Evil With Love 10 - การต้อนรับ
ทันทีที่เฌอรินก้าวเข้ามาภายในบ้าน ท่ามกลางสายตาของเหล่าแม่บ้านและบอดี้การ์ดหนุ่มที่กำลังยืนมองมาที่เธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“เออ...สวัสดีค่ะ”
เธอกล่าวทักทาย แต่เหมือนทุกคนจะเฉยชาต่อการมาของเธอ ส่วนเฌอรินแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับปราบ นอกจากที่รู้ว่าเขาเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของพ่อเธอ เธอเองเพิ่งเรียบจบและยังไม่ได้เริ่มหัดทำธุรกิจอะไรอย่างพี่สาว และยิ่งแทบจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยด้วยซ้ำ เมื่ออยู่ ๆ ทางปราบก็ส่งคนให้มารับตัวเธอเข้ามาอยู่ในบ้านเขากะทันหัน โดยอ้างว่าเป็นการปรับตัวก่อนการแต่งงานอีกสามเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง
“เชิญที่ห้องรับแขกค่ะ”
แม่บ้านที่ดูจะอาวุโสเอ่ยแต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย เฌอรินที่ต้องลากกระเป๋าใบเขื่องเข้ามาไม่มีแม้แต่คนรับใช้ภายในบ้านจะยื่นมือเข้ามาช่วย เธอได้แต่เม้มปากอย่างอดทน เพราะนี่เป็นทางที่เธอตัดสินใจเลือกแล้วและเธอก็ต้องทนให้ได้
ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะมองไปรอบ ๆ อย่างทำใจ ถึงอย่างนั้นเฌอรินก็ยังพยายามรวบรวมความกล้าอีกครั้งก่อนจะถามหาคนที่เธอควรจะต้องทำความรู้จักเพื่อเป็นสามีของตัวเองในอนาคต
“แล้วคุณปราบละคะ”
“คุณปราบให้ผมลงมาต้อนรับแทนครับ คุณปราบแจ้งว่ากำลังติดงานอยู่ไม่ว่างลงมารับด้วยตัวเอง”
เสียงจากก้องภพที่เพิ่งเดินลงมาจากบันได ก่อนที่เขาจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเฌอริน ใบหน้าเคร่งขรึมแต่แฝงไปด้วยความสุภาพโน้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อทักทาย
ทว่าทันทีที่เห็นหน้ากลับให้ทำก้องภพนึกแปลกใจ
เฌอรินที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับดูอ่อนหวานราวกลับตุ๊กตา ดวงตากลมคู่ใสดูบริสุทธิ์และใสซื่อ ไม่เหมือนกับผู้หญิงนักท่องราตรีในรูปภาพที่เขาได้รับจากนักสืบเลยสักนิด ทว่าหากแต่ดูจากทรงผมสีผมและการแต่งกายก็คงเป็นคนอื่นไปไม่ได้ รวมถึงรูปที่ลงจากรถตอนกลางคืนก็ยืนยันได้ว่าเป็นรถที่ขับออกมาจากตระกูลดิษสถาวงษ์ ซ้ำภาพถ่ายจากในผับเป็นที่มืดก็มองเห็นแค่ด้านหลังของหญิงสาวที่กำลังยืนกอดจูบกับชายหนุ่มไม่ซ้ำหน้าก็เป็นอื่นใดไม่ได้นอกจากเธอคนนี้
แต่ก็อย่างว่า ...คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
“อ่อค่ะ ไม่เป็นไร ให้รินเรียกคุณว่าอะไรดีคะ” เฌอรินยิ้มบาง ๆ ทักทาย อย่างน้อยตั้งแต่เข้ามาในบ้านหลังนี้ก็เพิ่งจะมีคนพูดกับเธอเป็นประโยคยาว ๆ เป็นคนแรก
“ผมก้องภพ เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณปราบครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณก้องภพ ว่าแต่...จะให้รินเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บที่ห้องไหนดีคะ”
“งั้นเชิญทางนี้ครับ ตามผมมา”
ก้องภพเดินเข้ามาช่วยหยิบกระเป๋าเดินทางให้เฌอริน ก่อนจะเดินนำเธอไปยังห้องพักที่ปราบให้คนมาเตรียมเอาไว้
หญิงสาวตามขึ้นบันไดไปด้านบน ก่อนที่ก้องภพจะเดินพาเฌอรินมาจนเกือบสุดทางเดินของฝั่งซ้าย
“นี่ครับ ห้องของคุณ”
ใช่...มองดูเหมือนกับว่าเฌอรินจะได้อยู่ในห้องที่เหมือนเป็นหลืบในมุมอับ จนเธอแทบจะนึกว่านี่เป็นห้องเก็บห้อง
“ห้องฉัน?”
“ครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
ก้องภพขอตัวทันที ปล่อยให้เฌอรินกลับมารู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาอีกครั้ง ถึงจะอยากถามอะไรอีกฝ่ายต่อสักหน่อยแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะก้องภพเดินจากไปทันทีหลังจากที่เขาพูดจบ
ไฟภายในห้องถูกเปิดขึ้น พร้อมกับฝุ่นผงที่ฟุ้งกระจายคล้ายขาดการเก็บกวาดมาหลายปี
"หา...นี่อะนะห้องนอน!"
เฌอรินมองสะตั้นก่อนจะยืนค้างไปหลายวินาที รู้สึกห่อเหี่ยวที่ได้เห็นห้องตัวเอง ตอนแรกก็คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะดูสวยงามและสะดวกสบายมากกว่านี้
คิดถึงห้องนอนที่บ้านเธอยังใหญ่กว่านี้อีกเป็นสี่เท่า ถึงแม้ว่าภายในห้องนี้มีห้องน้ำอยู่ในตัวแต่ขนาดมันกลับดูเล็กกว่าที่เธอคิดไว้ ถ้าเทียบก็คงจะเหมือนกับห้องเช่าไม่ก็คอนโดเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้ทำอะไรได้มากนอกจากนอนและเดินไปมาตรงพื้นที่ด้านล่างได้
เธอหันไปดูเตียงขนาดห้าฟุตที่แค่วางเพียงอันเดียวพื้นที่ห้องก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ก่อนจะค่อยๆ เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนฟูกนุ่มๆ ของผ้าปูที่นอนสีขาว
“นี่สินะการต้อนรับเป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด”
หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่ค่อยสบายใจ
