ตอนที่ 4: คำสารภาพ - 3
ฉันเดินไปที่ห้องชมรมการแสดงด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนในใจ เมื่อเดินมาถึง ประตูห้องชมรมก็แง้มอยู่เล็กน้อย ฉันผลักประตูเข้าไป พบว่าภัทรยืนอยู่ตรงกลางห้องเพียงลำพัง ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวเล็กน้อย ดวงตาของเขาแดงก่ำ ราวกับเพิ่งร้องไห้มา
"ภัทร...มีอะไรเหรอ" ฉันถามด้วยความเป็นห่วง ฉันไม่เคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้มาก่อน
ภัทรเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ดวงตาของเขาจ้องมองฉันไม่ลดละ "ครูเมษา...ผมอยากจะสารภาพอะไรบางอย่างกับครูครับ"
ฉันรู้สึกใจเต้นแรงยิ่งขึ้น ฉันไม่รู้ว่าเขาจะสารภาพอะไร แต่ฉันก็รู้ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
"ว่ามาสิภัทร" ฉันพูดเสียงแผ่ว
ภัทรเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "ผมไม่ได้เจอครูเมษาแค่ตอนที่ครูมาฝึกสอนที่นี่นะครับ"
คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจ ฉันไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
"ผมเห็นครูมานานแล้วครับ ตั้งแต่ก่อนที่ครูจะมาที่นี่เสียอีก" ภัทรพูดต่อ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและอ่อนโยน "ผมติดตามครูมาตลอดครับ...ตั้งแต่ครูยังเรียนมหาวิทยาลัย"
คำสารภาพของภัทรทำให้โลกทั้งใบของฉันหยุดหมุน ฉันรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่าง ความรู้สึกตกใจ ความกลัว และความสับสนถาโถมเข้ามาในใจอย่างรุนแรง
"ภัทร...เธอพูดอะไรน่ะ" ฉันถามเสียงสั่น ฉันไม่เชื่อในสิ่งที่เขากำลังพูด
ภัทรยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด "ผมรู้ว่าครูอาจจะตกใจ แต่ผมพูดความจริงทุกอย่างครับ ผมเห็นครูครั้งแรกตอนที่ครูไปร่วมงานเปิดบ้านของมหาวิทยาลัยผม ครูเป็นเหมือนแสงสว่างที่เข้ามาในชีวิตของผม"
ภัทรเล่าเรื่องราวของเขาให้ฉันฟังอย่างละเอียด เขาบอกว่าเขาแอบติดตามฉันมาตลอด เขาพยายามหาทางที่จะเข้ามาใกล้ชิดฉันให้ได้มากที่สุด และเมื่อเขารู้ว่าฉันจะมาฝึกสอนที่โรงเรียนของเขา เขาก็รู้สึกเหมือนเป็นโชคชะตาที่ฟ้าลิขิตให้เรามาเจอกัน
คำสารภาพของภัทรทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนปากเหว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีคนคนหนึ่งกำลังติดตามฉันอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกกลัวและความไม่ปลอดภัยเข้าครอบงำจิตใจของฉันอย่างรุนแรง
"ภัทร...นี่มันไม่ถูกต้อง" ฉันพูดเสียงแข็ง "เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ"
ภัทรส่ายหน้าช้าๆ "ผมรู้ครับครู...แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้จริงๆ ผมรักครูมากครับ"
ฉันเงียบไปครู่หนึ่ง ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ฉันรู้สึกเหมือนถูกเขาต้อนจนมุม ฉันไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกของเขาได้อีกต่อไปแล้ว เพราะมันคือความรู้สึกที่ฉันเองก็กำลังรู้สึกเช่นกัน
ภัทรก้าวเข้ามาใกล้ฉันอีกก้าว เขายื่นมือมาจับมือของฉันอย่างช้าๆ นิ้วเรียวยาวของเขาสัมผัสกับนิ้วของฉันอย่างอ่อนโยน แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่าวไปทั่วทั้งฝ่ามือ
"ผมขอโอกาสนะครับครูเมษา" ภัทรพูดเสียงแผ่ว "ผมจะพิสูจน์ให้ครูเห็นว่าผมรักครูมากแค่ไหน"
ฉันมองหน้าภัทร ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความจริงใจ ฉันรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังเสนอให้ฉันมันคือ "พันธสัญญาที่มองไม่เห็น" พันธสัญญาที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉันไปตลอดกาล
ฉันรู้ว่าฉันควรจะปฏิเสธ แต่ในใจกลับมีเสียงหนึ่งกระซิบเบาๆ ว่า "ลองดูสิ"
ฉันหลับตาลงช้าๆ พยายามตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป ความรู้สึกผิดบาปและความกลัวยังคงวนเวียนอยู่ในใจ แต่ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่ดึงดูดฉันให้เข้าหาภัทรอย่างไม่อาจต้านทานได้
ในที่สุด ฉันก็ตัดสินใจที่จะให้โอกาสเขา ฉันพยักหน้าเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ภัทรยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความโล่งใจ เขากุมมือของฉันแน่นขึ้น ราวกับจะบอกว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยมือฉันไป
ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันกำลังทำลงไปนี้มันคือการเดิมพันครั้งใหญ่ในชีวิต และฉันก็ไม่รู้เลยว่ามันจะนำพาฉันไปสู่จุดไหน แต่ในตอนนี้...ฉันเลือกที่จะก้าวเดินไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงนี้
ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์เต็มดวงส่องแสงนวลลงมาบนพื้นดิน ราวกับจะบอกว่าค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล และเส้นทางที่ฉันกำลังจะก้าวเดินไปนั้นยังคงมืดมิดและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
คำถามเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวของฉันตอนนี้คือ...ฉันจะสามารถรักษาสมดุลระหว่าง "ครู" และ "คนรัก" ได้นานแค่ไหน? และพันธสัญญาที่มองไม่เห็นนี้ จะนำพาเราสองคนไปสู่จุดจบแบบไหน?
