บทที่ 10 ถ้าไม่กล้าเดิมพันก็รีบไสหัวออกไป
“ฉาวจูน แกเห่าอะไรอีกแล้ว?”
หลินไป๋ไม่สบอารมณ์อย่างมาก “หน้าไม่เจ็บแล้วเหรอ?”
“หลินไป๋ เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แล้วแกอยู่ก็นอนเป็นผักไปสามปี ตอนแรกฉันก็เห็นใจแกหรอกนะ!”
สีหน้าของฉาวจูนดูโกรธ “แต่แกดันเชื่อฟังทำตามแผนของฉินเสวี่ยเหยา จงใจมาก่อปัญหาที่คฤหาสน์ตระกูลเฉียว ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องเปิดเผยธาตุแท้ของแก!”
"ทุกคนฟังผมพูดก่อน!"
ฉาวจูนขึ้นเสียง: "เมื่อสักครู่ที่ผมอยู่ข้างนอก ได้ยินหลินไป๋คุยกับฉินเสวี่ยเหยา ว่าตั้งใจจะทำงานเลี้ยงวันนี้ล่ม หลินไป๋ถึงกับตบผมสองครั้งเพื่อขู่ผม ดูนี่สิ รอยตบยังอยู่บนหน้าอยู่เลย!"
เมื่อเห็นลายนิ้วมือที่ชัดเจนบนใบหน้าของฉาวจูน คนส่วนมากก็แทบจะเชื่อกันหมดแล้ว
แต่ว่า ทำไมฉินเสวี่ยเหยาต้องทำลายงานเลี้ยงนี้ด้วย?
“ฉินเสวี่ยเหยา เธอบ้าไปแล้วเหรอ?”
น้ำเสียงที่โกรธดังขึ้น กลับเป็นฉินฉางเฟิงที่เดินเข้ามา:
“เธออกับไอ้บ้าบ้านนอกหลินไป๋นั่นทำให้ตระกูลเฉียวไม่พอใจ และตอนนี้ยังจะมาทำให้ตระกูลฉินทั้งหมดเดือดร้อนหรือไง?”
“ทำไม?เธอรู้ว่าตัวเองไม่มีทางเป็นหุ้นส่วนกับคุณหนูเฉียวได้ ก็เลยอยากให้ทุกคนโดนตัดสิทธิ์เหมือนเธอด้วยหรือไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็เกิดความโกลาหลขึ้น
ฉินเสวี่ยเหยาทำให้ตระกูลเฉียวไม่พอใจงั้นเหรอ?
แล้วทำไมเธอถึงยังกล้ามาที่นี่อีก?
หลินไป๋รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ฉินฉางเฟิงไม่ได้โดนเขาเตะจนขาหักหรอกเหรอ?
ทำไมตอนนี้ถึงเดินได้แล้ว?
ขาของเขาแทบจะดีขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
ดูเหมือนว่า ในเมืองเจียงนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญอีก
“เสวี่ยเหยา รีบพาไอ้เวรนั่นออกไปจากที่นี่!”
ขณะเดียวกันฉินเจิ้นเจียงก็เข้ามา ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง "ไม่เช่นนั้น ฉันจะไล่เธอออกจากตระกูลฉินทันที!"
ทุกคนต่างตื่นตระหนก ตระกูลฉินคิดที่จะตัดความสัมพันธ์กับฉินเสวี่ยเหยา
ดูเหมือนว่า ฉินเสวี่ยเหยาจะทำให้ตระกูลเฉียวไม่พอใจจริงๆ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เรื่องปฏิเสธเฉียวซานซีเท่านั้นแล้ว
ฉาวจูนในตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างควบคุมไม่ได้ พอฉินเสวี่ยเหยาถูกไล่ออกจากตระกูลฉิน หลินไป๋ก็จะเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่ยากจนและไม่มีอะไรเลย แม้แต่ฉินเสวี่ยเหยาที่เป็นดาวมหาลัย เขาก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดแททน!
“คุณปู่คะ เราตกลงกันแล้วนะคะ!”
ใบหน้าอันสวยของฉินเสวี่ยเหยาแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด "ไม่ว่าจะทำอะไรกับหนู ก็ควรรอจนกว่างานเลี้ยงจะจบหรือเปล่าคะ? "
“พอได้แล้ว จนตอนนี้เธอก็ยังเพ้อฝัน คิดว่าคุณหนูเฉียวจะเลือกเป็นหุ้นส่วนกับเธองั้นเหรอ?”
ฉินเจิ้นเจียงตะคอกด้วยความโกรธ "เธออยู่ที่นี่ มีเพียงแต่จะทำให้ตระกูลฉินทั้งหมดสูญเสียโอกาสมากกว่าเดิมเสียอีก!"
“ฉินเสวี่ยเหยา เมื่อวานผู้ชายเถื่อนของเธอคลั่งเป็นบ้า บีบคอคุณชายเฉียวจนเกือบตาย เธอลืมไปแล้วงั้นเหรอ?”
ฉินฉางเฟิงตะคอกอย่างเย็นชา "ถ้าวันนี้เธอมาคนเดียว ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง!"
“แต่เธอดันพาไอ้บ้านนอกไร้ค่านี่มาที่นี่!”
“เธอจะรนหาที่ตายก็เรื่องของเธอ แต่อย่าทำให้ตระกูลฉินของเราต้องเดือดร้อนไปด้วย!”
ทุกคนตกตะลึงทันที หลังจากที่แฟนหนุ่มของฉินเสวี่ยเหยาฟื้นขึ้นมา ก็เกือบจะฆ่าเฉียวซานซีเลยเหรอ?
นี่มัน ไม่น่าแปลกใจที่ตระกูลฉินต้องการตัดความสัมพันธ์กับฉินเสวี่ยเหยา
“ฉินฉางเฟิง ถ้าแกยังเห่าไม่หยุด เชื่อไหมว่าฉันจะทำให้แกกลายเป็นขยะจริงๆ?”
หลินไป๋พูดอย่างเย็นชา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยากเห็นเฉียวเฟยเยณอย่างราบรื่น เขาคงลงมือไปแล้ว
“ตระกูลฉินของพวกแกอยากตัดความสัมพันธ์กับเสวี่ยเหยา ไม่มีปัญหา!”
“แต่ถ้าเสวี่ยเหยาและเฉียวเฟยเยณเป็นหุ้นส่วนกันได้เมื่อไหร่ พวกแกอย่ามาขอร้องเธอก็แล้วกัน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลินไป๋ สมองเน่าๆ ของแกคงจะใช้งานไม่ได้แล้วสินะ?”
ฉาวจูนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ "แกทำให้คุณชายเฉียวไม่พอใจ ยังคิดที่จะเป็นหุ้นส่วนกับตระกูลเฉียวอีกงั้นเหรอ? "
“แกรีบไสหัวออกไปเสียดีกว่า เดี๋ยวถ้าคุณชายเฉียวมา แกได้ตายแน่!”
“ฉาวจูน ตั้งแต่ที่เรียนมหาลัย ฉันไม่เข้าใจเลยว่า ฉันไม่เคยขุดหลุมศพบรรพบุรุษของแก ไม่เคยหลับนอนกับแฟนของแก”
หลินไป๋มองไปที่ฉาวจูนอย่างเย็นชา "แต่แกกัดฉันไม่ปล่อยอย่างกับหมาบ้า เป็นเพราะอะไรกัน? "
“แต่ฉันพอจะจำได้แล้วว่า เมื่อสามปีก่อน ตอนที่ฉันโดนรถชน เหมือนว่าแกจะยืนอยู่ข้างหลังฉันใช่ไหม?”
หลินไป๋ไม่รู้ว่าใครเป็นคนผลักเขา แต่ตอนนี้ เขาสงสัยฉาวจูนเป็นอย่างมาก
“หลินไป๋ ตอนนี้กำลังพูดถึงเรื่องที่นายจะล่มงานเลี้ยง อย่าโยงไปถึงเรื่องอดีต!”
ความตื่นตระหนกแวบขึ้นมาในดวงตาของฉาวจูน"ฉันขอบอกแก ที่แกใส่ร้ายคุณหนูซ่งยังถือเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้านายทำลายงานเลี้ยงของคุณหนูเฉียว ไม่มีใครในเมืองเจียง สามารถช่วยแกได้สักคน!"
“ถ้าตอนนี้แกออกไปเสียโดยดี อาจจะพอรักษาชีวิตหมาๆ ของแกได้!”
หลินไป๋จับความตื่นตระหนกในสายตาของฉาวจูนได้ ดูเหมือนว่า ที่โดนรถชนเมื่อสามปีก่อน ต้องเกี่ยวข้องกับฉาวจูนแน่ๆ!
“หลินไป๋ ฟังเพื่อนร่วมชั้นของแก แล้วรีบไสหัวกลับไปสะ!”
ฉินฉางเฟิงหัวเราะเยาะ "แกช่วยมีสติหน่อย คนจนที่มาจากบ้านนอกอย่างแก ไม่คู่ควรที่จะเข้าสังคมชนชั้นสูงของพวกฉัน!"
“ถึงแม้แกจะตกฉินเสวี่ยเหยาได้ แต่ใช่ว่าแกจะอยุ่ในระดับเดียวกันกับพวกเราได้ แกมีแต่จะลากเธอลงไปให้ต่ำเหมือนแกไง!”
“ฉินฉางเฟิง ในสายตาของฉัน แกกับฉาวจูน ก็เป็นพวกต่ำทรามประเภทเดียวกันนั่นแหละ”
เสียงของ หลินไป๋เย็นชาเล็กน้อย "ก่อนที่เฉียวเฟยเยณจะปรากฏตัว ฉันขี้เกียจสั่งสอนสวะอย่างพวกแก แต่ถ้าแกยืนกรานที่จะรนหาเรื่องตาย ฉันไม่รังเกียจที่จะหักขาแกอีกครั้ง!"
"แก……"
ฉินฉางเฟิงค่อนข้างโกรธ แต่ก็แอบกลัวเช่นกัน
“เอาล่ะ หลินไป๋ แกคิดว่าคุณหนูเฉียวจะเลือกเป็นหุ้นส่วนกับฉินเสวี่ยเหยาใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นแกกล้าเดิมพันกับฉันไหม?”
“ถ้าฉินเสวี่ยเหยาไม่ถูกคุณหนูเฉียวเลือก นอกจากฉินเสวี่ยเหยาต้องถูกไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว แกยังต้องหักขาของแกเองด้วย!”
“กล้าเดิมพันไหม? ถ้าไม่กล้าเดิมพันก็รีบไสหัวออกไป!”
