บทย่อ
“ฉันถามหน่อยคุณประมูลตัวฉันมาทำไม”“คนฉลาดอย่างคุณไม่น่าถามคำถามแบบนี้ คุณไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ว่าผู้ชายเขาประมูลผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณมาเพื่อจุดประสงค์อะไร”สำหรับไอยวริญท์แล้วไม่ว่าจะตกเป็นของชายแก่คราวพ่อ หรือเป็นของผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันก็ไม่ต่างกัน ความรู้สึกของเธอตอนนี้ไม่ว่าจะต้องตกเป็นของใครก็คือแย่พอกัน และเธอจะไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเธอง่ายๆ แน่“ก็เอามาทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ทำอาหาร ล้างจานไง งานแบบนี้ฉันก็ทำได้นะ”“งานแบบนั้นไม่จำเป็นต้องถึงมือคุณหรอก เพราะที่นี่มีคนทำงานเหล่านั้นอยู่เต็มไปหมด”“งานอะไรฉันก็ทำได้ทั้งนั้นยกเว้นเป็นคู่นอนของคุณ”“แต่ผมว่าคุณเหมาะกับงานนี้ที่สุด”“ถ้าจะให้ฉันทำงานประเภทนั้นล่ะก็ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ” ไอยวริญท์เชิดหน้าตอบอย่างไม่แคร์“ผมไม่ใช่คนวิปริตที่ชอบมีอะไรกับศพ ที่สำคัญผมมั่นใจว่าผมมีเสน่ห์มากพอที่จะดึงดูดใจให้คุณยอมตกเป็นของผมด้วยความเต็มใจ”“ผู้หญิงคนอื่นอาจจะใช่แต่ไม่ใช่ฉัน เพราะฉะนั้นคุณเลิกฝันกลางวันในเรื่องนี้ไปได้เลย”“ไว้เรามาพิสูจน์กัน”
บทที่ 1
ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ เปลวแดดที่เต้นระยิบระยับแผดเผาอยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้รู้สึกร้อนและแห้งแล้ง แต่ไอยวริญท์ยังคงต้องทำงานท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุเช่นนี้ทั้งที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
สาเหตุก็เป็นเพราะเป้สาวประเภทสองฝีปากกล้า ซึ่งทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั้น ได้ตกลงรับงานนี้โดยมิได้ปรึกษาเธอก่อน ถ้าปรึกษากันก่อนเธอก็คงจะปฏิเสธงานนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าจะได้ค่าตอบแทนที่มากจนคุ้มค่าเหนื่อยก็ตามที
หลังจากที่ถ่ายแบบกันอยู่พักใหญ่นั้นเธอก็ขอพักและเดินกลับเข้าไปในกระโจมที่ทางทีมงานจัดให้เป็นที่พักผ่อนส่วนตัวของเธอทันที โดยไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับการกระทำของเธอหรือจะซุบซิบนินทาเธอว่าอะไรอย่าได้แคร์ ขนาดคนชาติเดียวกันเธอยังไม่แคร์นับประสาอะไรกับการมาทำงานต่างบ้านต่างเมือง ที่แม้แต่ภาษาของพวกเขาเธอก็ฟังไม่เข้าใจเลย
เมื่อกลับเข้ามาภายในกระโจมไอยวริญท์ก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาหรู ที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้เธอด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ พร้อมทั้งบ่นเรื่องดินฟ้าอากาศโดยมีเป้ผู้จัดการส่วนตัวเดินตามเข้ามาด้วย
“อากาศบ้าบออะไรแบบนี้ร้อนจะตายอยู่แล้ว เมืองไทยว่าร้อนแล้วนะมาเจอความร้อนของที่นี่ อากาศร้อนที่เมืองไทยถึงกับต้องชิดซ้ายไปเลย”
“ใจเย็นๆ ค่ะน้องไอซ์ดื่มน้ำแร่นี่ก่อนนะจะได้สดชื่น พี่เป้จัดเตรียมยี่ห้อที่น้องไอซ์ชอบมาให้น้องไอซ์โดยเฉพาะเลย”
“ขอบคุณค่ะ” ไอยวริญท์รับขวดน้ำแร่จากผู้จัดการส่วนตัวของเธอมาดื่ม
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
ไอยวริญท์ตวัดสายตาไปมองพี่เป้ของเธอด้วยประกายตาคมกล้าพร้อมทั้งวีนใส่ทันที
“ไอซ์ยังไม่ได้จัดการกับพี่เป้เลยนะที่รับงานนี้โดยไม่ปรึกษาไอซ์ก่อน ทีหลังก่อนที่พี่เป้จะรับงานอะไรให้ไอซ์ล่ะก็ถามความเห็นของไอซ์บ้างอะไรบ้าง ไม่ใช่รับงานไปโดยพลการแบบนี้ ถ้าไอซ์รู้มาก่อนนะว่าจะต้องมาถ่ายแบบท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุแบบนี้ล่ะก็ไอซ์จะไม่มีวันยอมเดินทางมาที่นี่เด็ดขาด”
“ก็พี่เห็นว่างานนี้เขาให้ค่าตอบแทนสูงมากจนคุ้มค่าเหนื่อย พี่ก็เลยเผลอรับปากเขาไปโดยไม่ได้ถามน้องไอซ์ก่อน ตอนแรกพี่ก็กะว่าจะปฏิเสธแต่พอเขาบอกถึงจำนวนเงินค่าตอบแทนจำนวนมหาศาลที่จะได้รับทำให้พี่ปฏิเสธไม่ลง เอาเป็นว่าพี่ขอโทษน้องไอซ์ละกันที่รับงานนี้โดยไม่ได้ถามความเห็นของน้องไอซ์ แต่พี่รับปากว่าคราวหน้าก่อนที่พี่จะรับงานอะไรพี่จะถามน้องไอซ์ก่อน”
“ช่างเถอะไหนๆ ก็รับงานเขามาแล้วนี่ก็คงต้องทำให้เสร็จ จะห่วงก็แต่ผิวบางๆ ของไอซ์นี่น่ะสิพี่เป้ไม่รู้ว่าจะทนกับแสงแดดร้อนแรงแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ขนาดไอซ์ทาครีมกันแดดจนเกือบหมดกระปุกแล้วนะไอซ์ยังรู้สึกแสบผิวอยู่เลย ไม่รู้ว่าคนที่นี่เขาทนกันได้ยังไง”
“พวกเขาคงจะชินกับอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งแบบนี้ล่ะมั้ง”
“นั่นสินะ...พี่เป้” เป้สะดุ้งเมื่อได้ยินไอยวริญท์เรียกเสียงดังทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้ เพราะไม่รู้ว่าเธอจะวีนอะไรอีกหรือเปล่า
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะน้องไอซ์ถึงเรียกพี่เสียงดังซะจนพี่ตกอกตกใจหมด”
“แค่นี้ทำเป็นตกใจขวัญอ่อนจริงนะพี่เป้”
ไอยวริญท์พูดกัดจิกพร้อมกับตวัดสายตาคมค้อนผู้จัดการส่วนตัวของเธอ แต่เป้ก็มิได้ถือสาหาความเพราะรู้จักนิสัยของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี อีกทั้งยังคุ้นเคยกันมานานจึงทำให้รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนปากร้าย ขี้วีน และชอบเหวี่ยงใส่คนนู้นคนนี้อยู่เสมอทั้งที่จริงแล้วไอยวริญท์เป็นคนที่จิตใจดี
แต่พูดไปใครจะเชื่อเพราะทุกคนในวงการล้วนแล้วแต่เคยเจอฤทธิ์เดชชองเธอมาแล้วทั้งนั้น ไอยวริญท์ทั้งวีนและเหวี่ยงโดยไม่เห็นแก่ใครหน้าไหนทั้งสิ้น อีกทั้งยังเรื่องมากจนได้รับฉายาว่า “สวย เลิศ เชิด หยิ่ง” แถมยังเป็นคนขี้วีน แต่ที่น่าแปลกก็คือแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเจอฤทธิ์เดชของเธอมากแค่ไหน ก็เห็นมีแต่คนอยากที่จะร่วมงานกับเธอ อาจเป็นเพราะไอยวริญท์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงและทำงานเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ถ้าเกี่ยวกับเรื่องงานแล้วเธอมักจะทำเต็มที่เต็มความสามารถเสมอ
“ว่าแต่คุณน้องมีอะไรจะพูดกับพี่”
“ไอซ์แค่จะบอกพี่เป้ว่าไม่ใช่พอเสร็จงานนี้เราก็ต้องเสียเงินเป็นแสน สำหรับการดูแลและฟื้นฟูผิวที่เสียไปเพราะถูกความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาหรอกนะ เห็นทีคงจะต้องดูแลกันขนานใหญ่จะคุ้มกันไหมกับเงินที่จะต้องสูญเสียไปหลังจากนี้”
“คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกค่ะ เพราะงานนี้น้องไอซ์ได้ค่าตอบแทนสูงถึงห้าล้านบาทเชียวนะ”
“ห้าล้าน” ไอยวริญท์ทวนคำพูดของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ หาได้ตื่นเต้นตกใจหรือตาโตกับเงินจำนวนดังกล่าว เพราะมั่นใจว่าเธอสามารถหาได้มากกว่านั้นอีก
“ใช่ ห้าล้านโดยแลกกับการเดินทางมาถ่ายแบบ และเดินแบบในงานการ่าดินเนอร์การกุศลที่จะจัดขึ้นในค่ำคืนนี้เท่านั้น พี่ว่าคุ้มนะแค่เดินทางมาทำงานที่อัลบาฮาร์เพียงแค่สิบวันก็ได้เงินห้าล้านบาทกลับไปนอนกอดสบายๆ”
“พี่เป้พูดอย่างกับว่าถ้าไม่ได้งานนี้ไอซ์จะไม่มีปัญญาหาเงินห้าล้านมานอนกอดงั้นแหละ”
“พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นนะเพียงแต่เห็นว่าน้องไอซ์เหนื่อยแค่งานนี้งานเดียว ก็ได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่าดีกว่ารับหลายๆ งานไง”
ในช่วงนั้นเองทางทีมงานและคนที่ทำหน้าที่เป็นล่ามเดินเข้ามาในกระโจมที่พักของหญิงสาว พร้อมกับชุดที่เธอจะต้องใส่ถ่ายแบบในเซ็ตต่อไป ล่ามบอกถึงความต้องการของทีมงานว่าเขาต้องการให้เธอเปลี่ยนมาใส่ชุดนี้เพื่อถ่ายแบบในเซ็ตสุดท้ายของวันนี้ ไอยวริญท์พยักหน้าพร้อมกับขอเวลาสิบนาทีในการเปลี่ยนชุด โดยมีทีมงานที่ทำหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าหน้าผมเข้ามาคอยอำนวยความสะดวก เมื่อทีมงานจัดการเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมของหญิงสาวเสร็จแล้วก็เดินออกจากกระโจมไป
“พร้อมหรือยังคะน้องไอซ์”
“ถ้าไอซ์บอกว่ายังไม่พร้อมพี่เป้จะว่ายังไง”
“พี่รู้ว่าน้องไอซ์พูดล้อพี่เล่น เรารีบไปกันเถอะนะเดี๋ยวทีมงานเขาจะรอนาน เซ็ตสุดท้ายละเสร็จชุดนี้เราก็จะได้กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม จะได้ไปทำสปาด้วยกัน”
การทำสปาหน้าและสปาตัวถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ไอยวริญท์โปรดปราน และถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับเธอ ดังนั้นเมื่อมีเวลาว่างเธอก็มักจะชวนพี่เป้ไปทำสปาด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง
“โอเคก็ดีเหมือนกันนะทำให้มันเสร็จๆ ไปจะได้กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม” พูดจบไอยวริญท์ก็เดินนำออกไปสมทบกับทีมงานที่กำลังรอเธออยู่จากนั้นก็เริ่มลงมือทำงานกันอีกครั้ง