักนี้จึงว่างงานไม่มีอะไรสนุก เร้นลับให้ทำ
ประตูห้องทำงานส่วนตัวของผู้เป็นนายปิดลง ทัศนานึกได้ว่าต้องทำอะไรต่อจากนี้ เจ้านายคนสนิทได้สั่งไว้ว่าให้เสิร์ฟน้ำ ชา กาแฟ ถูกเตรียมไว้สำหรับเจ้านายใหญ่
“เสิร์ฟกาแฟ ตามคำสั่งคุณช่อดีกว่า” ทัศนาหายเข้าไปห้องครัว กลับออกมาพร้อมเครื่องดื่ม หนึ่งถ้วย น้ำเย็นหนึ่งแก้ว กาแฟสูตรพิเศษช่อชบาได้กำชับไว้ต้องชงให้พิรวีทุกวัน พร้อมน้ำเปล่าเย็นๆหนึ่งแก้ว
ก๊อกๆ ทัศนายกมือเคาะประตู เพื่อจะนำเครื่องดื่มเข้าไปเสิร์ฟให้เจ้านาย เสียงหวานอนุญาตจากข้างใน ทัศนารีบเปิดประตูก้าวเข้าไป ในมือถือถาดเครื่องดื่ม
“ว่าไงทัศนา” เงยหน้ามองเจ้าของเสียงเคาะ ตนได้อนุญาตให้เข้ามาด้านใน ขณะยังพูดคุยธุระกับกนกแก้วยังไม่จบ
“เครื่องดื่มค่ะ”
“อืม ขอบใจ แม่บ้านไปไหนซะล่ะ เธอถึงได้เอามาให้เอง ฉันว่าจะสั่งแม่บ้านอยู่เชียว เธอรู้ใจฉันดีทีเดียวทัศนา ขอบใจนะ วางไว้แล้วออกไปได้ พอดีฉันมีงานบางอย่างต้องสั่งให้กนกแก้วทำ เขายังใหม่ฉันเลยต้องสั่งเอง สอนเองในช่วงช่อเขาไม่อยู่” พิรวีอ่านสายตาทัศนาออก จึงรีบบอกตัดหน้า
“ค่ะ บอส” วางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ ตามด้วยแก้วน้ำเย็นเจี๊ยบ แต่ไม่วายทิ้งสายตาไปทางกนกแก้วและกองเอกสารมากมาย เห็นจะจริงในคำบอกของเจ้านายว่ากำลังสอนงานกนกแก้ว
“เสร็จแล้วออกไปซะทัศนา” เจ้านายสาวกล่าวเสียงเครียด สีหน้าไม่ล้อเล่น เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังสนใจ เอกสารบนโต๊ะและกนกแก้ว จ้องแบบไม่วางตา
“อ๋อ ค่ะๆ ออกไปค่ะ” ทัศนาถึงกับสะดุ้งกับคำพูดดุดัน ลนลานก้าวออกห่างจากโต๊ะทำงานขนาดใหญ่
“บอสคะทำไมไม่ให้ทัศนาสอนงานลูกน้องเองล่ะคะ ลำบากบอสแย่” หัวหน้าฝ่ายบัญชีพยายามเสนอตัว ซึ่งความจริงเป็นหน้าที่ของเธอโดยตรง
“ฉันอยากสอนงานแก้วเอง เขายังใหม่ หรือเธอมีปัญหา...” นี่คือเหตุผลที่พอจะคิดได้ในเวลานี้ พิรวีเชื่อว่าทัศนาน่าจะทำงานรู้เห็นกับช่อชบา จึงไม่ไว้ใจนักกับงานครั้งนี้ เธอไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังไอ้ลายเซ็นปลอมนี้บ้าง หรือคนที่เธอคิดไว้อาจจะไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องดี เอาเป็นว่าตอนนี้เธอมืดแปดด้าน พยายามหาความจริง