บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1-2

สุดยอดอาหารสี่อย่าง อันได้แก่ หูฉลาม รังนก อุ้งตีนหมี และเป๋าฮื้อล้วนเป็นของดี รังนกนั้นเปรียบดั่งทองคำขาวและเป็นของโปรดปรานของฮ่องเต้ ทำให้ขุนนางใหญ่น้อยต่างนิยมชมชอบ ไม่เว้นแม้กุ้ยไป๋เทียน นอกจากจะช่วยเสริมพละกำลัง เสริมสมรรถภาพทางปอด ยังเชื่อกันว่าต่อต้านความชรา ด้วยเหตุนี้ หากท่านอัครเสนาบดีต้องเดินทางไปต่างเมือง เขามักนำรังนกกลับมาที่จวนเสมอ แต่คนที่กินรังนกได้ในจวนนี้มีเพียงสามคนเท่านั้น ย่อมต้องเป็นกุ้ยไป๋เทียน หม่าอี้หวาซึ่งเป็นฮูหยินใหญ่ และกุ้ยเหมยลี่คุณหนูใหญ่

ร่างอรชรอ้อนแอ้นแต่แฝงไว้ด้วยแววตาซุกซนเฉลียวฉลาด ในมือถือถ้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินขาวเนื้อแกร่งที่น้ำเคลือบทำจากเถ้าถ่านและหินฟันม้า ภายในถ้วยเคลือบเต็มไปด้วยรังนกต้มกับน้ำตาลกรวดผสมโสมและพุทราจีนที่นางลงมือปรุงอย่างสุดฝีมือ ของด้านในถ้วยยังอุ่นมือ ส่งกลิ่นหอมหวน นางถนอมมันอย่างดี ระมัดระวังทุกฝีก้าว

ฮุ่ยชิงได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของฮูหยินใหญ่ก็เบ้หน้า วันนี้แม่ใหญ่อยู่ในชุดสีเขียวปีกแมลงทับ เสียงเอะอะนั้นดังมาก่อนตัว คงมีใครไปบอกว่าเห็นนางแถวนี้ ขณะที่เท้าเล็กๆ รีบเดินกำลังจะเลี้ยวไปทางเรือนเล็กของมารดากลับต้องหยุดชะงักเมื่อถูกคนทั้งสามมาขวางหน้าเอาไว้ ด้านหลังของหม่าอี้หวาคือสาวใช้สองคนที่จ้องมองคุณหนูรองอย่างไม่ยำเกรง

“หยุดนะนังตัวดี ที่แท้เจ้าไม่ได้อยู่ในห้องครัวแต่แอบมาอู้แถวนี้เอง” น้ำเสียงตวาดของหม่าอี้หวาพลันทำให้นางตื่นตระหนกเกือบจะทำถ้วยรังนกตก

“แม่ใหญ่! ท่านตามหาข้าหรือเจ้าคะ”

ดวงตาเรียวเล็กที่มีร่องรอยของตีนกาจ้องไปที่ถ้วยกระเบื้องเคลือบเขม็ง พลันเพลิงโทสะกลับพวยพุ่ง

“แล้วนี่ถ้วยอะไร” กุ้ยฮูหยินมองนางอย่างดูแคลน ยิ่งเห็นร่างเล็กสีหน้าถอดสีอย่างมีพิรุธ ในถ้วยคงไม่ใช่แค่น้ำแกงธรรมดา

หม่าอี้หวาปรายตาสองสาวใช้ข้างกาย พวกนางต่างรู้งานตรงเข้ารวบตัวคุณหนูรองเอาไว้ ถ้วยกระเบื้องเคลือบที่ใส่รังนกมาถึงสามในสี่ถ้วย ถูกหัวหน้าแม่ไก่สกุลกุ้ยแย่งเอาไปถือไว้แล้วมองนางด้วยแววตาสมเพช

ฮุ่ยชิงถูกผลักเต็มแรงให้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ร่างเล็กเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง

“แม่ใหญ่ท่านจะทำอะไร...”

“หุบปาก! นังตัวดีไม่ต้องพูดมาก หลักฐานคาตา เจ้าขโมยของยังกล้าปฏิเสธอีกหรือ”

“ข้าไม่ได้ขโมย”

เพียะ

คำพูดของฮุ่ยชิงกลืนหายไปในลำคอ เมื่อฝ่ามือหนึ่งฟาดลงบนแก้มฉ่ำด้วยเลือดฝาดอย่างเต็มแรงจนใบหน้าสวยแช่มช้อยสะบัดไปตามแรง ฮุ่ยชิงรู้สึกชาหนึบไปทั่วหน้า

หม่าอี้หวาแสยะยิ้ม แค่เห็นหน้าเจื่อนๆ ของฮุ่ยชิง นางก็หมั่นไส้เต็มทน แล้วยิ่งเห็นถ้วยรังนก นางไม่อาจเก็บอาการบันดาลโทสะไว้ได้อีกเพราะรู้ถึงจุดประสงค์เพียงเดินผ่านตรงนี้ไปได้ก็ถึงเรือนของนังแพศยาที่ยังอยู่ร่วมจวนให้ตำใจ

“นังหัวขโมย เจ้าตั้งใจขโมยรังนกถ้วยนี้ไปให้แม่เจ้ากินใช่หรือไม่ มักใหญ่ใฝ่สูงเกินตัวจริงๆ ของพวกนี้ใช่ของที่พวกเจ้าแม่ลูกจะมาหยิบฉวยไปกินได้หรือ”

ที่ล้มลงไปก็จุกพอแรง นางจึงไม่คิดพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนหรือเถียงกลับ ฮุ่ยชิงก้มหน้ายอมรับ นางรู้ดีว่าบิดาไม่อยู่ แม่ใหญ่ต้องจ้องเล่นงานนางอยู่แล้ว เรื่องถูกตบไม่ใช่ครั้งแรก หากนางคิดต่อสู้แม่ใหญ่ สาวใช้ในเรือนใหญ่จะถูกสั่งให้ช่วยกันรุมทำร้ายนาง

“เจ้าค่ะ ข้าผิดไปแล้ว ข้าแค่อยากให้ท่านแม่ได้กินของดีๆ บ้างเท่านั้น ท่านแม่กำลังป่วย แต่อาหารที่ส่งไปถึงเรือนท่านแม่มีเพียงเศษผัก แล้วแบบนี้เมื่อไรท่านแม่จะหายจากอาการป่วย”

นิ้วชี้ที่มีแหวนหยกสวมอยู่ดันหน้าผากของฮุ่ยชิงออกห่างอย่างแรง “นังตัวดี สกุลกุ้ยเราปรานีหญิงแพศยาอย่างแม่เจ้า ไม่ขับไล่ออกนอกจวนนับว่าท่านอัครเสนาบดีเมตตาพวกเจ้าสองแม่ลูกมาแล้ว เจ้ามีแม่เป็นนางหญิงชั่ว แพศยา แล้วเจ้าจะเป็นลูกกตัญญูได้หรือ”

คำพูดถากถางเสียงหัวเราะเย้ยหยันทำให้มือเล็กที่กำอยู่แล้วยิ่งกำแน่นกว่าเดิม นางย่อมเจ็บแค้นเป็นธรรมดา แต่เมื่อมองรอบตัวแล้ว หากนางบันดาลโทสะลุกขึ้นตบแม่ใหญ่สักฉาด แล้วถีบสักสองทีให้ล้มหน้าคะมำ นางคงได้รับความสะใจอยู่ไม่น้อย ทว่าหลังจากนั้นคงเป็นนางเองที่ย่อยยับ ส่วนแม่ของนางคงได้รับเคราะห์กรรมนี้ไปด้วย เรื่องนี้ย่อมได้ไม่คุ้มเสีย สู้นิ่งเสียดีกว่า

เอาชนะผู้อื่นได้นั้นแข็งแกร่ง ข่มใจตัวเองได้นั้นคือผู้ยิ่งใหญ่

หม่าอี้หวายิ้มหยันเมื่อเห็นร่างเล็กเอาแต่ซ่อนหน้าเนื้อตัวสั่นเทา ฮุ่ยชิงคงจะเกรงกลัวอำนาจของนางเหมือนแม่ของมันที่ไม่เคยปกป้องลูกได้ ทำให้นางคิดอยากจะตบอีกสักสองฉาด

นางหารู้ไม่ว่าอาการแบบนั้นฮุ่ยชิงกำลังสั่นสู้ สู้ด้วยวิธีของนาง ตามแบบฉบับของนาง

ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ก้มซ่อนหน้า หาได้กลัวเกรงแต่กำลังลอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

สักวันข้าจะต้มแม่ไก่สกุลกุ้ยกิน

ฮุ่ยชิงลอบประเมินสถานการณ์ตรงหน้าแล้วพร่ำบ่นอยู่ในใจ หากนางใจร้ายสักนิด ฮูหยินใหญ่คงลาโลกไปแล้ว ฮูหยินใหญ่เกลียดนางแต่กลับชื่นชอบอาหารที่นางเป็นคนลงมือปรุง ความน่าสมเพชของแม่ใหญ่ทำให้นางได้แต่ลอบถอนใจ

เกลียดข้าแต่มองรังนกในชามที่ข้าปรุงตาเป็นมัน

ฮุ่ยชิงเงยหน้าขึ้นมองถ้วยเคลือบใบนั้นราวกับแสนเสียดาย หม่าอี้หวาหันไปสบตาอย่างรู้กันกับสาวใช้คนสนิทแต่ยังคงเชิดหน้าไว้อย่างถือตัว ดวงตาของสาวใช้คนสนิทเปล่งประกายน่ากลัว จมูกงุ้ม ปากหนา สาวใช้ผู้นี้ ฮูหยินใหญ่ซื้อตัวมาได้ปีกว่าแต่ทำงานถูกใจ โดยเฉพาะงานกลั่นแกล้งกาฝากสองแม่ลูก

หม่าอี้หวาตวัดสายตามองร่างบอบบางตรงหน้าแล้วสั่งเสียงเข้ม “หลิ่งอี้ ลากนางออกไปโบย โทษฐานขโมยรังนกของท่านอัครเสนาบดี”

“ฮูหยินใหญ่จะให้ข้าโบยนางสักกี่ไม้เจ้าคะ”

ไม่ถึงห้าไม้รูปร่างอ้อนแอ้นอย่างนางคงเจ็บหนักปางตาย เผลอๆ อาจสลบไปตั้งแต่สามไม้แรก

“หากข้าไม่สั่งหยุด เจ้าห้ามเลิกโบยนาง” สิ้นเสียงคำสั่ง สาวใช้หลิ่งอี้ก้าวออกมาใช้สายตาจ้องคุณหนูรองตาเขม็งอย่างไร้ความเกรงใจ ราวกับคุณหนูรองเป็นลูกกระต่ายน้อยเคราะห์ร้าย หลิ่งอี้ตรงเข้ามาหมายลากจะคุณหนูรองไปทำโทษตามที่ฮูหยินใหญ่สั่งการ

ทว่าเสียงอ่อนหวานจากร่างเล็กดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

“แม่ใหญ่เจ้าคะ ท่านได้กลิ่นหอมมาจากห้องครัวหรือไม่เจ้าคะ”

อาหารที่ขึ้นโต๊ะแต่ละวันมีของดีนับสิบอย่างแต่ของที่แม่ใหญ่โปรดปรานที่สุดนั้นคือขาหมูน้ำแดงกลิ่นหอมฉุย เนื้อยุ่ยๆ ละลายในปาก ในเมืองเกาซานแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดที่ตุ๋นขาหมูน้ำแดงอร่อยเทียมนาง ฮูหยินใหญ่เคยหลุดปากพูดออกมา

สูตรที่นางเคยทำขึ้นโต๊ะจนแม่ใหญ่ติดใจเห็นแล้วตะเกียบสั่น คีบไม่หยุดจนท่านพ่อมองหน้ามาแล้ว เป็นสูตรเดียวกับที่ห้องเครื่องในวังหลวงทำขึ้นโต๊ะเสวยฮ่องเต้ เพราะตระกูลฟากมารดานางหลายคนทำงานและมีตำแหน่งใหญ่โตในห้องเครื่อง

“กลิ่นขาหมูน้ำแดง วันนี้เจ้าปรุงขาหมูน้ำแดงขึ้นตั้งโต๊ะหรือนังตัวดี”

“ไม่เพียงแต่ขาหมูน้ำแดงเท่านั้น ข้ายังเตรียมอกไก่น้ำข้นไว้ขึ้นโต๊ะ พรุ่งนี้ข้าก็ตั้งใจจะตุ๋นเอ็นกวางที่ท่านสี่จวนสกุลหวังนำมาฝากท่านพ่อ”

“พอไม่ต้องพูดแล้ว”

หม่าอี้หวาแม้จะพยายามรักษาเรือนร่าง แต่ตะเกียบของนางไวกว่าใครทุกคน ทุกครั้งยามฮุ่ยชิงตุ๋นขาหมูน้ำแดงขึ้นโต๊ะหม่าอี้หวาจะกินจนหมด ยามนี้จมูกเจ้ากรรมของนางกลับได้กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอทำให้ท้องนางร้องจ๊อกๆ กลิ่นของน้ำซุปคละเคล้ากับเครื่องเทศ นางจำได้ดียามคีบเนื้อของมันวางลงในปากนั้นแทบจะละลายทันที

ฮุ่ยชิงเห็นสายตาโกรธเคืองของฮูหยินใหญ่เมื่อครู่ผ่อนลงจึงรีบรายงานเสียงหวาน “เมื่อเช้า สาวใช้ไปตลาด นางได้ขาหมูมา ขาอวบอ้วน ข้าเห็นว่าแม่ใหญ่ชอบกินเลยเอามาตุ๋นกับสมุนไพรด้วยไฟอ่อนๆ หากท่านสั่งโบยข้า เห็นทีวันนี้ข้าคงไม่มีเรี่ยวแรงปรุงขาหมูขึ้นตั้งโต๊ะให้ท่าน ช่างน่าเสียดายขาหมูเหล่านั้นที่ต้องถูกเททิ้งไป”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel