Chapter 6 คนเจ้าเล่ห์
6
"แม่ฝัน เล่นกาบแบทนะ" เด็กผู้ชายหน้าตาหน้ารักยื่นตัวต่อให้พิมพ์ฝันพร้อมกับนั่งลง เธอยิ้มให้เขาแล้วเล่นกับลูกอย่างเอ็นดู
"ไปสมัครงานที่อื่นไว้บ้างยังลูก" คนเป็นแม่เอ่ยถามด้วยเสียงที่เป็นห่วง ดังมาจากด้านหลัง
"ค่ะ สมัครไว้หลายที่แต่ยังไม่มีที่ไหนติดต่อมา" เธอหันไปบอกแม่แล้วก้มดูเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่เล่นตัวต่ออยู่
"ทำธุรกิจของเราไปเรื่อยๆก่อนก็ได้นะลูก เสื้อผ้าก็ขายดีตลอด" เธอพูดให้กำลังใจ เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงตรงหน้าเลิกกังวล
"อยากเก็บเงินให้ได้หลายทางค่ะแม่ ถ้าพอให้เปิดร้านใหญ่ฝันค่อยออกงานประจำ" เธอพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
"แม่ฝาน แบท หิวแย้ว" เด็กชายตัวน้อยพูดขึ้นแล่วลุกขึ้นมากอดคอแม่ของเขา
"หืม หิวแล้วเหรอ เดี๋ยวแม่ทำกับข้าวให้นะคัับ กินนมก่อนมั้ยเอ่ยคนเก่ง" เธอหอมแล้วเนียนใสนั้นแรงๆแล้วกอดไว้แน่นอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วเดินไปหยิบนมในลังมาเปิดเทใสขวดนมให้อย่างเป็นห่วง
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เป็นเบอร์สำนักงานเธอหยิบมันขึ้นมาแล้วรีบรับสายอย่างสุภาพ ใช้นิ้วชี้แตะปากบอกลูกชายตัวน้อยว่าให้เงียบ
"สวัสดีค่ะ"
(คุณพิมพ์ฝันหรือเปล่าคะ)
"ค่ะ"
(ตอนนี้คุณมีสิทธิ์เข้าสัมภาษณ์กับบริษัท TS ของเรา จะสะดวกมาวันไหนคะ)
"พรุ่งนี้ค่ะ ฉันพร้อมพรุ่งนี้เลย"
(ค่ะ พรุ่งนี้พบฝ่ายบุคคลที่ชั้นสามนะคะ เวลาเก้าโมง)
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
พิมพ์ฝันมองมือถือของตัวเองแล้วยิ้มอย่างดีใจ นี่มันบริษัทที่เธอฝันเลยนะแค่ลองส่งใบสมัครไป แต่เขาติดต่อกลับมาจริงๆ
TS เป็นบริษัทส่งออกสินค้าพวกเครื่องแต่งกายระดับประเทศ เธอรู้มาด้วยว่าเจ้าของบริษัทเป็นผู้หญิงรุ่นเดียวกับแม่ของเธอ ดังนั้นงานเลขาที่เธอสมัครไปต้องไม่เป็นอันตรายต่อตัวเธอแน่
ก็เธอฝังใจกับตาโรคจิตนั่นนี่นา
"ข่าวดีเหรอลูก" สาวแก่เอ่ยถามเมื่อเห็นลูกสาวยิ้มอยู่นาน
"ไม่เชิงค่ะ แต่ได้สัมภาษณ์ก็ถือว่ามีโอกาสเกินครึ่ง"
"อื้ม สู้ๆนะ ลูกต้องทำได้" เธอส่งยิ้มให้ลูกตัวเง แล้วหันไปยิ้มให้หลานชายสุดน่ารักที่ยิ้มตอบมาด้วย
"คริคริ" เด็กชายหัวเราะเมื่อเห็นผู้ใหญ่ทุกคนยิ้มแป้น ความน่ารักของเขาสร้างความหลงไหลให้เธอเสมอ
และบ่อยครั้งที่เธอมองหน้าลูกตัวเองแล้วต้องนึกถึงผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาคนนั้น แบทเทิลหน้าตาเหมือนเขามาก เหมือนจนเธอรู้สึกว่ากำลังโดนกลั่นแกล้ง ทั้งที่อยากจะลืมเรื่องราวเหล่านั้นเต็มทน แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่อยากให้เธอลืมเขาเลยซักนิด ยิ่งแบทเทิลโตขึ้นใบหน้าของเขายิ่งชัดเจนให้ความทรงจำของเธอขึ้นมาเรื่อยๆ
กริ๊ง กริ๊ง
"มีคนมา" คนเป็นแม่พูดขึ้นแล้วทำท่าจะเดินออกไป
"เดี๋ยวฝันไปดูให้ค่ะ" เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไปดูคนที่มาใหม่ทันที แล้วจึงเห็นว่าเป็นคนที่แวะเวียนมาบ่อยแต่ช่วงนี้เขาไม่ค่อยจะมาเท่่าไหร่แล้ว
"ฝัน!"
"อะ อ้าวพี่ที" เธอยิ้มบางให้ชายที่ยืนอยู่หน้าประตู เขาคือพนักงานบริษัทที่เธอเพิ่งจะลาออกออกมา เขามักจะแวะเวียนมาขายขนมจีบให้เธอมาตลอดทั้งที่รู้ว่าเธอมีลูกอยู่แล้ว และแน่นอนว่าพิมพ์ฝันไม่เคยเปิดใจให้เขาเลย เธอมัวแต่คิดถึงลูกจะมีเวลาไปคิดถึงผู้ชายคนอื่นตอนไหน เลยทำให้เขามีสถานะเป็นพี่ชายมาโดยตลอด
"เห็นฝันไม่มาทำงานพี่เลยเพิ่งไปสืบมาถึงรู้ว่าลาออกแล้ว" เขาพูดแล้วทำหน้าเศร้า
"ฮ่าๆ ค่ะ พอดีมีปัญหานิดหน่อย"
"พี่รู้แล้วเรื่องนั้น คนพูดกันทั้งบริษัท แต่ก็ดีแล้วที่ฝันไม่ยอมมันเหมือนคนอื่นๆ"
"ค่ะ ฝันไม่ชอบคนที่รังแกผู้หญิงแบบนี้" เธอยิ้มบางๆแล้วเปิดประตูรั้วให้คนตัวสูงเดินเข้ามา
"ไม่ต้องๆ พี่แค่แวะมาคุยแปปเดียว วันนี้มีนัด"
"หืม กับสาวไหนค่ะ" เธอเอ่ยแซวแล้วคนตรงหน้าก็ยิ้มเขินๆ
"ในบริษัทนั่นแหละ ฮ่าๆ" เขาหัวเราะแก้เขิน ถึงแม้เขาจะเคยจีบเธอ แต่เพราะเธอไม่สนใจเขาเลยจนต้องหันหน้าไปหาสาวคนอื่น
พิมพ์ฝันก็มองเขาเป็นแค่พี่ชายที่แสนดีคนหนึ่งเท่านั้น
"มีสาวแล้วอย่าลืมน้องสาวคนนี้น้า"
"แน่นอนอยู่แล้วน่า พี่ยังเป็นคุณลุงใจดีของแบทเทิลเสมอ" เขาพูดแล้วขยี้หัวเธออย่างเอ็นดู
@ตึก TS
ชายร่างสูงคลายเน็คไทให้หลวมแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ เขาผุดลุกผุดนั่งมาเป็นสิบครั้งแล้วเหมือนทำอะไรไม่ถูก อีกครั้งที่เขาหยิบใบสมัครงานของผู้หญิงคนเดิมขึ้นมาดู
'พิมพ์ฝัน พงษฐิติสกุล'
เป็นเธอจริงๆสินะ 'ฝัน' ชายหนุ่มอายุยี่สิบแปดปีมองรูปสมัครงานของเธอด้วยหัวใจเต้นแรง คนที่เขาไม่เคยลืมได้เลยตั้งแต่วันนั้น
ผ่านมาเขากลายเป็นอีกคน ตั้งแต่เจอเธอแล้วย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เขาต้องเอาแต่ทำงานเพราะจะได้ไม่คิดถึงเรื่องในคืนนั้น ใครมันจะไปเชื่อว่าผู้หญิงที่ขายบริการวันนั้นจะทำให้ผู้ชายเพล์บอยอย่างเขาเป็นได้ขนาดนี้ และเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นถึงขนาดนี้เหมือนกัน
แต่วันนี้คนคนนนั้นกลับเข้ามาหาเขาเองโดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย
'สถานะ โสด'
ชายหนุ่มอ่านข้อความนั้นแล้วยิ้มมุมปาก
"คุณเมย์" เขากดเสียงเรียกผู้ช่วยที่อยู่หน้าห้อง ไม่นานสาวหุ่นดีวัยสามสิบกว่าปลายๆคนนั้นก็เดินเข้ามาท่าทางของเธอดูกระฉับกระเฉง
"มีงานอะไรคะคุณทอส"
"คุณเรียกผู้หญิงคนนี้มาสัมภาษณ์ แค่เธอคนเดียวเท่านั้น" เขายื่นเอกสารให้ผู้ช่วยที่แม่ของเขาเลือกมาให้
"คะ อ้อ เลขาคนใหม่ ผู้หญิงคนนี้ ฉันจำได้ค่ะเธอสวยมาก ไม่ใช่ว่าคุณเลือกเพราะหน้าตาหรอกนะคะ" เธอเอ่ยถาม เขาขมวดคิ้มเข้มนั้นเขาหากันเพราะเธอถามมากเกินไป
"ผมมีเหตุผลมากกว่านั้น จัดการให้ด้วย"
"ค่ะ"
"อ่อ ไม่ต้องถามอะไรเธอให้มาก แล้วให้เธอเซนต์สัญญาเข้าทำงาน แล้วก็รบกวนคุณช่วยเพิ่มรายละเอียดสัญญาตรงนี้ด้วย" เขาดึงเอกสารในลิ้นชักออกมาแล้วจิ้มให้คนตรงหน้าดู
"..." เธอมองอย่างสงสัย
"เพิ่มเป็นครึ่งปี และค่าปรับตรงนี้เพิ่มเป็นห้าแสนบาท ทำฟอนต์ให้เล็กอย่าให้เธอสังเกต ทำยังไงก็ได้ให้เธอเซนต์สัญญา"
"แต่แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปนะคะ" เธอแย้งขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามันไม่เป็นธรรมสำหรับพนักงานคนใหม่
"ห้ามแย้ง!" เขาพูดเสียงห้วนแล้วยื่นกระดาษให้ผู้ช่วย
"ค่ะ"
"ไปได้แล้ว" ชายหนุ่มเอนตัวพิงกับเก้าอี้ แล้วหลับตาลงจนรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปเขาจึงลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เขารอคอยที่จะได้เจอผู้หญิงคนนั้นไม่ไหวแล้ว
สัญญานั่นก็แค่เป็นการมัดตัวไม่ให้เธอไปจากเขาได้ง่ายๆ เขาจะทำให้เธอกลายมาเป็นของๆเขาให้ได้คอยดู
"พี่ทอส!" เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อเขาแล้วเธอก็เดินเข้ามาหาเขาเหมือนหงุดหงิด
"จะเข้ามาทำไมไปเคาะ" เขาดุแล้วแกล้งหยิบเอกสารขึ้นมาดูอย่างไม่สนใจ
"กลับมาเป็นอาทิตย์แล้วไม่คิดจะติดต่อเบลบ้างเหรอคะ" หญิงสาวบ่นแล้วกอดอกมองเขาอย่างไม่พอใจ
"เธอก็รู้แล้วทำไมฉันต้องบอก" เขาพูดโดยไม่หันไปมองเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสวยขนาดไหนแต่เขากลับรู้สึกว่าน่ารำคาญ
"ถ้าคุณป้าไม่บอกเบลคงไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่กลับมาแล้ว แต่ไม่สนใจกันซักนิด!" เธอขึ้นเสียงใส่เขาจนคนที่นั่งอยู่ทนไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผู้หญิงคนนี้
"อะไรที่ฉันไม่อยากได้ ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจ" เขาพูดเสียงเรียบแล้วลุกออกจากเก้าอี้ทำงานเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผู้หญิงคนนั้นยืนมองอย่างโกรธจัด
"กริ๊ดด เบลจะบอกคุณป้า พี่จะทำกับเบลแบบนี้ไม่ได้! พี่ทอส หยุด หยุดนะห้ามไป!" เสียงแหลมปริ๊ดตะโกนตามหลังทอสที่กำลังรีบก้าวเท้าออกจากห้องทำงานอย่างรำคาญ
ทอสปิดประตูใส่หน้าแล้วดึงไม้กวาดจากพนักงานทำความสะอาดมาสอดล็อคประตูไว้จากด้านนอก ก่อนจะหันไปบอกผู้ช่วยของเขาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
"ถ้าผมออกไปได้สิบนาทีแล้วปล่อยยัยนั่นออกมา" พูดจบเขาก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไป ผู้หญิงประเภทนี้เป็นพวกที่ทำให้เขาหงุดหงิดที่สุด แต่ดันเป็นคนที่แม่ของตัวเองสนับสนุนให้คบกัน เพราะครอบครัวของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท
แต่คนอย่างเขาไม่ชอบอะไร จะไม่ฝืนกับมันแน่ๆ
