บทที่ 10 ผู้ทรงอิทธิพล
อเล็กซ์ก้าวเดินออกมาจากโรงแรมขณะที่หิมะกำลังตกลงมาโปรยปรายราวกับเป็นละอองเกล็ดหิมะในชามน้ำแข็งไส ตรงมาที่รถด้วยท่าทีเงียบโดยไม่พูดสิ่งใดออกมา เช่นเดียวกับดามิทรีที่เดินออกมากับอเล็กซ์ด้วยเช่นกัน ดามิทรีเห็นว่าอเล็กซ์เงียบไปนานจึงหันใบหน้าไปถาม
“อเล็กซ์ นายยังคิดเรื่องอะไรอยู่เหรอ หรือว่าคิดเรื่องตารางในวันพรุ่งนี้” ดามิทรีเอ่ยถามอเล็กซ์ด้วยความสงสัย อเล็กซ์ขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดสิ่งใดอยู่ แล้วหันไปหาดามิทรีช้าๆ
“นายรู้จักซาชาใช่ไหม?” อเล็กซ์เอ่ยถามดามิทรีด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ก็พอจะรู้บ้างนะ ซาชาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในบริเวณนี้เลยล่ะ เพราะเขาเป็นเจ้าของที่ดินที่มากที่สุดในรัสเซีย ทำให้ทุกคนต่างยำเกรงเขาอย่างมาก แต่ว่าเขาไม่ค่อยออกมาจากบ้านหรอกนะ นานๆ ทีเขาจะออกมา ส่วนมากแล้วก็ให้ลูกน้องออกมาทำงานแทนมากกว่า วันนี้ที่ได้เห็นเขาไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่” ดามิทรีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
“ทำไมเหรอ” อเล็กซ์เอ่ยถามด้วยความสงสัยกับท่าทีของดามิทรีด้วยท่าทางเป็นกังวลใจ
“ไม่รู้ว่าเขาไปจัดการกับแก๊งไหนน่ะสิ เห็นว่าแก๊งมาเฟียในรัสเซียหลายต่อหลายแก๊งก็ถูกเขาถล่มราบคาบ หลายต่อหลายครั้งเขาก็เข้าไปจัดด้วยตัวคนเดียวเลย โดยไม่พาลูกน้องไปด้วย เขาไม่เคยเกรงกลัวใครเลย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ทางการยังต้องยอมสยบให้กับเขาเลย ถ้าใครไปมีเรื่องกับเขาไม่มีใครตายดีสักราย” ดามิทรีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัวเลยทีเดียว ซาชาไม่ใช่เป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างเดียว เขามีอำนาจจนผู้คนหวาดกลัวชื่อของเขาด้วยซ้ำ
“นายนี่รู้เรื่องของเขาเยอะจังนะ เป็นเอฟซีเขาหรือไง” อเล็กซ์เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มไม่เต็มใจเท่าที่ควร และเลิกคิวขึ้นมองไปยังดามิทรีที่มีท่าทีจริงจังในคำพูดของเขา
“ที่ฉันรู้ก็เพราะวลาดิเมียร์นั่นละ ลืมไปแล้วหรือว่าพี่ชายของวลาดิเมียร์ก็คือว่า วาซีลี เขาเคยเป็นรองหัวหน้าตระกูลอีวาโนโว แต่เพราะเขาต้องแต่งงานจึงออกจากแก๊งมาอยู่กับภรรยา เลยไม่กลับไปเป็นลูกน้องของตระกูลอีวาโนโวอีกเลย” ดามิทรีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เอ่อฉันลืมไป” อเล็กซ์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีอะไรจะถามอีกไหม ถ้าไม่มีเราก็แยกกันตรงนี้เลยนะ ฉันจะไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน หรือจะให้ฉันนั่งรถเมล์ไปส่งที่บ้านก่อนล่ะ” ดามิทรีเอ่ยถามอเล็กซ์ด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ไม่ต้องแล้ว ฉันกลับเองได้ ไว้เจอกันตอนเก้าโมงเช้าที่บ้านฉันนะ”
“ได้ครับเจ้านาย”
