ตอนที่ 3 น่าเกลียดจริง ๆ
วันต่อมา ~~
เช้าวันใหม่ที่ใครหลาย ๆ คนต้องตื่นขึ้นไปทำงานตามวิถีเช่นเดียวกับหญิงสาวร่างเพรียวในชุดเดรสแขนสั้นสีหวาน ใบหน้าจิ้มลิ้มถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อน ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ผมสีดำยาวตรงปลายลอนวอลลุ่ม แผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ท่าทางแลดูสุภาพเรียบร้อยตามแบบฉบับสาวเอเชีย พร้อมกับกระเป๋าสะพายคู่ใจรวมถึงแฟ้มเอกสารในมือ เธอกำลังยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าคอนโด พลางงับแซนด์วิชแสนอร่อยไปด้วยเนื่องจากไม่มีเวลามากพอในการทำอาหาร
“วันนี้ไปทำงานเช้าจังหนูใบชา? “ป้าแม่บ้านขาประจำเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม ในมือเต็มไปด้วยถุงอาหารต่าง ๆ หลากหลายชนิด
“ค่ะป้าติ๋ม วันนี้หนูมีคุยงานที่อื่นค่ะ เลยต้องไปเช้ากว่าปกติ”
“อ๋อจ้ะ งั้นป้าขอตัวไปทำกับข้าวให้ลุงก่อนนะ”
“ค่ะป้า”
ใบชาผู้มีนิสัยอ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย มองโลกในแง่บวก เธอเป็นที่รักของเหล่าแม่บ้านและยามในคอนโดแห่งนี้วันหยุดเมื่อไหร่ หากเธอมีเวลาว่างมักจะทำขนมนำมาแบ่งให้พวกเขาเหล่านั้นได้ลิ้มลองกันบ่อย ๆ รวมถึงการช่วยเหลือต่าง ๆ พลันให้ใครต่อใครที่รู้จักมักจี่หรือสนิทสนมกัน ต่างก็รักและชื่นชมในความมีน้ำใจของเธอ
หลังจากที่ป้าติ๋มเดินจากไปรถยนต์หรูสีดำของใครบางคนก็เข้ามาจอดตรงหน้า เธอพยายามมองลอดผ่านกระจกสีดำทึบสงสัยว่าคนข้างในเป็นใคร ก่อนจะรีบก้าวถอยหลังยามที่บานประตูกำลังจะถูกผลักออกมา
“เชอรี่ไปแล้วนะคะคุณแพท “ยามที่ประตูรถถูกผลักออกมา สายตาคู่งามดันเหลือบเห็นหญิงสาวชุดเกาะอกสั้นตัวจิ๋วกำลังโน้มตัวหอมแก้มชายหนุ่มแว่นดำอย่างสะดีดสะดิ้ง บุคลิกเขาดูเคร่งขรึมน่าหวาดกลัว ขณะเดียวกันรถแท็กซี่ที่รอคอยก็มาพอดิบพอดีใบชาจึงกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทันที
“…”
“นายจะเข้าบริษัทเลยหรือว่าจะกลับเข้าบ้านก่อนครับ? “ไทม์เอ่ยถาม ขณะขับรถออกมาจากคอนโดคู่นอนของผู้เป็นนาย
“เข้าบริษัท “แพททริคตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเอ็นหลังพิงกับผนังเบาะรถเช่นเดิม
“ครับ”
เวลาต่อมา ~~~
บริษัท SUN
รถเก๋งธรรมดาสีขาวขับเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทหน้าบริษัท SUN “นุชเตรียมเอกสารมาครบหมดแล้วเนอะ? “ใบชาถาม ขณะเตรียมตัวออกจากรถ
“ใช่ ครบจ้ะ”
“โอเคงั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะเนอะ”
นุชพยักหน้ารับอย่างเข้าใจสองสาวจึงก้าวขาลงจากรถมุ่งตรงสู่ทางเข้าตึกใหญ่ ที่มีความสูงมากกว่าสามสิบชั้น ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและต่างประเทศ
“สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ? “พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์กล่าวสวัสดีหญิงสาวทั้งสองที่เพิ่งเดินเข้ามาอย่างเป็นมิตร
“มานำเสนอโปรเจคโฆษณาจากบริษัท Produce ค่ะ “ใบชาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“เชิญชั้นสามสิบห้าเลยค่ะ ห้องประชุม xxx ท่านประธานรออยู่ด้านบนแล้วนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ติ้ง ~~
ทันทีที่ประตูลิฟต์ตัวใหญ่เปิดทั้งสองสาวจึงสาวเท้าตรงไปที่ห้องประชุมดังกล่าว “นุชชาฝากคอมหน่อยสิ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งปวดฉี่ “ระหว่างทางใบชาดันเกิดปวดเบาขึ้นมาจึงเอ่ยขอนุชเพื่อนร่วมงาน
“ได้ ๆ รีบมานะชา”
“จ้ะ”
ก่อนไปใบชาจึงถามไถ่ทางไปห้องน้ำจากพนักงานสาวที่กำลังเดินมาพอดี เมื่อได้รับคำตอบจึงมุ่งหน้าไปที่นั่น เพื่อทำธุระส่วนตัวของตนทันที
“อ้า ๆ !! บะ..เบาค่ะ อ้าย ๆ ~~ “
สองเท้าหยุดชะงักหน้าห้องน้ำชาย ครั้นได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน พลันให้คิ้วบางขมวดเข้าหากันเป็นปมอย่างตกใจ คาดไม่ถึงว่าบริษัทดังแห่งนี้จะมีเรื่องบัดสีเกิดขึ้นในที่โจ่งแจ้งแบบนี้ และเธอเองก็เข้าใจดีว่าเสียงนั่นคืออะไร “ทำไมไม่รู้จักห้ามใจตัวเองกลับไปมีอะไรกันที่บ้านนะ น่าเกลียดจริง ๆ “ใบหน้างามสะบัดไปมาอย่างเอี่ยมระอา ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าห้องน้ำหญิงทันที
หลังจากใบชาทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยจึงจับกระเป๋าสะพายคล้องบ่า สองเท้าพลันรีบเร่งกลับไปที่ห้องประชุม ทว่าสาวเท้าออกมา กลับเห็นแผ่นหลังของหญิงสาวชุดออฟฟิศที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำชาย มือทั้งสองข้างพลางจัดระเบียบตนเองด้วยท่าทางเร่งรีบ จนเธอไม่ทันสังเกตว่ามีใครยืนอยู่หรือเปล่า
ขณะเดียวกันยามที่กำลังจะก้าวเดิน กลับรู้สึกถึงพลังบางอย่างให้เธอต้องรับหันมองด้านข้างอย่างหวาดระแวง ทว่าสายตาบังเอิญมองสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าคมกริบพอดี ถึงกับสะดุ้งเฮือกหนึ่ง เผลอก้าวเซถอยหลังโดยอัตโนมัติ ไม่หนำซ้ำยังเหลือบเห็นชายเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ย เธอจึงรีบก้มหน้างุดเมื่อถูกชายหนุ่มร่างสูงจ้องมองลึกเข้ามาในนัยน์ตาคู่งาม จนเกิดความรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ใบหน้าสงบนิ่งและท่าทางบึกบึนของเขาชั่งน่าขนลุก สักพักเขาก็เดินจากไป มือเล็กพลันยกทาบอกด้วยความโล่งใจ
แกร๊ก ~~
บานประตูห้องประชุมถูกผลักเข้ามา หลังจากที่ใบชาและนุชนั่งรอประธานบริษัทราว ๆ เกือบสิบห้านาที จึงดันตัวลุกขึ้นหวังยกมือไหว้กล่าวสวัสดีและแนะนำตัว ทว่าชายหนุ่มร่างสูงชาวอังกฤษผู้มีใบหน้าขาวผ่องเรียบเนียนเป็นเอกลักษณ์คนนี้กำลังทำให้ใบชายืนตัวแข็งทื่อดุจก้อนหิน จนเผลอรอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเขาคือคนเดียวกับคนที่เจอหน้าห้องน้ำเธอจึงรีบหลบสายตาต่ำอีกครั้ง ยามที่เขาจ้องมองมาด้วยสายตาเย็นเยียบ
“…”
“อะ..เออสวัสดีค่ะก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันใบชาค่ะสะ..ส่วนอีกคน….”
“พอ!..ถ้ายังไม่พร้อมก็กลับไป แค่แนะนำตัวยังพูดติด ๆ ขัด ๆ แล้วงานฉันจะราบรื่นได้ยังไงกัน “ประโยคของเธอเป็นต้องหยุดชะงัก เมื่อเสียงทรงอำนาจน่าหวาดหวั่นแย้งขึ้น
“ขอโทษค่ะ “ใบชาเหลือบมองนุชเพียงนิดอย่างหนักใจก่อนจะเอ่ยขอโทษประธานหนุ่ม เขากำลังทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นจนขาดความมั่นใจ “งั้นชาขอนำเสนอโปคเจคเลยนะคะ “ จากนั้นเธอจึงเริ่มนำเสนองานที่จัดเตรียมไว้ เมื่อประธานหนุ่มไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากมองเธอด้วยสายตาดุดันอยู่ตลอดเวลา
“คุณแพททริคมีตรงไหนต้องการแก้ไขหรือเปล่าคะ? “ครั้นจบการนำเสนอใบชาจึงเอ่ยถามเสียงสุภาพ ขณะเดียวกันชายหนุ่มดันตัวนั่งตรง มือใหญ่ทั้งสองข้างประสานกันวางบนโต๊ะด้วยท่าทางเรียบเฉย หลังจากเอ็นหลังพิงกับผนังเก้าอี้ฟังหญิงสาวอธิบายจนจบ
“ฉันต้องการมีตัวเลือกมากกว่าสอง ไปเพิ่มโปรเจคมาอีกอย่างน้อยสามโปรเจค”
“ได้ค่ะ “ว่าจบจึงนั่งที่ของตัวเองทันที โดยมีมือของนุชเอี่ยมมาจับเพื่อให้กำลังใจ และประธานหน่มยังจ้องมองใบหน้าของเธออย่างไม่วางตาจนเธอแทบทำอะไรไม่ถูก เขาเป็นประธานบริษัทยังไงกัน ถึงได้ไปมีอะไรกับพนักงานในห้องน้ำโดยไม่อายผีสางนางไม้หรือเทวดาแถวนั้นบ้าง เขาคงเป็นคนจำพวกโรคจิต
“คุณแพททริคจะนัดทางบริษัทเรามาวันไหนอีกคะ? “นุชถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“อีกสามวัน”
“สามวันเหรอคะ? “เมื่อได้ฟังเช่นนั้นใบชาจึงโพล่งขึ้นถามอย่างไม่เข้าใจ โปรเจคโฆษณามันไม่ได้คิดหรือทำกันง่าย ๆ ต้องผ่านกระบวนการไตร่ตรองและขั้นตอนอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เขากลับให้เวลาแค่สามวันจะทันได้อย่างไร
“ทำไม!? ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องทำฉันจะไปจ้างบริษัทอื่น”
“เออ..เปล่าค่ะสามวันก็สามวันค่ะ” ใบชาจำนนตอบตกลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วม
“ดี..งั้นก็กลับไปได้แล้ว “ว่าจบแพททริคจึงหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง พลางล้วงมือใหญ่เข้ากระเป๋ากางเกง สแล็คสาวเท้าออกไปทันที
“จะทันเหรอชา?”
“ไม่ทันก็ต้องทันแล้วล่ะนุช ชาต้องการให้ทีมเราได้งาน”
“อือ ๆ “จากนั้นหญิงสาวทั้งสองจึงจัดเก็บอุปกรณ์เตรียมตัวกลับที่ทำงานของตนเอง
“นายชอบผู้หญิงคนนั้นเหรอ ครับผมเห็นนายจ้องเธอไม่วางตาเลย? “ไทม์เอ่ยถามเจ้านายหนุ่ม ระหว่างยืนอยู่ในลิฟต์ตัวใหญ่
“จะไม่มีคำว่าชอบหรือรักใครอยู่ในหัวกูอีก ผู้หญิงพวกนั้นก็แค่ของแก้ขัดสำหรับกูเท่านั้น” มาเฟียหนุ่มตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
