ตอนที่ 7
“ถ้าเลทิเธียพูดได้ เธอคงจะบอกผมว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่นี่เราก็ยังมืดแปดด้าน เพราะแม้แต่ตำรวจก็ยังบอกไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“เราอาจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็รู้แล้วว่าผู้ชายที่อยู่กับเลทิเธียคนนั้นชื่อ แม็กซิมิลเลียน เอ็ม.เจ.”
คำกล่าวของลีรอยด์ทำให้คนฟังตาวาว คิลเลียนกุมเอกสารในมือแน่นขณะฟังอีกฝ่ายพูดต่อ
“เขาเป็นช่างซ่อมรถอยู่ในอู่ฟินน่า การาจ แถวชานเมืองเขตดาวน์ทาวน์...เขาน่าจะรู้จักกับคู่หมั้นของคุณมาก่อนหน้านี้เพราะรถของเลทิเธียมีประวัติการเข้าซ่อมที่นั่น เมื่อวานผมไปที่อู่ เจ้าของบอกว่าแม็กซิมิลเลียนไม่ได้มาทำงานเกือบอาทิตย์แล้ว ซึ่งระยะเวลาที่เขาหายไปมันประจวบเหมาะกับวันที่เกิดเหตุพอดี”
“บ้าเอ๊ย!”
คิลเลียนคำรามอยู่ในลำคอและเผลอขย้ำซองเหมือนจะให้มันแหลกคามือ ลีรอยด์ชั่งใจชั่วขณะเมื่อเห็นอาการเดือดดาลของอีกฝ่าย แม้จะรู้ว่าลูกค้าของเขาคนนี้เลือดร้อนแค่ไหนหากแต่เขาก็ต้องทำตามหน้าที่ให้ลุล่วง
“การหายตัวไปแบบนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าเขาต้องทำอะไรผิด แต่จากการสืบประวัติครอบครัวของแม็กซิมิลเลียน เขาไม่เคยมีประวัติเสียหายหรือเคยก่อคดีอะไรมาก่อนเลย เป็นแค่ช่างซ่อมรถธรรมดา แต่เขามีน้องสาวทำงานอยู่ในโรงแรมที่เกิดเหตุด้วย”
“น้องสาว?”
คิลเลียนหรี่ตา ลีรอยด์มองไปที่ซองเอกสารยับย่นในมืออีกฝ่ายก่อนบอก
“รูปของเธออยู่ในซอง...เอ้อ...ในมือคุณ”
นาวาอากาศเอกหนุ่มรีบคลายมือและดึงรูปหลายใบที่เป็นรอยยับออกมากระทั่งใบสุดท้ายถูกคลี่ออก แม้รอยยับจะทำให้รูปบิดเบี้ยวทว่าใบหน้างามของสาวไทยใต้กรอบเรือนผมเข้มขลับยาวเคลียไหล่ก็ยังงดงามสะกดสายตา
ความทรงจำบางอย่างผุดพรายขึ้นมาในความนึกคิด เขาเคยพบผู้หญิงคนนี้...คืนนั้น คืนที่เขาพาเลทิเธียไปนั่งในห้องอาหารของโรงแรมพร้อมเพื่อนอีกสองคน คิลเลียนเผลอจ้องใบหน้าในภาพไม่วางตากระทั่งเสียงของลีรอยด์ดังขึ้น
“เธอชื่อมุกมาริน มนัญญา เป็นนักร้องอยู่ในห้องอาหารของโรงแรม เป็นคนไทยและเป็นน้องสาวของแม็กซิมิลเลียน”
“แต่เธอ...ดูไม่เหมือนพี่ชายสักนิด” คิลเลียนจับสังเกต
“ใช่...เธอแตกต่างจากพี่ชาย เพราะจริง ๆ พ่อแม่ของเธอเป็นคนไทย แต่ตอนนั้นพวกเขาไม่มีลูกก็เลยรับแม็กซิมิลเลียนมาป็นบุตรบุญธรรม แม็กซิมิลเลียนไม่ได้เรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัย เขาแยกตัวไปอยู่คนเดียวและเป็นช่างซ่อมรถประมาณสองปีเห็นจะได้ แต่จากที่สืบทราบก็คือเขายังติดต่อกับน้องสาวคนเดียวอยู่เสมอ มุกมารินน่าจะเป็นคนเดียวที่รู้และบอกเราได้ว่า ตอนนี้พี่ชายของเธออยู่ที่ไหน”
ลีรอยด์รู้สึกคอแห้งจนต้องจิบน้ำชาเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวเขาและคิลเลียนเหมือนมีความกดดันอวลอยู่โดยรอบ แววตาของนาวาอากาศเอกหนุ่มฉายความขึ้งเคียดออกมาอย่างน่ากลัว
“ขอบคุณมากลีรอยด์”
คิลเลียนเก็บรูปกลับเข้าไปในซอง เขาไม่ยอมแตะอาหารบนโต๊ะแม้แต่น้ำในแก้ว
“ถ้ารอให้ตำรวจเข้ามาสืบคดีผมอาจรู้ช้ากว่านี้ อย่างน้อยคุณก็ทำให้ผมรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป”
