บทที่8 วันแต่งงาน
ท่านแม่,ท่านย่า,อาสะใภ้รองช่วยกันจัดห้องใหม่เพื่อจะใข้เป็นห้องหอให้นางกับเทียนหยวน
ระหว่างนั่งซักผ้าฟางซินก็ถามขึ้น “ พี่ใหญ่พรุ่งนี้ท่านแต่งงานแล้วท่านตื่นเต้นไหมเจ้าคะ ข้าเห็นท่านดูเหมือนปกติเลยเจ้าค่ะ “
ชิงเฉินตอบว่า ”อืมตื่นเต้นสิ“ แต่ในใจนางเฉยๆเพราะชาติก่อนนางก็มีแฟนมาแล้วมากมาย นางไม่เคยรักใครสักคนที่คบก็เพราะรู้สึกชอบก็เท่านั้น
*ยามซื่อ(09.00-11.00) ท่านแม่ก็นำชุดเจ้าสาวสีแดงมาให้ชิงเฉินลองสวมดู ชุดเจ้าสาวของท่านแม่ก็คือชุดผ้าหยาบสีแดงธรรมดาชุดนึงนั่นเอง แต่ก็เป็นชุดเจ้าสาวที่ดูดีสำหรับชาวบ้านแล้ว
ท่านแม่บอกว่า ”ชุดนี้เป็นชุดที่แม่ใส่แต่งงานกับท่านพ่อของเจ้าลองสวมดูแม่จะได้แก้ให้ถ้าไม่พอดีตัว“
ชิงเฉินยิ้มแล้วลองสวมใส่ให้มารดาดู
ทางด้านบิดาก็ได้นำชุดเจ้าบ่าวมาให้เทียนหยวนลองสวมใส่ พร้อมกับบอกว่าถ้าไม่พอดีตัวก็ให้มารดาแก้ให้
เทียนหยวนรีบกล่าว ”ขอบคุณขอรับท่านพ่อตา”
เมื่อปรับแก้ชุดกันเรียบร้อยแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานของตนเอง มารดากับอาสะใภ้พากันไปเด็ดผักไว้ทำอาหาร
อาหารเย็นนี้ไม่มีเนื้อมีผัดผักกินกับหมั่นโถวร้อนๆก็อิ่มท้องได้แล้ว
กุ้งที่เหลืออีกตระกร้าแกะเปลือกแล้วหมักเกลือเก็บในห้องใต้ดินไว้ย่างเลี้ยงแขกพรุ่งนี้
ท่านปู่เอ่ยขึ้นในระหว่างกินข้าวเย็น“พรุ่งนี้ฤกษ์ดีจะแต่งเขยเข้าบ้าน งานนี้เชิญหัวหน้าหมู่บ้านหวังและครอบครัวเขาและสหายสนิทกันอีกสามสี่คน พวกเจ้าต้องการจะเชิญใครมาอีกไหม “
ทุกคนส่ายหน้า บ้านพวกเขายากจนสมาชิกในบ้านสิบสองคนไปเชิญใครอีกให้เปลืองอาหาร
อีกอย่างพวกเขาไม่ค่อยมีสหายมากนักคนในหมู่บ้านมีไม่กี่บ้านที่พวกเขาคบหาเป็นสหาย วันๆทำนาปลูกผักขึ้นเขา,เย็บผ้าอยู่แต่ในบ้านจะไปมีสหายที่ไหน
คืนนั้นหลังเข้าห้องนอนชิงเฉินหลับสนิท แต่มีอีกหนึ่งคนที่ยังไม่นอนพลิกไปพลิกมาจนเฟยอวี่ต้องเอ่ยถาม
”เจ้าเป็นอะไรทำไมยังไม่หลับพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า“
เทียนเยียนเอ่ยตอบเสียงเบา ”ข้านอนไม่หลับขอรับ“
เฟยอวี่”เจ้าตื่นเต้นรึ“
เทียนหยวน”ขอรับ“
เฟยอวี่ ”หายใจเข้าลึกๆทำใจให้สงบแล้วหลับตาลงไม่ต้องตื่นเต้นแค่งานแต่งไม่มีอะไรต้องให้พะวง“
เทียนหยวน “ท่านอาเล็กเคยแต่งงานรึขอรับ”
เฟยอวี่ “…”
ยามเหม่า หลังชิงเฉินอาบน้ำเสร็จ ท่านย่า,ท่านแม่,อาสะใภ้รองก็มาช่วยแต่งหน้าแต่งตัวทำผมให้ชิงเฉิน สวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงให้แล้วพิธีแต่งงานแบบง่ายๆของชาวบ้านก็จัดขึ้น
การแต่งงานของชาวบ้านไม่ได้มีพิธีอะไรมากนัก งานนี้ท่านปู่เชิญภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านมาเป็นแม่สื่อให้หลานสาวและหลานเขย
เมื่อถึงยามซื่อคู่บ่าวสาวก็มาที่ห้องโถง
คำนับฟ้าดินคำนับบิดามารดาท่านปู่ท่านย่า คำนับกันและกันเสร็จพิธี แม่สื่อนำบ่าวสาวเข้าห้องหอเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวคล้องแขนดื่มสุรา ท่านย่านำซองแดงให้แม่สื่อเท่านี้ก็เสร็จพิธีแต่งงาน
เจ้าบ่าวเจ้าสาวบ้านกู้ไม่ได้ออกไปต้อนรับแขก ปล่อยหน้าที่นี้ให้ผู้อาวุโสในบ้านจัดการแทน
คู่บ่าวสาวรับประทานอาหารในห้องหอเสร็จ ฟางซินกับเฟยฮุ่ยก็มายกจานที่กินแล้วออกไป
ทางด้านผู้อาวุโสบ้านกู้ตอนนี้ยิ้มแก้มปริเพราะคำชมของแขกที่มาร่วมงาน
หัวหน้าหมู่บ้าน “หลานเขยท่านเป็นบัณทิตซ้ำยังรูปงามยอมแต่งเข้าช่างโชคดีเหลือเกิน“
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน “อนาคตบ้านท่านก็จะมีบัณทิตซิ่วไฉสองคนเชียวนะช่างดีเหลือเกิน”
ป้าอ้วนร้านขายของชำ “กุ้งย่างบ้านท่านอร่อยมากเลย”
ป้าจางคนข้างบ้าน “ตาเฒ่าเฟยเทียนช่างโชคดีเหลือเกิน มีลูกชายสามคนมีหลานสาวก็แต่งเขยบัณฑิตเข้าบ้านมาช่วยกันทำมาหากิน”
ตาเฒ่าหยาง “บ้านกู้จัดงานไม่หวงของกินเลยดียิ่งนักไว้บ้านข้ามีงานมงคลตาเฒ่าเทียนเจ้าต้องไปให้ได้นะ”
ตาเฒ่าฟาง “ตาเฒ่าเทียนมาชนจอกสุรากันซักสองจอก ข้าจะได้มีวาสนามีหลานเขยดีๆแต่งเข้าบ้าง“
เด็กเด็กครอบครัวที่มาร่วมงานแต่ง ”กุ้งย่างเนื้อหมูป่าย่างอร่อยยิ่งนัก”
คำสรรเสริญคำชมมากมายจากบรรดาแขกที่มาร่วมงานทำเอาท่านปู่ท่านย่าหุบยิ้มไม่ลง
หลังงานแต่งก็มีข่าวในหมู่บ้านถึงการแต่งเขยเข้าบ้านกู้ พร้อมทั้งคำชมเรื่องการต้อนรับแขก รวมถึงกุ้งย่างแสนอร่อย แต่ก็มีคนอิจฉากล่าวว่าชิงเฉินเป็นนางจิ้งจอกล่อลวงบัณฑิตให้มาแต่งงานด้วย
ทั้งหมดนี้ที่คนในหมู่บ้านพูดกันคนบ้านกู้ไม่ได้รับรู้เรื่องด้วยเลย งานเลี้ยงจบลงก็ปิดประตูบ้านไม่รับรู้เรื่องราวภายนอก
