บท
ตั้งค่า

เพื่อให้ความหวัง!!

ครืด ครืด

“ขึ้นไปกันก่อน!” ผมตะโกนบอกทั้งสามคนที่อยู่เบื้องหลังของผมก่อนที่ผมจะค่อยๆลดความเร็วลง จนทำให้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา

“แล้วพี่!-”

“ขึ้นไป” ผมกล่าวออกไป ทำให้หงส์ยอมตอบรับ ประตูทางเข้าห้องโดยสารของเครื่องบินเปิดอยู่และมีพ่อคอยรับ ระหว่างที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆรวมถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

“แต่มานานายหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!?” ควีนกล่าวถามผม ทำให้ผมยิ้มออกมา

“ที่นี่ผมฝากคุณด้วยนะ”

“ไว้แข็งแกร่งแล้วต้องกลับมากวาดล้างพวกมันให้ได้”

“ให้ฟิวส์พาไปที่เซฟโซน…โดดร่มลงไป”

“เอสจะเป็นคนที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ถ้าหากเรื่องไหนที่คุณไม่สามารถทำได้” ผมกล่าวออกไปพร้อมกับแสดงสีหน้าและสายตาที่มุ่งมั่น มันทำให้ควีนเม้มปากก่อนที่จะยอมปีนขึ้นไปข้างบนอย่างโดยดี

“คุณสร้างผมมาให้ฆ่าล้างพวกซอมบี้ไม่ใช่รึไง?”

“ในตอนนี้มันอยู่เบื้องหลังของผมแล้ว…” เขากล่าวออกมาราวกับรู้ว่าผมจะสั่งให้เขาขึ้นไป ซึ่งมันก็จริง ผมต้องการให้พวกเขาทั้งหมดปลอดภัย และมันต้องมีคนคอยจัดการภัยคุกคามให้ เพื่อเครื่องบินสามารถออกตัวได้อย่างปลอดภัย

ฮึกๆ ฮาาสส

เมื่อผมหันกลับไปมองเบื้องหลังตามที่เอสกล่าว ทำให้ผมได้เห็นกองทัพซอมบี้มากมายเป็นร้อยๆตัวหรืออาจจะมากกว่าพันตัวด้วยซ้ำ ทั้งยังมีซอมบี้กลายพันธ์ระดับสองอีกสองตัวที่วิ่งไล่ตามพวกเราจนสามารถกลับมานำหน้าพวกซอมบี้ได้อีกครั้ง

“พลังงานของนายใกล้จะหมด" ผมกล่าว เพราะในตอนที่เขาหลอกล่อซอมบี้มีทเอาไว้เขาได้ใช้ทักษะหลบเลี่ยงไปมากมาย และยังคงเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง เขาไม่ได้มีทักษะติดตัวเช่นเดียวกับผม หงส์หรือควีน และที่ผมส่งทั้งสองคนขึ้นไปเพราะควีนและหงส์ยังสามารถใช้ปืนและหน้าไม้ในการโจมตีระยะไกลได้

“ตอนนี้มันคืองานเบื้องหน้า”

“ส่วนนายคือเงาที่อยู่เบื้องหลัง”

“เลือกเองล่ะกัน…ว่าอยากจะ-!!!” ในขณะที่ผมกำลังกล่าว ผมรู้สึกถึงบางสิ่งที่อันตรายใกล้เข้ามา และมันเข้ามาใกล้เร็วมากๆ

วูบบบบบ

‘หลบไม่ได้!!’ ผมคิดในใจ เพียงเสี้ยวพริบตานั้นผมได้เห็นซอมบี้มีทตัวที่ผมใช้หอกเจาะทะลุหน้าขาของมัน มันได้ใช้ชาร์จพุ่งเข้ามาทางผม แต่ถ้าหากผมหลบ มันจะชนเข้ากับเครื่องบินเต็มๆ

ฉึก ฟูบบบบ ตุบ ฟิ้ววว

ผมจึงเลือกที่จะไม่หลบ และใช้หอกเล่มสุดท้ายที่ผมได้ทำไว้ออกมาแทงที่หน้าท้องของมันและพยายามใช้พละกำลังทั้งหมดยื้อมันไว้ และแน่นอนว่าผมไม่สามารถสู้กับพละกำลังของมันได้ทำให้ร่างของผมต้องลอยไปตามแรงของมัน และในวินาทีนั้นเงาก็ปรากฏขึ้นข้างๆผม

เขาได้ใช้แผ่นเหล็กซึ่งถูกทำเป็นโล่พุ่งกระแทกแขนของมัน เอสสามารถทำให้ซอมบี้มีทเสียหลักและหยุดยั้งทักษะชาร์จเอาไว้ได้ แต่มันก็ทำให้เอสที่ถูกผลกระทบเข้าอย่างจังถึงกับแขนหักและหมดสติกระเด็นไปบนอากาศ

ฟึบๆ

“รับ!” ผมรีบพุ่งตรงไปรับร่างของเอสก่อนที่ร่างของเขาจะถึงพื้น และตะโกนกล่าวกับควีนและหงส์ที่กำลังช่วยยิงกองทัพซอมบี้แนวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผมได้โยนร่างของเอสขึ้นไปบริเวณนั้นทันที และก็เป็นควีนที่รับร่างนั้นเอาไว้ ส่วนผมก็ได้กลับมาให้ความสนใจกับพวกซอมบี้เบื้องหลัง

‘ฉันประมาทเกินไป’ ผมคิดในใจพลางให้ความสนใจกับซอมบี้มีทมากกว่านี้ และเมื่อมันตั้งหลักได้อีกครั้งมันก็ร้องคำรามและวิ่งไล่พวกเราต่อ ซึ่งผมเองก็ต้องลดความเร็วลงเพื่อจัดการซอมบี้ส่วนท้ายของเครื่องบิน เพราะพวกมันใกล้จะถึงล้อเครื่องบินซึ่งอยู่ติดบนพื้น ถ้าหากพวกมันจับล้อนั้นไว้เท่ากับว่าพรรคพวกของผมที่อยู่บนเครื่องบินกำลังอยู่ในอันตราย

ฉับๆๆๆๆ

ผมพยายามจัดการซอมบี้ที่เข้าใกล้ล้อเครื่องบินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งซอมบี้มีทตัวที่สมประกอบมากที่สุดก็ได้กลับมาตั้งเป้าหมายที่ผมเช่นเดิม ผมจึงไม่สามารถอยู่ใกล้ล้อได้มาก เพราะถ้าหากมันใช้ชาร์จแล้วมันบังเอิญเข้าในแนวทางของล้อเครื่องบินพอดี มีหวังเครื่องบินทรุดลงแน่ๆ

“ใกล้แล้ว!!” เสียงใสตะโกนบอกผม เพราะผมอยู่ใต้ท้องเครื่องบิน และพวกเธอก็กำลังพยายามจัดการซอมบี้โดยรอบของผมให้

“ตัดเมฆ!” ผมได้ใช้ทักษะอีกครั้ง และเหมือนเดิม ผมรีดเค้นมานาออกมาจนเกลี้ยงและวาดหอกออกไปเป็นแนวนอน การโจมตีของผมทำให้มีคลื่นพลังยื่นออกไปราวกับปลายหอกยาวขึ้น มันได้ตัดหัวพวกซอมบี้ไปหลายสิบตัวในครั้งเดียว แต่การโจมตีสุดอลังการนี้ก็กินมานาของผมไปจนหมด รวมถึงหลอดพลังงานของผมที่เกือบจะหมด เหลือเพียงปลายนิ้วก้อย

ครืนน

ในตอนนี้เครื่องยนต์ส่วนปีกของเครื่องบินได้ถูกเร่งเครื่อง มันบ่งบอกว่าฟิวส์กำลังจะนำเครื่องขึ้นฟ้าหรือการเทคออฟ แต่ในตอนนั้นเอง ซอมบี้มีทตัวที่สมประกอบที่สุดได้ใช้ชาร์จอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากมันขาหักหรือขาขาด มันจะไม่สามรถใช้ได้ แต่ผมก็ไม่มีอะไรใช้ในการทำลายส่วนขาของมันได้แล้ว

และมันก็เป็นเช่นเดิม ถ้าหากผมหลบ เครื่องบินจะถูกโจมตี และถูกผลักกระเด็น ผมจึงเลือกเช่นเดิม ผมจะต้องอยู่! ผมจะต้องขัดขวางมันลงให้ได้!

แต่ถ้าหากผมรับการโจมตีของมัน พลังงานผมจะหมดลง แย่ที่สุดคือผมจะหมดสติ แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก ผมต้องทำ! เพื่อให้ครอบครัวของผมรอด! เพื่อให้ความหวังของมนุษยชาติมีชีวิตรอดต่อไป!

“มาดิ!มาเลย!” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบมีดยาวออกมาจากมิติ ในตอนนี้ผมมีเพียงอาวุธสั้น และอาวุธปืน ก่อนอื่นผมจะต้องออกไปให้ไกลเครื่องบินมากที่สุด แต่ด้วยพลังงานของผมที่ใกล้จะหมดลง มันทำให้ผมเคลื่อนไหวช้าลงมาก และเริ่มรู้สึกหน่วงๆ แต่ผมคิดเพียงอย่างเดียว

ครอบครัวของผมต้องรอด!

“คุณสามารถทำมันได้!!” โตโต้ตะโกนออกมาพร้อมกับผมที่รู้สึกมีสิ่งของถูกเขวี้ยงมาจากเบื้องหลัง ผมหันหลังกลับไปรับสิ่งของนั้นมา และปรากฏว่ามันคือโล่เหล็กของเอส ซึ่งสายตาของผมในตอนนั้นได้ไปหยุดที่มือของโตโต้ เหมือนเขาจะส่งสัญญาณให้มือของเขาขยับไปมา เพื่อให้มันโดดเด่นที่สุด ในมือของเขามีระเบิด!

“ขาของมัน!” ผมตะโกนบอกเขาก่อนที่เขาจะเขวี้ยงระเบิดออกไปในบริเวณที่ผมบอก และก่อนที่ระเบิดจะลงสู่พื้น หงส์ก็ได้ยิงมาไปที่ลูกระเบิด ซึ่งเหมือนเธอจะทำให้ระเบิดรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

แต่เดี๋ยวนะ…

เธอรู้ได้ยังไง!?

แต่ในตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการนำเครื่องบินขึ้นอย่างปลอดภัย

ตู้ม ฟิ้วว ฟึบ

“ขึ้นเลย!ขึ้นเลย!!” ควีนตะโกนลั่นเมื่อสามารถรับร่างของมังกรเอาไว้ได้

“ลูกปลอดภัยแล้ว!ปลอดภัยแล้ว!” และในทันทีที่ร่างของมังกรถูกรับไว้ได้ด้วยควีนและโตโต้ แม่ของมังกรก็พุ่งเข้ามาโอบกอดร่างของลูกชายตนเองในทันที เธอเป็นห่วงมังกรมากถึงมากที่สุด แต่ในเมื่อมังกรยืนยันที่จะกระทำอะไรแล้ว เธอคิดว่าเธอเองก็ไม่สามารถห้ามอะไรเขาไว้ได้ เพราะถ้าเขาจะทำอะไรมันต้องมีเหตุผลเสมอ และเหตุผลในครั้งนี้จะเป็นเพราะว่าเขาต้องการให้ทุกคนปลอดภัย เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุด ว่องไวที่สุด และมีทักษะที่ยอดเยี่ยมที่สุด

“พี่มังกร” หงส์กล่าวออกมา แต่เธอก็ไม่สามารถเดินออกจากพื้นที่ของเธอได้ เธอยังต้องดูล้อเครื่องบินที่กำลังถูกนำขึ้น เผื่อจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ซึ่งในระหว่างนั้นเธอก็ได้ยิงลูกธนูมานาของเธอออกไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการลดจำนวนซอมบี้ให้มากที่สุดก่อนที่เธอจะไปจากแผ่นดินประเทศไทย

ครืนนนน วึบ

จนในที่สุดเครื่องก็ได้ถูกนำขึ้นพร้อมกับประตูทางเข้าได้ถูกปิดลง ทุกคนได้ช่วยกันยกร่างของมังกรขึ้นมานั่งบนเก้าอี้พร้อมกับรัดเข็มขัดให้เรียบร้อยเช่นเดียวกับร่างของเอส ก่อนที่ทุกคนจะนั่งที่และรัดเข็มขัดให้เรียบร้อยเหมือนกับทั้งสอง

“Cabin Crew be Seated for Take-off” ฟิวส์กล่าว เสียงของเขาดังไปทั่วเครื่องบิน ซึ่งเมื่อเขากล่าวจบเครื่องบินก็เริ่มแหงนหน้าขึ้น และพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า

“สถานที่ที่เราจะไปก่อนประเทศญี่ปุ่นคือเซฟโซน”

“ย้ำ…เซฟโซน” ฟิวส์กล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่โรงแรมมังกรได้วางแผนกับตนไว้มากมาย จนในตอนนี้มันอยู่ตามแผนของมังกรที่ว่าในสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้าหากคนที่ตนต้องการให้อยู่ที่นี่มาด้วย ให้พาเขากลับไปที่เซฟโซนและให้ใช้ร่มชูชีพปล่อยตัวลงไป ซึ่งคนที่มังกรจะให้อยู่ก็คือพวกของควีนและเอส

และเมื่อสิ้นสุดเสียงของฟิวส์ ทุกอย่างก็เงียบลงมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกเร่ง และเสียงอากาศราวกับกำลังถูกฟาดฟัน จนในที่สุดทุกๆคนก็เริ่มเจ็บปวดหูด้วยความกดดันของชั้นบรรยากาศ

“มังกรได้บอกเป้าหมายของเขาเอาไว้หรือเปล่า?” ควีนกล่าวถามหงส์ที่เป็นน้องสาว

“ได้ยินว่าเขาจะไปออนเซ็นอะไรสักอย่างที่ญี่ปุ่นนี่แหละ”

“เขาเชื่อว่าผลึกสีฟ้ามีผลกับน้ำแร่ของออนเซ็น” หงส์กล่าวออกมาตามที่เธอสรุปความได้จากพี่ชายของเธอ

“งั้นเหรอ”

“แล้วเขาบอกไว้หรือเปล่าว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?” ควีนกล่าวถามต่อ เพราะตั้งแต่เจอกันควีนและมังกรก็ยังไม่ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับอนาคต เธอจึงต้องการรับรู้เอาไว้ก่อน เพื่อวางแผนใน่สวนที่เธอต้องทำ

“เขาไม่เคยพูดเรื่องนั้น” หงส์กล่าวออกมาด้วยความหนักใจ

“ซึ่งสรุปได้ว่าเขาต้องการให้เอส"

“หรือเงา…เขาเรียกนายอย่างนั้น?”

“เขาต้องการให้นายมาช่วยงานฉัน?” ควีนหันไปกล่าวถามเอส เพราะก่อนที่ควีนจะขึ้นเครื่องบิน มังกรได้กล่าวไว้เช่นนี้จริงๆ

“เขากล่าวไว้แบบนี้จริงๆ” เอสกล่าวตอบรับ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ต้องการจะอยู่ที่นี่ เขาต้องการติดตามมังกรต่อไป เพราะการที่ได้อยู่เคียงข้างกับชายคนนี้แล้วนอกจากปลอดภัยมันก็จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นด้วย ทั้งการฝึกจากเขาและการที่เขาพาไปลงดันเจี้ยนหรือสถานที่อันตราย

“ถ้าอย่างนั้น…”

“ฉันยินดีที่ได้รูจัก”

“ฉันชื่อควีน…เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยรบพิเศษของประเทศไทย”

“ยศพันเอก” เมื่อกล่าวถึงตำแหน่งของเธอในกองทัพ มันทำให้ทุกคนอึ้งมาก มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อกับเธอที่เป็นหญิงสาว แถมยังสวยด้วย เป็นถึงหัวหน้าหน่วยรบพิเศษที่มีแต่ผู้ชายสุดแข็งแกร่ง และยังมียศที่สูงพอสมควร

“ส่วนเขาคือคนที่กล่าวเรื่องมังกรกับฉัน”

“เขาชื่อว่าเจมส์…เป็นอดีตลูกน้องของฉันในสังกัดหน่วยรบพิเศษ” เธอกล่าวแนะนำพรรคพวกของตนเอง

“หัวหน้าเองก็เป็นอดีตหัวหน้าหน่วยรบพิเศษไม่ใช่รึไง?” เจมส์กล่าวท้วง

“เพราะอะไรคุณถึงออกกองทัพทหาร?” เอสกล่าวถามด้วยความสงสัย

“ทหารมีอาวุธและได้รับการฝึก”

“อยู่กับทหารจะปลอดภัยมิใช่หรือ?” พ่อของมังกรกล่าวถามออกมาเช่นกัน

“สิ่งเดียวเลยนะคะ”

“เขา”

“เขาคนเดียวแข็งแกร่งกว่าทหารหรือตำรวจนับร้อยเสียอีก" ควีนกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ ซึ่งทุกคนเห็นด้วยกับคำกล่าวของเธอ

“ส่วนเจ้าเด็กบ้านั่น”

“มันขโมยระเบิดของฉันไป…ค่อยกลับไปสั่งสอน”

“เขาชื่อว่าโตโต้”

“เป็นเด็กที่ฉลาดและคาดเดายากมากๆ” ควีนกล่าวออกมาด้วยความแค้นที่กล้าขโมยของของเธอ น่าจะเป็นช่วงที่เธอได้ให้ความสนใจกับการช่วยเหลือมังกร และเธอก็ไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับอันตราย เพราะโตโต้ไม่ได้มีความคิดที่จะผลักเธอ หรือจงใจทำร้ายเธอ เพียงแค่ดึงระเบิดที่บริเวณเอวของเธอออกมาเท่านั้น

“ผมชื่อเอส”

“พี่มังกรกล่าวไว้เสมอว่าผมสามารถจัดการเรื่องที่คุณไม่สามารถจัดการให้ได้”

“ถ้ามีเรื่องอะไรแบบนั้นคุณมอบมันให้ผมจัดการได้เลย”

“แต่อย่าเข้าใจผิด…ผมรับคำสั่งเพียงแค่พี่มังกรเท่านั้น” เอสกล่าวออกมาอย่างจริงจัง ซึ่งมันทำให้ทุกๆคนรับรู้เอาไว้ และจากการหยุดซอมบี้มีทเพื่อช่วยชีวิตมังกรและเอาตนเองเข้าแลก มันได้เห็นถึงความซื่อสัตย์ของเขาแล้ว

“เตรียมตัว” เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ควีนเริ่มสวมร่มชูชีพให้กับเจ้าเด็กบ้าที่เธอเรียกทันที และเริ่มสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับการโดดร่ม

“ขอให้ทุกคนโชคดี”

“ดราก้อนโชคดี…ดราก้อนโชคดี” เมื่อเจ้านกแก้วสุดฉลาดกล่าวออกมันทำให้ทุกคนถึงกับอมยิ้ม

“ฝากบอกเขาด้วยว่าฉันจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด” ควีนกล่าวออกมาก่อนที่เธอจะเปิดประตูทางเข้าเครื่องบินออก

“อืม” ในขณะที่ทุกคนรวมตัวบอกลากันอยู่บริเวณประตูทางเข้าเครื่องบิน ร่างหนึ่งได้ส่งเสียงตอบรับออกมา เมื่อทุกสายตาหันกลับไปก็ได้พบกับมังกรที่ฟื้นคืนสติกลับมาแล้ว

“หึ” ควีนหัวเราะเบาๆก่อนที่จะโบกมือลาและกระโดดลงไปจากเครื่องบินเป็นคนสุดท้ายพร้อมกับโตโต้

ฉึก

ผมได้ปลดเข็มขัดที่รัดบริเวณเอวของผมอยู่และรีบเดินไปหาหงส์ที่กำลังจะปิดประตู พร้อมกับหยิบหน้าไม้ของหงส์ขึ้นมามอบให้กับเธอ และจับแขนทั้งสองข้างของเธอเล็งหน้าไม้ลงไปเบื้องล่าง ซึ่งเราได้เห็นร่างทั้งสี่ร่างกำลังโรยตัวลงไปสู่พื้นดิน

“เล็งพวกเขา”

"แล้วปลดปล่อยมานาออกไปเมื่อมานาของพี่ไหลเข้าสู่มือของเธอ" ผมกล่าวพร้อมกับเริ่มส่งมานาเข้าไปที่แขนทั้งสองข้างของหงส์

วุบ วุบ วุบ วุบ

มานาทั้งสี่ได้ถูกยิงออกไป แต่มันไม่ได้เป็นลูกธนู มันเป็นก้อนกลมๆที่ดูไม่มีอันตรายใดๆ และเมื่อมานาก้อนกลมสีน้ำเงินอมฟ้าได้ซึบซับเข้าไปสู่ร่างของทั้งสี่ เนื่องจากพวกเขาก็ไม่ได้หลบหลีก เพราะมานาที่ถูกยิงออกมามันไม่ได้มีพลังทำลายล้างอย่างที่พวกเขาสัมผัสได้

“มันคือ…อะไร?” หงส์กล่าวถามด้วยความสงสัยก่อนที่ผมจะปิดประตูเครื่องบินลง ทำให้ลมที่กรรโชกหยุดลงทันที

“มานาลดแรงกระแทก”

“หนึ่งในทักษะขั้นสูงสุดของการใช้มานา”

“ต่อให้พวกเขาผิดพลาด”

“มากสุดตกลงพื้นก็แค่ฟกช้ำหรือถลอก" ผมกล่าวออกไปซึ่งมันทำให้หงส์ต้องรีบจำการใช้มานาของผมเมื่อครู่ เพราะมันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่เธอลืมไปหรือเปล่า? ว่าหลังจากนี้ผมสามารถสอนเธอได้ตลอดเวลาที่ว่าง

“พักผ่อนกันเถอะ”

“เดี๋ยวเราจะต้องไปลุยที่ญี่ปุ่นอีก” ผมกล่าวพร้อมกับเสียงไมค์ที่ถูกเปิด

“เริ่มเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น” และฟิวส์ก็ได้กล่าวออกมา

“สถานที่ลงจอดคือเกาะคีวชู”

“จังหวัดซากะ"

"เข้าสู่เมืองเบปปุ" เมื่อฟิวส์กล่าวจบไมค์ก็ถูกปิดลงอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel