EP.5 คนลามก
EP.5
“ถอดชุด”
“คะ!?” เธอมามองอย่างไม่เข้าใจเมื่อได้ยินคำนั้นออกจากปากของเขา
“อีกไม่ถึงชั่วโมงบ่อนจะเปิด”เขาพูดแล้วเดินไปหยิบชุดที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นมา “อย่าให้ฉันต้องพูดมาก”
พูดจบเขาก็โยนชุดนั้นให้เธอก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วดูคนที่ยืนนิ่งมองชุดอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ชุดนี้มันไม่โป๊ไปเหรอคะ”
หญิงสาวมองดูชุดสีดำเกาะอกรัดรูปที่เขาโยนมันมาให้ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นลำบากใจขึ้นมา ชุดนี้มันจะทำเธอหายใจได้เหรอขนาดยังไม่ได้ใส่ยังรู้สึกหายใจไม่ออกเลย
“อย่าเรื่องมากได้มั้ย”
“หนูไม่เคยใส่แบบนี้ มันโป๊ไป ขอชุดอื่นได้มั้ยคะ” เธอทำหน้าอ้อนวอนแล้วเดินมาหยุดยืนตรงหน้าก่อนจะยื่นชุดคืนให้เขา
“หึ” เขาหัวเราะออกมาในลำคอพร้อมกับเหยียดยิ้ม “เธอคิดว่าฉันเป็นคนใจดีมากเหรอ”
“…” เธอเม้มริมฝีปากแน่นแล้วลดมือลงเมื่อสายตาของเขาที่จ้องมาราวกับปีศาจที่อยากจะปลิดชีพเธอเต็มทน
“เปลี่ยน!”
“งั้นออกไปก่อนได้มั้ย หนูจะได้เปลี่ยน” เธอพูดแล้ววางกระเป๋าตัวเองลงบนโต๊ะกระจกด้านหน้าของเขา
“ทำไมต้องออกไป”เขาจ้องเธอแล้วขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน ผู้หญิงที่กล้ามาทำงานนี้ไม่น่าจะหวงเนื้อหวงตัวและทำตัวไร้เดียงสาให้เสียเวลา
“…” เธอเองก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่รู้เหรอว่าควรออกไปเพราะเธอเป็นผู้หญิงจะให้แก้ผ้าต่อหน้าเขาได้ยังไงกัน
“อย่าทำเป็นใสซื่อไปหน่อยเลย คิดว่าฉันจะเห็นเธอแปลกไปจากคนอื่นเหรอ”
“พี่พูดอะไรคะ หนูไม่เข้าใจ”
“ทำอย่างกับไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าใคร” เขายิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยันก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้น “หรือรอให้ฉันทำให้”
“มะ…ไม่ค่ะ หนูไม่เคยแก้ผ้าให้ใครดู ไม่รู้นะคะว่าพี่ไปแก้ผ้าให้ใครดูบ้าง แต่ทำแบบนั้นมันน่าอายนะ” เธอยังคงขมวดคิ้วพูดพร้อมกับอธิบายพลางสับสนและถอยหลังหนีเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้
“เหอะ”
“ออกไปได้แล้วค่ะ หนูจะรีบเปลี่ยน”
“เรื่องมาก คิดว่าฉันมีเวลามาทะเลาะกับเธอหรือไง"เขาพูดจบก็เดินเข้ามาประชิดตัว เธอถอยหลังหนีจนแผ่นหลังชนเข้ากับผนังและหมดหนทางหนี เขาก้มลงมาพูดข้างหูจนอีกคนเริ่มรู้สึกกลัว "อย่าทำเป็นไร้เดียงสาเพื่อให้เธอดูน่าสนใจเลยดีกว่า"
แขวก!
“กริ๊ดด พี่จะทำอะไรคะ” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเขากระชากเสื้อนักศึกษาของเธอออกจนขาดวิ่น เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่ล้นออกมาจากบราเชียสีหวาน มันใหญ่เกินตัวจนคนที่เห็นยังรู้สึกประหลาดใจ
“ลีลาเอง” พูดจบเขาก็จัดการกับเสื้อผ้าของเธอต่อ จนชุดนักศึกษาที่เพิ่งซื้อไปไม่กี่เดือนฉีกขาดแล้วถูกโยนทิ้งลงบนพื้น เขาล็อกตัวเธอที่ดิ้นอยู่ในอ้อมแขนไว้อย่างหงุดหงิด
“หยุดนะ! หนูจะบอกพี่ไวท์ว่าพี่รังแกหนู อ๊าย ปล่อยนะไอ้คนลามก!” เธอดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมแขนของเขา ในขณะที่กำลังจะถูกถอดกระโปรงอัดพลีทสีดำออกจากท่อนล่าง
“ว่าไงนะ!” เขาพูดขึ้นมาเหมือนกำลังตกใจกับคำนั้น
“คนลามก! คนทุเรศ!”
“หึ! แค่นี้คงไม่พอกับคำนั้นมั้ง เดี๋ยวเธอได้รู้แน่ว่าทุเรศมันต้องแบบไหน" พูดจบเขาก็เลื่อนมือขึ้นไปบีบหน้าอกของเธอจนอีกคนหลับตาแน่นด้วยความกลัว พยายามขืนตัวเองออกมาจากอ้อมแข็งแรงนั้นสุดแรง
"กริ๊ด ปล่อยนะหนูยอมแล้ว จะเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้!"
"..."เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะปล่อยมืออกจากตัวเธอ แล้วเสยผมขึ้นอย่างลวกๆ "อย่ามาชักช้าลีลาให้ฉันหงุดหงิดอีก รีบเปลี่ยนซะ!"
"..." ดวงตากลมโตแดงก่ำ คิดถึงคำพูดที่เพื่อนสนิทของเธอเคยบอกไว้ว่าอย่ารู้จักกับผู้ชายคนนี้
"ยืนนิ่งทำไม หรือจะเปลี่ยนใจไปนอนกับฉันแทน ไหนๆก็ถอดแล้วนี่" เธอจ้องเขาเหมือนไม่พอใจนักก่อนจะพูดขึ้น
"คิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องอยากนอนกับพี่หรือไง หนูคนนึงล่ะที่ไม่ชอบคนแบบพี่" พูดจบเธอก็รีบสวมชุดที่เขาเอาให้ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมากอดไว้
“…”
"จะให้ทำอะไรต่อ…คะ"
"ตามมา" เขาปรายตามองเธอในชุดเดรสรัดรูปสีดำครู่หนึ่งก่อนจะเดินนำออกไปยังบ่อนที่ตอนนี้กำลังเตรียมพร้อมให้บริการ
ที่นี่เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับอีกชั้นที่เป็นบ่อนเหมือนกัน ถูกจัดเป็นโซนตามลักษณะเกมต่างๆ
"พาไปจัดการให้เรียบร้อย" เขาเอ่ยกับลูกน้องแล้วเดินไปดูความเรียบร้อยแต่ละโซนเหมือนทุกๆวัน
"จะพาฉันไปไหนคะ" คิดถึงเอ่ยถามชายชุดดำที่เดินนำเธอไปห้องๆหนึ่ง เธอรู้สึกกลัวแต่จะให้ถอยหนีตอนนี้ก็คงไม่ได้
"ไปแต่งหน้าทำผม" เขาตอบสั้นๆแล้วเดินไปเปิดประตูห้องอีกห้องหนึ่ง ด้านในมีผู้หญิงที่แต่งชุดแบบเดียวกับเธอนับสิบคนกำลังช่วยกันแต่งหน้าอยู่
"ฝากด้วยนารา" ชายชุดดำเอ่ยกับสาวสวยคนหนึ่งที่ดูใจดี ก่อนที่เธอคนนั้นจะยิ้มให้เขาแล้วหันมามองที่หญิงสาวที่มาใหม่
"มานี่สิจ๊ะ"
"ค่ะ" คิดถึงเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างเธออย่างประหม่า
"ยังดูเด็กอยู่เลย อายุเท่าไหร่เหรอ" เธอพูดขึ้นอย่างเป็นมิตรแล้วจัดการเตรียมเครื่องสำอางที่อยู่ในกล่อง "ขยับมานั่งตรงนี้สิ"
"อายุสิบเก้าค่ะ"
"ยังเรียนอยู่ใช่มั้ย"
"ค่ะ"
"เด็กคุณดินหรือเปล่าเนี่ยจิ้มลิ้มขนาดนี้"
"มะ...ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่ใช่เด็กใคร หนูไม่ชอบเขาด้วย" เธอรีบปฏิเสธเมื่อได้ยินแบบนั้น พลางนึกรังเกียจเขาด้วยซ้ำที่ทำกับเธอแบบนั้น
"เธอนี่น่ารักดีนะ" นาราขำออกมาเมื่อคนที่เด็กกว่าพูดว่าไม่ชอบเจ้านายของเธอแต่กลับมาทำงานให้เขา
"คะ พี่ก็สวยมากๆเลยค่ะ" เธอยิ้มกว้างแล้วขยับตัวไปใกล้เพื่อให้อีกคนจัดการแต่งหน้าของเธอ
"ทำไมมึงทำหน้าแบบนั้นวะไอ้ดิน"อัคคีเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนทำหน้าเครียดกว่าทุกวัน
"..."
"ทำไม เด็กที่กูพามาไม่ได้ดั่งใจเหรอ" ไวท์อมยิ้มแล้วหันไปแซวเพื่อน เขาคิดไว้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไม่เหมือนคนที่เพื่อนตัวเองเคยเจอมาแน่ๆ เด็กนั่นต้องไปพูดอะไรแทงใจดำทำให้มันหงุดหงิดแน่นอน
"ดูมันเครียดหนัก จะไม่ฆ่าใครตายเหรอ" อัคคีเลื่อนหน้ามากระซิบ
"..." เขาไม่พูดอะไรออกมา พลางคิดถึงคำพูดที่ถูกเด็กรุ่นน้องคนนั้นต่อว่า
ทุเรศ ลามกเหรอ เหอะ ทำเขารู้สึกเสียหน้าด้วยนะ ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเคยพูดคำนี้กับเขา มีแต่คนอยากเข้าหาเขาด้วยซ้ำ ยัยนั่นเป็นใครถึงกล้าต่อว่าเขาแบบนั้น
"มึงทำหน้าเหมือนโดนด่าว่าอันเล็กเท่านิ้วก้อยเลยว่ะไอ้ดิน ฮ่าๆ" อัคคีหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนเป็นอย่างนั้นจริงๆ
"พวกมึงหุบปากได้มั้ย รำคาญ" เขาพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปดูดบุหรี่ตรงระเบียงเงียบๆ
"มึงว่ามันจะได้น้องยัง"
"กูว่าไม่ เชื่อสายตากูเถอะ กูเลือกมาถูกคนแน่ เด็กนั่นคงไปพูดอะไรสะกิดใจมันมาถึงได้เป็นแบบนั้น" ไวท์ยิ้มออกมาอย่างคนเหนือกว่า ก่อนจะแอบหัวเราะกับอัคคีเบาๆเพื่อไม่ให้อีกคนได้ยิน
“แต่คนอย่างไอ้ดินก็ไม่เคยมีใครปฏิเสธนะเว้ย ดาวมหาลัยพี่แกก็ฟาดมาแล้ว แหมยังไม่มีรอบสองด้วย”
“งั้นมาพนันกับกูมั้ย”
“อะไร”
“ว่าไอ้ดินมันต้องเสียท่าให้คนนี้” ไวท์พูดขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ ในขณะที่อัคคีเองยังลังเลแต่เอนเอียงไปฝั่งแผ่นดินมากกว่า
“เออ ก็ลองดู เท่าไหร่”
“สองแสน”
“จัดไป”
ก๊อกๆ
"พี่ไวท์" หญิงสาวในชุดเดรสสีดำรัดรูปเคาะตูก่อนจะเปิดเข้ามาอย่างประหม่า ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง ริมฝีปากอวบอิ่มถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพู ผมยาวสลวยถูกรวบตึงขึ้นไปมัดไว้สูงและดัดลอนให้มีมิติ หน้าอกอวบล้นเกาะอกออกมาจนคนที่เคยเห็นเธอใส่แค่ชุดนักศึกษาไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะมากมายขนาดนั้น
“…”
"มันโอเคมั้ยคะ"
"เชี่ย บาร์บี้" อัคคีพูดแล้วมองตาค้าง
"แม่ง" ไวท์พูดขึ้นเบาๆแล้วมองเธอนิ่งๆอีกคน "กูคิดถูกยังวะที่ไม่เก็บไว้คนเดียว"
"..." คนที่เพิ่งดูดบุหรี่เสร็จเดินเข้ามาในห้อง เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้ามา "อีกไม่กี่นาทีจะทำงาน มาทำอะไรห้องนี้"
"เอากระเป๋ามาฝากพี่ไวท์ค่ะ อย่าทิ้งหนูไว้ที่นี่นะคะ รอหนูทำงานเสร็จจะรีบมาหาพี่ไวท์" เธอส่งสายตาอ้อนวอนเขาแล้ววางกระเป๋าไว้บนโต๊ะกระจก
"ไม่ต้องกลัวหรอกน่าถ้าฉันไม่ว่างก็จะให้ไอ้อัคคีไปส่งก็ได้" ไวท์พูดแล้วยิ้มให้เธอ
"ไปทำงาน อย่าทำพลาดให้ฉันต้องเดือดร้อน"
"ค่ะ" เธอตอบสั้นๆแล้วกำลังจะหันหลังเดินออกไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง
"เดี๋ยว" ไวท์เรียกเธอไว้อีกครั้ง
"คะ"
"ระวังพวกนักท่องเที่ยวด้วย บางคนมันหื่นเธอต้องระวังตัวเอง" เขาพูดขึ้นด้วยความหวังดี หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างกับความหวังดีของเขาก่อนจะพูดขึ้น
"แถวนี้ก็มีนี่คะ…คนหื่น พี่ไวท์ระวังตัวด้วยนะ" เธอพูดแล้วหันไปมองคนที่กำลังพูดถึง "คิดถึงไปแล้วนะ พี่ไวท์อย่าทิ้งหนูไม่อย่างนั้นหนูจะไม่ใช้หนี้พี่แล้วค่ะ"
พูดจบเธอก็รีบวิ่งออกไปทันทีปล่อยให้คนที่ยังอยู่ยืนทึ่งกับคำพูดของเธอ
"..." หื่นเหรอ
"ใครวะคนหื่นที่น้องมันพูดถึง"
"ไม่ใช่กูแน่ๆ" อัคคีรีบโบกมือปฏิเสธ
"ไม่ใช่กูไม่ใช่มึง งั้นก็..." ทั้งสองหันไปมองที่แผ่นดินเป็นตาเดียว
"มึงอยากกินตีนแทนข้าวมั้ย"
