บท
ตั้งค่า

บทที่3.ผู้ชายที่มาพร้อมกับสายฝน 1/4

“ขอบใจนะ” ชายหนุ่มยิ้มแป้น เขารู้ว่ามันขายได้ อาจจะถูกกดราคา แต่รุ่นนี้ใครเห็นก็ต้องรีบตะครุบ เมื่อมันคือรุ่นอันลิมิเต็ด!! ไม่ได้มีเกลื่อนกลาด คนรับซื้อคงตาวาวเพราะฟันกำไรเหนาะๆ

“เห้อ! ฉันต้องไปทำงานแล้วนะคุณ...อยู่แถวนี้ไปก่อนล่ะ นี่เอาไว้ซื้อข้าวกิน ฉันช่วยได้เท่านี้ละ อยู่กับไอ้ตูบไปแล้วกันนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจ แต่ต้องเข้าใจฉันด้วย” หญิงสาวอธิบายยืดยาว ถึงจะมีน้ำใจ แต่ใครล่ะจะให้คนแปลกหน้าเข้าห้อง เมื่อไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า หากถูกยกเค้าเธอคงไม่มีอะไรเหลือ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้

“ไม่เป็นไร”

ลมเย็นพัดโชย ไม่มีที่นอนนุ่มๆ มีแค่เพิงสังกะสีเก่าๆ คุ้มหัว...ก็ยังดีกว่าออกไปแล้วถูกตามล่า

หญิงสาวหมุนตัวกลับเข้าห้องพัก เธอเดินย้อนกลับมาอีกครั้งกับน้ำขวดหนึ่งในมือแล้วก็หมอนนุ่มๆ ที่หนีบมาในซอกรักแร้ ก่อนจะยื่นให้กับเขา... “เดินออกไปตรงหัวมุม มีร้านตามสั่ง คุณหิวก็ออกไปกินนะ ฉันจะสั่งพี่เขาไว้ให้ เอาสตางค์ที่ฉันให้ไว้แหละจ่าย”

เมวิกาย้อนกลับมา เพราะหากให้เขานั่งอยู่เช่นนั้นมันจะเป็นการใจดำเกินไป เธอเอาน้ำมาให้เขาหนึ่งขวด กับหมอน เขาจะได้รู้สึกดีขึ้น

แวซ็องรู้สึกตื้อๆ ธนบัตรยับๆ ในมือสิ่งที่หล่อนเจียดไว้ให้ น่าจะเป็นน้ำพักน้ำแรงของเธอ แต่ก็สู้อุตส่าห์แบ่งปัน

“เธอชื่ออะไรล่ะ ฉันชื่อ...เซดริก”

ไม่รู้อะไรดลใจ แวซ็องไม่ได้บอกชื่อจริงของตัวเอง เขาเอาชื่อของน้องชายมาใช้...

“เมวิกา เรียกฉันเมก็ได้” หญิงสาวตอบแล้วจึงหมุนตัวเดินจากไป เขาชะเง้อคอมองตามบั้นท้ายตึงๆ ใต้กางเกงผ้ายืดพอดีตัว เห็นเธอกระโจนขึ้นรถมอเตอร์ไซน์รับจ้างหายลับไปกับตา

“ไง...ชื่อตูบเหรอเรา...ฉันว่าไม่เหมาะกับแกนะ เอาเป็นว่า...ฉันตั้งชื่อใหม่ให้แกเอง” ชายหนุ่มทรุดนั่งบนแคร่ เขาลูบหัวสุนัขไร้เจ้าของ เมื่อมันขยับเข้ามาใกล้และกระดิกหางเหมือนกำลังฝากตัว “ชื่ออะไรดีล่ะ...ดีเย่ร์แล้วกัน” เขาหัวเราะลงลูกคอเมื่อตัดชื่อของดิดิเย่ร์มาตั้งชื่อสุนัข หากเจ้าตัวรู้คงแทบกระอัก โลกมันกลมสักวันเถอะ เขาจะพาดีเยร์ตัวนี้ ลัดฟ้าไปหาดิดิเย่ร์ที่ปารีส

ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอน เขามองผ่านรอยรั่วของสังกะสี แดดเริ่มส่องและทอดลำแสงลงมา รู้สึกครั่นตัวนอนต่อไม่ได้ เมื่อมีแต่คราบทรายที่เกาะลำตัว ตอนที่ถูกฟาดหัวจนล้มไปคลุกขี้โคลน คงต้องขยับขยายหาทางล้างตัวทำความสะอาดคราบโคลน แต่เขาไม่มีผ้าเปลี่ยนนี่นา เอาไงดีล่ะ

ที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ก็คงเจ้านั่น!!

ถึงมันจะเปื้อนคราบโคลนแต่มันคือามาร์นี่เชียวนะ หากเอาไปขายคงได้หลายสตางค์ มากพอที่เขาจะหาเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยน แทนที่ไอ้ชุดฟิตๆ บนร่างกายนี่สักที แต่ชุมชนแออัดเช่นนี้ใครล่ะจะซื้อ

คงต้องเริ่มต้นที่ร้านขายกับข้าว ตามที่หญิงสาวบอกไว้ ที่นั่นน่าจะมีทางขายได้

แวซ็องตัดสินใจหอบสูทที่พอจะหมาดๆ แต่ก็ยังมีคราบกระด่างกระดำติดอยู่...เดินออกไปตามทิศทางที่เมวิกาชี้บอก

ปากทางค่อนข้างมีคนชุกชุม มีร้านรวงขายอาหาร มีทั้งแผงเล็กและใหญ่จนชายหนุ่มมึน ตกลงร้านไหนล่ะที่เขาควรเข้าไป...ใครบ้างที่จะพอสื่อสารกับเขารู้เรื่อง

สายใจตาโต ฝรั่งที่เมวิกามาฝากฝังไว้หล่อกระชากใจ แค่มองเห็นยังอยากจะเสียตัว ถึงจะไม่มีเงินทองแต่ได้ผัวรูปหล่อเช่นนี้ มันคือแรงใจในการทำงาน หากเขาสนใจเธอ สายใจก็ว่าจะลองทาบ

“ทางนี้คุ๊ณ! ตายล่ะหว่าภาษาประกิตก็ไม่กระดิกหูเล๊ยกู! จะพูดกับเค้ารู้เรื่องไหมล่ะ”

สาววัยรุ่นหุ่นอวบอัดออกไปยืนหน้าร้าน หล่อนโบกไม้โบกมือให้ผู้ชายที่ยืนหมุนไปหมุนมา เขาเข้าข่ายที่เมวิกาฝากฝังไว้ แต่จะสื่อสารกันยังไงล่ะ หล่อนฟังไม่รู้เรื่อง ภาษาต่างชาติไม่กระดิกหู

แวซ็องยิ้มแป้น! เขาเดินข้ามถนนหลังจากรอจนแน่ใจว่าไม่มีรถยนต์วิ่งสวนมา ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพร้อมกับพยายามพูดภาษาไทยเท่าที่ตัวเองทำได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel