ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
ด้านไรอัน อดีตตำรวจที่ได้ลาออกจากงานเมื่อหกปีก่อนเพราะต้องการทุ่มเทเวลามาดูแลมารดาที่ป่วยเพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนท่านไม่สามารถเดินได้อีก เอาแต่พ่นลมหายใจให้กับความคิดฟุ้งซ่านของตน แล้วก็พานให้ย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องที่ตนตัดสินใจเดินทางมาฮ่องกง นั่นก็เพราะเพื่อนรักนัดให้มาพบ บอกมีเรื่องด่วนอยากให้เขาช่วยเหลือ ไม่งั้นเขาไม่เดินทางมาฮ่องกงแน่ เพราะหลังจากมารดาเสียชีวิต เขาก็เอาแต่หมกตัวอยู่แต่บ้าน ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง แล้วก็ช่วยลุงผันและป้ามะลิทำสวนไปพลางๆ
เพราะท่านทั้งสองเคยเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก เมื่อครั้งมารดานำเขาไปฝากให้ท่านทั้งสองเลี้ยงดู ก่อนที่มารดาของเขาจะกลับไปทำงานในกรุงเทพฯ ต่อ จนเมื่อเขาอายุได้เกือบสิบขวบ มารดาก็ส่งเขาไปอยู่กับน้าสาวที่อเมริกา กระทั่งเรียนจบและได้เป็นตำรวจอย่างที่ใฝ่ฝัน แต่เขาก็ทิ้งอาชีพที่ใฝ่ฝันกลับมาดูแลมารดาที่ล้มป่วย กระทั่งท่านจากโลกนี้ไป คิดแล้วไรอันก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออมาเบาๆ โดยมีสองตากลมสวยจ้องมองไม่วางตา
“นี่ๆ ฟังฉันอยู่หรือเปล่า ผู้ชายบ้า! ถามแล้วยังไม่ตอบอีก” มัลลิกาเอ่ยถามเสียงดัง เมื่อทั้งเรียกทั้งเขย่าชายหนุ่มนานแล้ว แต่ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับ สองมือเล็กก็ระดมทุบเต็มแรงบนไหล่กว้างหวังจะเตือนสติให้อีกฝ่ายหันกลับมาสนใจกับสิ่งที่เธอกำลังพูด
“ทำร้ายผมทำไม” พูดจบไรอันก็เข้ายึดสองมือเล็กแล้วสะบัดทิ้งอย่างคนหัวเสีย ทั้งจากเรื่องความคิดฟุ้งซ่านที่คิดเป็นตุเป็นตะของตน ทั้งเรื่องความร้ายของหญิงสาวที่เขาเข้าไปช่วยเหลือไว้ ขณะที่มัลลิกาก็ตาลุกวาว เพราะโกรธกับท่าทีรังเกียจที่จะสัมผัสเนื้อตัวเธอของอีกฝ่าย
“ก็แล้วทำไมคุณไม่ฟังฉันพูดล่ะ แล้วก็รับรู้เอาไว้ด้วยว่าคุณไม่มีสิทธิ์มาหันหลังหนีฉัน ในขณะที่ฉันยังพูดไม่จบ เข้าใจหรือไหม!” มัลลิกาแหวใส่เสียงแหลม พลางกอดอกทำหน้าเชิดอย่างหยิ่งๆ ตามนิสัยลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจจนเคยตัว
ไรอันได้แต่อึ้งปนเอือมระอานิสัยของหญิงสาว ‘สวย’ เขายอมรับ แต่มารยาทติดลบ เพราะแย่มาก มีคนหวังดีเข้าไปช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาได้ แต่ไม่เคยสำนึก ซ้ำยังมีหน้ามาด่าปาวๆ เสียอีก คิดแล้วก็ไม่น่าเข้าไปช่วยสักนิด ปล่อยให้ถูกระเบิดตายเสียยังดีกว่ามั้งผู้หญิงแบบนี้ ดวงตามีเสน่ห์กวาดมองหญิงสาว แล้วขยับปากหยันๆ
“คุณทำปากแบบนี้หมายความว่าไง” มัลลิกาถามด้วยอารมณ์ฉุนๆ ก่อนก้มสำรวจดูตัวเองบ้าง ก็ไม่พบความผิดปกติ แต่พอเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก็เห็นจ้องหน้าอกเธอแล้วก็เหยียดปากยิ้มราวกับพวกบ้ากาม ดวงตากลมสวยก็ลุกวาว ความโกรธแล่นพล่านหนักกว่าเก่า ดวงหน้าสวยแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย เสี้ยววินาทีคุณหนูตระกูลลี่ก็ทำหน้าเชิดใส่คู่กรณี แล้วผลักอกกว้างเต็มแรง จนไรอันเซชนเข้ากับผนังปูน
“คนลามก! กล้ามองหน้าอกฉันเหรอ” มัลลิกาชี้หน้า ปากสั่นมือสั่นไปหมด เพราะความโกรธ
ฝ่ายไรอันได้แต่ส่ายหน้า ก่อนกระแทกลมหายใจออกมาสุดแรงด้วยความเบื่อหน่าย แล้วเบี่ยงตัวเดินหนีหญิงสาวไป ทว่ามัลลิกาไม่ยอมและโวยวายลั่น ก่อนจัดการผลักผู้มีพระคุณจนชนผนังอีกครั้งอย่างไม่คิดจะเกรงกลัวว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบอีกฝ่ายทุกประการ
“ยังไปไหนไม่ได้ พวกบ้ากาม! ลามก!” หญิงสาวสั่งห้ามเสียงกราดเกรี้ยว แล้วเธอก็ต้องการคำขอโทษจากอีกฝ่ายเดี๋ยวนี้ที่บังอาจมองหน้าอกของเธอ
“อย่ามากล่าวหาผมนะคุณ แต่ขอถามหน่อยเถอะคุณผู้หญิง...” ไรอันหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเพื่อมองท่าทีของผู้หญิงตัวเล็กแต่ชอบอวดเก่ง
“มองอะไรอีก!” มัลลิกาย้อนถามเสียงสูง ดวงตากลมสวยก็ขุ่นขวาง
“ผมจะถามว่าคุณเป็นผู้หญิงประเภทไหนกัน ถึงด่าได้แม้กระทั่งคนช่วยชีวิตตัวเอง แล้วถ้าผมรู้ว่าคุณจะปากจัดขนาดนี้ ผมคงไม่เข้าไปช่วยคุณหรอก” พูดจบ ไรอันก็เบี่ยงตัวเดินหนีหวังจะแยกทางแบบตัวใครตัวมันและขออย่าให้มาพบเจอผู้หญิงคนนี้อีกเลยทั้งชาตินี้และชาติหน้า!
“คนปากเสีย! ผู้หญิงประเภทฉันมันเป็นยังไง พูดมาให้ดีๆ นะ ไม่งั้นคนลามกอย่างคุณได้ตายแน่ พูดสิ! พูดมาเดี๋ยวนี้!” มัลลิกาตามไปคว้าแขนใหญ่เอาไว้ ทั้งรั้งทั้งผลักอีกคนจนแผ่นหลังกว้างปะทะกับผนังเป็นรอบที่สาม เพราะคนร่างใหญ่โตกว่า ไม่อยากรังแกผู้หญิง แต่ตอนนี้เขาเองก็ชักจะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน
