บท
ตั้งค่า

Ep.1

ร่างอรชรขาวผ่องอมชมพูในชุดนอนเชิ้ตผ้าฝ้ายสียาวติดกระดุมด้านหน้าทุกเม็ด ทว่าหญิงสาวก็ยังดูเซ็กซี่เพราะขาเรียวสวยเรียบเนียนที่โผล่พ้นเสื้อตัวเดียวออกมานั่นเอง

นวลนางเป็นสาวไซส์มินิที่มีรูปร่างน่ามอง ทว่าเสน่ห์ของเธออยู่ที่คำพูดคำจาที่อ่อนน้อมถ่อมตนน่ารักและแสนหวานมากกว่า ใครที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าร้านดอกไม้นวลนางก็อดไม่ได้ที่จะแวะทักทายเจ้าของร้านคนสวยเสมอๆ แล้วสิ่งที่ทุกคนได้รับกลับมาก็คือไมตรีจิตที่จริงใจ ด้วยใบหน้าที่เบิกบานยิ้มแย้มแจ่มใสของเจ้าของร้านคนสวยที่มักจะตื่นแต่เช้ามารดน้ำดอกไม้ต้นไม้ของเธออยู่เป็นประจำ

“นาง วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ”

“เมื่อคืนนอนเร็ว ก็เลยตื่นแต่เช้าจ้ะน้าแหวง” เธอทักตอบเพื่อนบ้านเสมือนทักทายญาติสนิทก็ไม่ปาน ทุกคนในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียงจึงเอ็นดูเธอมาก

เมื่อก่อนครอบครัวของหญิงสาวยากจนมากๆ บ้านก็ติดจำนอง หนี้สินมากมาย ไฟฟ้ายังไม่มีจะใช้ นวลนางไม่เคยลืมค่ำคืนนั้นเลย คืนที่น้ำมันตะเกียงหมด พ่อให้ไปซื้อน้ำมันมาเติมตะเกียง แต่เธอกลับทำน้ำมันหกระหว่างทาง เธอโดนทุบตีด่าว่าสารพัด ตอนนั้นเธอยังเด็กนักจึงคิดในใจแน่วแน่ว่า ถ้าโตขึ้นสามารถทำงานได้ เธอจะทำให้พ่อกับแม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เหมือนกับพี่สาวคนหนึ่งที่อยู่บ้านข้างๆกัน

ณ วันนี้เธอทำฝันนั้นได้สำเร็จแล้ว เธอได้สร้างบ้านหลังใหญ่ที่สวยงามโดดเด่นที่สุดในหมู่บ้านให้พ่อกับแม่อยู่ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

“พี่นางคะ เมื่อกี้แฟนของพี่นางโทรมาจากฝรั่งเศสค่ะ เย็นนี้น่าจะถึงเมืองไทย แต่กว่าจะนั่งเครื่องต่อมาถึงบ้านเราคงดึกค่ะ” ผักหวานญาติห่างๆที่มาช่วยงานในบ้านและในร้านรายงาน เธอเป็นสาววัยสิบแปดปีที่พอเรียนจบชั้นประถมก็ช่วยพ่อแม่ทำนาส่งน้องๆเรียนเลย แต่เพราะความน่ารักและขยันนวลนางจึงชักชวนให้มาช่วยงานที่บ้าน พอว่างก็จะเข้ามาช่วยงานที่ร้านต่อ และสาวน้อยก็รักนวลนางเปรียบเสมือนพี่สาวแท้ๆคนหนึ่ง เพราะนวลนางใจดีกับเธอมาก

“ขอบใจจ้ะ งั้นก็ไปเอาเงินในกระเป๋าสีน้ำตาลบนหัวเตียง ไปหาซื้ออาหารสดและเครื่องดื่มมาเตรียมไว้ให้คุณคีสเขาด้วยนะ”

“จ้ะพี่นาง”

“เดี๋ยวหวาน”

“จะสั่งอะไรอีกหรือเปล่าคะ”

“ถ้าซื้ออะไรเสร็จแล้วมาเฝ้าร้านให้พี่ทั้งวันเลยนะ วันนี้พี่จะเข้าเมืองไปทำผมและทำสปาตัวสักหน่อยจ้ะ”

“ได้ค่ะพี่นาง” ผักหวานยิ้มแป้นออกไป

ส่วนนวลนางก็รดน้ำดอกไม้ต่อ ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นที่แฟนหนุ่มกำลังเดินทางมาหา เพราะนานๆทีคีสถึงจะมีเวลาปลีกตัวจากงานมาหาเธอที่เมืองไทยประมาณสามสี่เดือนครั้ง แต่ละครั้งก็อยู่กับเธอราวๆหนึ่งถึงสองอาทิตย์จนถึงเกือบเดือน

คีสเป็นหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆที่ผ่านผู้หญิงมาแล้วมากหน้าหลายตา พอมาเจอนวลนางเขาก็หลงเสน่ห์เธอตั้งแต่แรกพบสบตาเลยทีเดียว

ส่วนนวลนางเองก็ชอบเขาไม่น้อย ถึงขั้นรักหรือเปล่าหญิงสาวก็ไม่อยากคิดไปไกล เธอมักจะเผื่อหัวใจเอาไว้ให้กับตนเองเสมอๆ ตราบใดที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเธอก็ไม่อยากคาดหวังว่ารักนั้นจะดำเนินไปได้ยาวไกลสักแค่ไหน เพราะคีสกับเธอเพิ่งจะคบกันได้แค่ปีกว่าเท่านั้น แล้วเขาก็ยังไม่เคยพาเธอไปแนะนำตัวกับครอบครัวของเขาเลย ดังนั้นคบแบบเผื่อใจไว้ดีกว่า

ที่ไม่อยากคาดหวังรักแท้ก็เพราะเธอไม่ใช่กุหลาบแรกแย้มที่ไม่เคยต้องมือชาย เธอก็คล้ายดอกไม้ชนิดหนึ่งที่หลายคนมักเปรียบเปรยเสมอๆว่าเธอก็เป็นดั่ง ‘กระดังงาลนไฟ’ แต่เธอไม่ถือสาหรอก ก็แค่ปากชาวบ้าน ไม่ใช่คนในครอบครัวเสียหน่อย ทำไมจะต้องแคร์

เสียงกดกริ่งที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ทำให้ผักหวานที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องออกมาชะเง้อที่หน้าต่างดู ก็เห็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ผมสีบลอนด์เข้มยืนอยู่หน้าประตูรั้วก็รีบวิ่งลงไปเปิดประตูให้

“ขอบใจ” เขาพูดภาษาไทยได้บ้างบางคำตามที่นวลนางเคยสอน

“สวัสดีค่ะ เชิญเข้าข้างในบ้านก่อนค่ะ” เด็กสาวช่วยยกกระเป๋าใบเล็กพากันเดินเข้าไปในบ้านหลังงาม นวลนางก็ออกมารอต้อนรับด้วยรอยยิ้มหวานสดใสดั่งเช่นทุกครั้ง

“บงซัวร์ จู เมอ ม้อง โบวกูว” นวลนางทักทายเขาด้วยภาษาฝรั่งเศสว่า “สวัสดี ฉันคิดถึงคุณมากเลย” ทำเอาคีสปลื้มมาก เขาเข้าโอบกอดแฟนสาวทันทีด้วยความคิดถึงไม่แพ้กัน อาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ

“ผมก็คิดถึงคุณมากๆ” เขาพูดเป็นภาษาไทยที่ทำให้นวลนางยิ้มหน้าบานด้วยความตื้นตันใจเช่นกัน ดีใจที่เขายังจำภาษาไทยง่ายๆสั้นๆที่เธอสอนให้เขาได้ แต่หลังจากนั้นสองหนุ่มสาวก็คุยกันด้วยภาษาอังกฤษ เพราะนวลนางก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้ไม่กี่ประโยคเท่านั้น

บ้านหลังกะทัดรัดนี้ที่อยู่หลังร้านขายดอกไม้เป็นบ้านอีกหลังที่แยกออกมาต่างหากจากบ้านของพ่อกับแม่ นวลนางมักไปๆมาๆระหว่างบ้านหลังนี้ของเธอกับบ้านของพ่อกับแม่เป็นประจำ แต่ถ้าวันไหนมีเพื่อนมานอนค้างหรือแฟนหนุ่มมาหาเธอก็จะพามานอนที่บ้านหลังนี้เสมอๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel