บ้านไร่อุ่นไอรัก

136.0K · จบแล้ว
โยธกา ดรินทร์ น้ำอ้อม
77
บท
12.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่ออดีตนายทหารหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาดุดัน มาดขรึม ตกหลุมรักสาวน้อยตาหวานที่วัยห่างจากเขาเกือบรอบ รักฉบับอ้ำอึ้ง จะเป็นอย่างไร เมื่อคำว่า 'น้องยังเด็ก' มันค้ำคอ ก็เด็กมันน่ากิน...ไม่สิ น่ารักออกจะขนาดนั้น หัวใจมันเรียกร้องอยากจะดึงสาวน้อยมากอด ตรีศิลป์เลยได้แต่อึดอัด อัดอั้น จนอกแทบจะแตกอยู่แล้ว “นั่นขนมที่น้องเก๋ทำตอนเย็นหรือเปล่า เมื่อวานพี่ไม่ได้ทานเลย ขอชิมหน่อยสิครับ” “คะ?” การะเกดเลิกคิ้ว ตรีศิลป์พยักหน้า เขายิ้มนิดหน่อยให้การะเกด ก่อนจะหันไปมองต้นราชพฤกษ์ข้างๆ ที่กำลังออกดอกเป็นพวงระย้าแทน “อืม พี่อยากชิม” “ได้ค่ะ” การะเกดย่นคิ้ว จะชิมก็ชิมสิ มาบอกเธอทำไม กล่องขนมก็อยู่ตรงนี้เอง หรือเขาจะเอื้อมไม่ถึงกันนะ การะเกดเลื่อนกล่องมาวางข้างๆ มือใหญ่ของเขา หากแต่ตรีศิลป์ก็ยังนั่งเฉย ทำเหมือนเพลินกับธรรมชาติตรงหน้าเอามากๆ การะเกดเลยเอ่ยขึ้นเบาๆ อีกรอบ “คุณใหญ่ ไหนว่าจะทานลูกชุบ” “มือพี่เปื้อน” ตรีศิลป์พูดหน้าตาเฉย ขณะที่หันขวับมามองเธอด้วยนัยน์ตาคมกริบแฝงนัยประหลาด คำพูดต่อมาทำเอาการะเกดหน้าร้อน “พี่ไปทำงานในไร่มา ยังไม่ได้ล้างมือเลย น้องเก๋ป้อนพี่หน่อยสิครับ” (ชะอุ้ย...พ่อมาดขรึมมีเนียน อิอิ)

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักพ่อเลี้ยงผู้ชายอบอุ่นคนต่ำต้อยรักแรกพบฟินๆรักหวานๆโรแมนติก

1

รถยนต์คันเล็กสีขาวลดความเร็วจนจอดสนิท ตรงบริเวณหน้าบ้านไม้ชั้นเดียวซึ่งอยู่เกือบสุดซอย ตัวบ้านเก่าจนสีกะเทาะออกมาในบางที่เป็นสีเนื้อไม้เดิม ในอาณาบริเวณที่ไม่กว้างขวางนัก ชายวัยกลางคนนั่งอยู่ตรงแคร่ใต้ต้นมะม่วง เขม้นมองไปยังรั้วบ้าน เพื่อจะดูให้ชัดว่า แขกที่มาเยือนเป็นใครกัน

เขาหรี่ตาลงเมื่อเห็นร่างเพรียวคุ้นตา ก้าวลงมาจากรถยนต์คันนั้น ก่อนจะกระดกแก้วบรรจุน้ำสีเหลืองอำพันเข้าปาก และใช้หลังมือเช็ดปาดน้ำที่หยดไหลออกมา พลางเพ่งมองไปยังร่างบางในชุดนิสิต ซึ่งกำลังยืนก้มตัวคุยกับคนในรถยนต์ด้วยสายตาหมายมาด...

“ไปก่อนนะเล็ก ขอบใจมากที่มาส่งเรา”

คนเอ่ยเป็นหญิงสาวหน้าหวาน ผมดำยาวตรงรวบไว้หลวม ๆ นัยน์ตากลมโตมีแววเศร้าหมองและครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากเป็นรูปกระจับ ใบหน้ารูปไข่ ดูสวยแกมเศร้า เพราะเจ้าตัวมีรอยครุ่นคิดอยู่บนใบหน้า และริมฝีปากมักจะเม้มแน่นอยู่ตลอด จนแทบจะกลายเป็นกิริยาประจำตัวไปเสียแล้ว โน้มตัวลงมาบอกกับคนขับ

เจ้าของชื่อยิ้มกว้างตอบ จนรอยลักยิ้มสองข้างแก้มกดลงบุ๋ม เธอมีเครื่องหน้าน่ารักจุ๋มจิ๋ม ปากนิดจมูกหน่อย ใบหน้าเป็นรูปหัวใจ ผมสีน้ำตาลตัดสั้นรับกับใบหน้า นัยน์ตากลมหวานมองกวาดไปในตัวบ้านของเพื่อนรัก

ตรีทิพย์หรี่ตา เมื่อมองเห็นชายวัยกลางคนร่างผอมที่กำลังนั่งดื่มเหล้า อยู่บนแคร่ไม้ใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้านเพียงลำพัง หญิงสาวเอื้อมมือไปดึงมือเพื่อนรักไว้แน่น แล้วส่ายหน้า

“ไม่เอาดีกว่าเก๋ เราว่าเก๋อย่าเพิ่งเข้าบ้านดีกว่า แล้วนี่ป้าแตงอยู่ไหม?”

หญิงสาวมองหามารดาของเพื่อน

“แม่ไปจ่ายเงินค่าแชร์น่ะ”

การะเกดว่า ก่อนจะยิ้มให้กับเพื่อนรัก แล้วเอ่ยปลอบเสียงหวาน เธอรู้ดีว่าเพื่อนกำลังกังวลเรื่องอะไร

“ไม่เป็นไรหรอกเล็ก เขาคงไม่กล้าแล้ว”

“ให้มันแน่เถอะนะเก๋ เรารู้สึกระแวง บอกไม่ถูกจริงๆ สิ”

ตรีทิพย์ถอนใจเฮือก มือเรียวเอื้อมเปิดลิ้นชักในรถยนต์ก่อนจะหยิบบางสิ่งออกมา สิ่งที่เห็นทำให้การะเกดถึงกับย่นคิ้ว

“อะไรกันน่ะเล็ก?”

“ก็มีดไง เกิดไอ้พ่อเลี้ยงเก๋มันทำท่าอะไรแปลกๆ มาอีก เก๋ก็จิ้มสักแผลสองแผลเลยนะ เอาไว้เลย เอาไว้ป้องกันตัว มีดโบวี่ของทหาร เราขอพี่ใหญ่มา”

ตรีทิพย์ยัดเยียดมีดในมือใส่มือเพื่อน การะเกดอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ แต่ก็รับไว้แต่โดยดี นัยน์ตาเธอมีร่องรอยความทุกข์ เมื่อพูดถึงที่ชายคนที่มีชื่อว่าพ่อเลี้ยง

“เราจะเก็บไว้ก็แล้วกัน ขอบใจเล็กมาก”

“แน่ใจนะว่าจะไม่ให้อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าป้าแตงจะกลับ” การะเกดพยักหน้า

“แน่ใจจ้ะ”

“งั้นก็ตามใจ แต่อย่าลืมนะเก๋ ถ้ามันมาทำอะไรอีกล่ะก็ จัดการมันได้เลย”

“ได้”

การะเกดรับคำ ก่อนจะโบกมือให้เพื่อนรัก ที่เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อีกรอบ ตรีทิพย์บอกลากับการะเกดแล้วแต่ก็ยังไม่วายมองเข้าไปในตัวบ้าน

จะอย่างไรก็ตามเธอก็ยังไม่ไว้ใจ สมหมาย พ่อเลี้ยงของเพื่อนสนิทอยู่ดีเหตุการณ์ล่าสุดที่การะเกดเกือบจะโดนฉุด หลังจากที่สมหมายจำต้องปล่อยให้เหยื่อเนื้อหวานให้หลุดรอดไปได้ เมื่อเวลาเช้าตรู่มาถึง เขาก็พยายามดักรอการะเกด และพร่ำขอโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์สุรา แต่สมหมายก็เหมือนเสือร้ายที่เผลอเผยลายไปแล้ว การะเกดเกิดอาการขวัญเสียมาทั้งคืน เก็บเรื่องไปเล่าให้เพื่อนสนิทอย่างตรีทิพย์ฟัง ตอนแรกตรีทิพย์บอกให้เล่าให้กับมารดา แต่การะเกดบอกว่าไม่อยากให้มารดารู้ เพราะเธอรู้ว่ามารดารักสมหมายมาก

“เข้าบ้านไปก่อน เดี๋ยวเรารอจนเก๋เข้าบ้านค่อยออกรถ เก๋เดินตรงเข้าไปเลยนะ ไม่ต้องทักมันหรอก”

“ได้จ้ะ” การะเกดอมยิ้มกับความเป็นห่วงเป็นใยของเพื่อนรัก หญิงสาวเปิดรั้วบ้าน ก่อนจะรีบเดินตรงไปเลยอย่างที่ตรีทิพย์บอก เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักเข้าบ้านไปแล้ว ตรีทิพย์เลยเคลื่อนรถออกไปบ้าง

สมหมายมองตามร่างบางซ่อนรูปของลูกเลี้ยง ที่เดินคอแข็งตรงไปยังด้านในตัวบ้าน เธอไม่ทักทายเขาสักคำ เขาลอบยิ้ม

หึ หึ ให้มันได้แบบนี้เถอะ เดี๋ยวเถอะมึง ...

ความคิดชั่วร้ายเริ่มก่อตัวในหัวสมองของชายวัยกลางคนอีกรอบ เขารินเหล้าในมือมาดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน...

การะเกดแอบมองร่างผอมสูง ของผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง ที่เดินโซเซออกไปจากบริเวณบ้านแล้วก็ลอบถอนใจ เธอเปิดหน้าต่างห้องออกเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์

ห้องนอนของการะเกดเป็นห้องเล็กๆ ที่กั้นใหม่ เฟอร์นิเจอร์มีเพียงตู้เสื้อผ้าที่เป็นตู้พลาสติกอย่างราคาถูก และโต๊ะเขียนหนังสือเท่านั้นเอง ที่นอนของเธอถูกพับเก็บเรียบร้อยไว้มุมหนึ่งของห้อง การะเกดปูที่นอนแบบพับ ที่ตอนนี้ฟูกของมันแบนราบและไม่มีความนุ่มฟูเพราะอายุการใช้งานที่นานหลายปี มือเรียวตบหมอนเบาๆ

เธอใช้มือเรียวอังหน้าผากตัวเองที่กำลังร้อนผ่าว สงสัยว่าตัวเองกำลังจะเป็นไข้ เพราะการไปรับจ้างล้างจานในงานวัดติดกันหลายวัน พื้นที่โล่งและตากน้ำค้าง ทำให้การะเกดเกิดอาการตัวรุมๆ หญิงสาวถือเป็นโอกาสดีที่อยู่คนเดียว นายสมหมายคงไม่มาทำให้หวาดกลัวอะไรอีก เหตุการณ์หลังสุดทำให้การะเกดกลัวมาก และเสียใจที่มารดาเลือกคนอย่างนายสมหมายมาร่วมชีวิต แทนบิดาที่เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุ

หญิงสาวเลือกชุดนอนเป็นเสื้อยืดตัวหลวม และกางเกงขาสั้นออกมาจากตู้พลาสติก ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวและผ้าซิ่นเข้าไปในห้องน้ำ รีบอาบน้ำลวกๆ เพราะน้ำในโอ่งเย็นจัด ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำนั่นเลย การะเกดเริ่มกลัวและพยายามทำตัวไม่ให้ล่อแหลม ต่อสายตาหื่นกระหายของพ่อเลี้ยง

“นอนดีกว่าเรา เล็กนี่น้า ไหนๆ ก็ให้มาแล้ว เราเอาไว้ใต้หมอนเลยก็ได้”

มือเรียวหยิบมีดโบวี่อันโต ออกมาจากกระเป๋าสะพายของตนเอง แล้วก็หัวเราะเบาๆ ดูเหมือนว่ามันจะคมมาก หญิงสาวคิดขณะที่ชักมันออกจากฝักเพื่อตรวจดู เธอเอามีดสอดไว้ใต้หมอน เผื่อไว้ถ้าได้ใช้ยามฉุกเฉิน มีอาวุธแบบนี้ก็ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย สถานที่อันแสนอบอุ่นที่คุ้มหัวเธอมาตั้งแต่เยาว์วัย ตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่ซึ่งไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด ตั้งแต่เมื่อมีสมาชิกใหม่เข้ามา

การะเกดถอนใจเฮือก แต่แล้วก็เผลอยิ้มเมื่อนึกถึงเพื่อนสาวคนสนิท เจ้าของรอยยิ้มน่ารัก เพราะลักยิ้มกดที่สองแก้มบุ๋ม...ตรีทิพย์ เธอและตรีทิพย์คบกันมานานและรักกันมาก แม้จะต่างฐานะกันมากก็ตามที

ตรีทิพย์เป็นลูกสาวคนสุดท้อง มีพี่ชายสองคน เธอค่อนข้างมีฐานะดีเ พราะผู้เป็นบิดารับอาชีพนายทหารยศนายพันโท มารดาเองก็ทำธุรกิจเสริมความงาม ส่วนตัวการะเกดเองเป็นเพียงลูกแม่ค้า หาเช้ากินค่ำ ลูกสาวกำพร้าพ่อ ที่ต้องดิ้นรนหาเงินมาจุนเจือส่งเสียตัวเอง ตลอดเวลาเกือบห้าปีมาแล้ว ตั้งแต่เธอจบมัธยมปีที่สาม