บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 หอหลัวต๋า

“อะไรนะ ข้าน่ะหรืออยากเป็นพระชายาของเจ้าอ๋องหน้าโหดนั่น”

“คุณหนูเจ้าคะ! พูดเช่นนั้นหาได้ไม่ นี่ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะเหตุใดจึงได้กล่าวถึงเชื้อพระวงศ์เช่นนั้น ท่านอ๋องเป็นถึงหมิงชินอ๋อง อ๋องแม่ทัพใหญ่คุมดินแดนบูรพาที่ผู้คนยำเกรง เป็นคนที่น่าชื่นชมและ…”

“พอเถอะ ๆ เอาล่ะข้ารู้แล้วว่าเขายิ่งใหญ่ เทียมฟ้าทัดเทียมฮ่องเต้มากเพียงใด”

“คุณหนูนี่ท่านมิได้ชื่นชอบท่านอ๋องแล้วหรือเจ้าคะ”

“เขามาจับข้าถึงในจวน เอาไปขังไว้ในคุกใต้ดินแล้วปล่อยให้จางลี่เหมยมาทำร้ายข้า คนเช่นนี้เจ้ายังจะให้ข้าชอบเขาได้ลงอีกงั้นหรือ ข้ามิใช่คนโง่เช่นนั้นสักหน่อย”

“แต่ว่าก่อนหน้านี้…”

“ก่อนหน้านั้นก็คือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้วล่ะ”

“นี่ท่านตัดใจจากท่านอ๋องได้แล้วจริง ๆ หรือ ท่านแปลกไปมากเลยนะเจ้าคะ”

“แปลกหรือ เจ้าจะบอกว่าก่อนหน้านั้นข้า… เฮ้อ นั่นสินะข้าพอจะเข้าใจแล้ว”

นางจำได้ว่าเจ้าของร่างคลั่งรักอ๋องผู้นี้มากเพียงใด ต่อให้เขาพูดจาแรง ๆ ใส่นางหรือแม้จะโยนของที่นางให้ออกมานอกจวนต่อหน้า กงเหรินซินก็ไม่สนใจและคิดว่าท่านอ๋องเพียงแค่กริ้วเท่านั้น นางไม่เคยลดละต่อความพยายามจนเป็นที่กล่าวขานทั่วทั้งเมืองหลวง

“ช่างโง่จริง ๆ เสียด้วยสิ”

“เจ้าคะคุณหนู”

“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร เจ้าออกไปเถอะข้าอยากอยู่คนเดียวสักพัก”

“เจ้าค่ะ”

เมื่อได้เดินสำรวจในจวนแม่ทัพที่กว้างใหญ่นี้ นางก็พบว่าทั้งจวนมีพื้นที่กว้างมากจริง ๆ เรือนของนางจะอยู่ทางตะวันตกและพี่ชายคนรองจะพักอยู่ที่เรือนใหญ่ บัดนี้บิดาและพี่ชายคนโตของนางจะไม่อยู่ นางใช้เวลาถึงสองวันกว่าจะเดินสำรวจจนรอบและพบว่าด้านหลังมีโรงฝึกอาวุธและชายป่าหลังจวนก็เหมาะที่จะฝึกวรยุทธ์

“เช่นนี้ก็เยี่ยมไปเลย หากฝึกวิชาที่นี่ก็ไม่ต้องมีผู้ใดรบกวน… หอหลัวต๋า ใช่แล้วต้องไปที่นั่นก่อน”

สองวันถัดมา / ในเมือง

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านแน่ใจหรือว่าอยากจะมาที่หอหลัวต๋า ที่นั่นมิได้เหมาะ… คุณหนู”

“อาเจิงเจ้านั่งรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปคนเดียว"

“แต่ว่ามันอันตราย ข้าจะปล่อยให้ท่านไปคนเดียวหาได้ไม่”

“ไม่เป็นไร หากว่ามีเจ้าไปด้วยข้าจะยิ่งลำบาก เจ้านั่งรออยู่ที่นี่”

“เจ้าค่ะ”

อาเจิงเดินตามเหรินซินที่สวมชุดบุรุษ ซึ่งไปขโมยมาจากห้องของพี่ชายคนโตมาสวม เมื่อเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง อาเจิงจึงเดินแยกไปนั่งรอที่โต๊ะส่วนนางเดินไปที่โต๊ะของผู้ดูแลทันที

“คุณชายท่านนี้ มิทราบว่ามีสิ่งใดให้ข้าช่วยหรือไม่ขอรับ”

“เมฆาจรดพสุธา ไม่มีสิ่งใดที่ไม่รู้”

ผู้ดูแลมองหน้าคู่สนทนาด้วยความสนใจก่อนจะตอบกลับมา

“เจ็ดบรรพตมีสิ่งใดกั้นอยู่”

กงเหรินซินดึงพัดขึ้นมาพร้อมกับหันมายิ้มและตอบกลับในประโยคสุดท้าย

“ทุกสรรพสิ่งล้วนดุจหมอกควัน ไม่มีสิ่งใดที่ไร้คำตอบหากต้องการ”

ผู้ดูแลคำนับให้นางหนึ่งครั้งก่อนที่จะให้คนพานางเดินขึ้นไปยังชั้นสองของโรงเตี๊ยมชื่อดัง ตอนนี้กงเหรินซินฟื้นฟูวรยุทธ์ได้เกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงบำรุงร่างกายของเจ้าของร่างให้ทนเหนื่อยได้มากกว่านี้อีกนิดนางก็จะเป็นเยว่ชิงชิงในร่างของกงเหรินซินได้อย่างสมบูรณ์

ห้องลับ

เพียงแค่เดินขึ้นมาบนชั้นสองนางก็ได้พบกับความแปลกใจที่ต้องเดินไปยังห้องลับที่อยู่ด้านหลังซึ่งถูกทำขึ้นมาเพื่องานนี้โดนเฉพาะ เมื่อเปิดเข้าไปก็พบบุคคลสวมหน้ากากนั่งรออยู่ด้านใน

“คุณหนูท่านนี้ มิทราบว่าวันนี้มีสิ่งใดให้หอหลัวต๋ารับใช้งั้นหรือ”

เพียงปราดเดียวผู้ที่นั่งอยู่ก็ทราบทันทีว่านางมิใช่ผู้ชาย นับว่าเป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง กงเหรินซินไม่อ้อมค้อมเช่นกันเพราะนางเองก็เคยอยู่ในยุทธภพมาก่อน จึงยื่นกระดาษให้เขาทันที

“ข้าต้องการสิ่งนี้”

ผู้ดูแลรับกระดาษมาและเปิดอ่านดู เมื่ออ่านดูในกระดาษสลับกับเงยหน้าขึ้นมามองนางก็เกิดคำถามชวนอยากรู้ขึ้นมา

“กระบี่อ่อนงั้นหรือ แล้วต้องทำจากเหล็กตงหยวนชั้นดี คุณหนูท่านคิดเช่นไรจึงอยากจะสั่งให้หอหลัวต๋าของเราหาสิ่งนี้ให้ เจ้าเป็นสตรีที่ดูบอบบาง…เหตุใดจึงต้องการสิ่งนี้”

เพียงพริบตาเดียวดาบที่ชั้นก็ถูกนางดึงมาและพาดมาที่คอของผู้ดูแลทันที องครักษ์สองคนด้านหลังพร้อมชักดาบออกมาแต่กงหลินซินก็ดึงดาบออกมาและโยนกลับไปสวมในฝักอย่างแม่นยำได้เช่นเดิม

“กระบวนท่ารวดเร็วว่องไวดุจสายลม พลิ้วไหวดุจน้ำแต่ใจร้อนดุจไฟ ท่านมาจากสำนักไป๋ซานเพียงแต่ผู้ที่ใช้กระบวนท่านี้ข้าได้ข่าวว่านางตายไปแล้วมิใช่หรือ”

“ท่านจะหาสิ่งที่ข้าต้องการได้เร็วที่สุดเมื่อใด”

ผู้ดูแลมองกงเหรินซินอย่างพินิจอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจตอบนางไป

“ครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อยเพราะต้องให้ช่างเหล็กฝีมือดีทำขึ้นมา”

“นั่นช้าเกินไป สิบวัน”

“หึหึ สมกับเป็นยอดหญิงในยุทธภพ แต่ข้ากลับไม่เคยทราบเลยว่าคุณหนูตระกูลแม่ทัพจะเคยร่ำเรียนที่สำนักกระบี่อันดับหนึ่งมาก่อน”

“ว่าราคามาเถอะ ข้ายังมีอีกเรื่องอื่นที่จะให้ท่านทำ”

“สองร้อยตำลึง รับแต่เงินสดไม่มีมัดจำ ต้องจ่ายราคาเต็มเท่านั้น”

ตั๋วเงินวางลงบนโต๊ะทันที

“นี่…”

“ข้าจ่ายให้ท่านสองร้อยห้าสิบตำลึง หวังว่าจะเร่งมือทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด หากว่าได้ก่อนสิบวันยิ่งดี”

“เช่นนั้นข้ารับรองว่าท่านจะได้รับสินค้าที่พึงใจแน่นอน คุณหนูกงท่านมีเรื่องใดที่จะให้หอหลัวต๋าจัดการอีก”

“ที่แท้ท่านก็รู้ตั้งแต่แรกว่าข้าเป็นใคร สมกับเป็นหอสืบข่าวอันดับหนึ่งที่รอบรู้ทุกเรื่องในใต้หล้า หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ”

กระดาษอีกแผ่นถูกส่งไปให้ผู้ดูแลหอหลัวต๋า เมื่อเขาอ่านเสร็จจึงได้หันมามองหน้านางซึ่งเขาแอบนึกสงสัยอยู่ไม่น้อย

“ท่านต้องการทราบเรื่องของสำนักไป๋ซานงั้นหรือ”

“ใช่ ข้ายินดีจ่ายตามที่ท่านเรียกมาแต่ขอทราบโดยละเอียด”

“เช่นนั้นรอสักครู่ ข้าจะให้คนคัดรายงานมาให้ว่าแต่ท่านต้องการทราบเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่”

“ข้าอยากทราบเรื่องราวตั้งแต่ก่อนที่เจ้าสำนักคนเก่าตาย และสถานการณ์ของสำนักไป๋ซานในตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง”

“เช่นนั้นท่านรอสักครู่ ข้าจะรีบให้คนจัดการให้”

กงเหรินซินควักเงินออกมา แต่ผู้ดูแลกลับยกมือขึ้นมาห้ามนางอีกครั้ง

“คุณหนูกง ข้ายินดีที่ได้ร่วมงานกับท่าน แต่จำนวนเงินที่ท่านจ่ายมาให้มากพอที่จะทำงานสองอย่างนี้แล้ว อย่างมากแค่ข่าวของสำนักไป๋ซานก็ไม่เกินสามสิบตำลึง พวกข้าทำการค้าอย่างยุติธรรม ท่านจ่ายมาเกินแล้วดังนั้น เงินที่เหลือท่านเก็บเอาไว้เถอะ”

“ขอบคุณผู้ดูแล”

“มิกล้า ๆ เชิญท่านนั่งดื่มชารอสักครู่ ข้าจะรีบให้คนนำรายงานมาให้ท่าน”

“ขอบคุณ ต้องรบกวนท่านแล้ว”

เมื่อได้รายงานจากหอหลัวต๋า กงเหรินซินจึงรีบเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมและตรงกลับจวนทันทีก่อนที่กงอวี้หานจะกลับถึงจวน เมื่อมาถึงก็รีบเปลี่ยนชุดและเครื่องแต่งกายและรีบอ่านรายงานที่ได้มาจากหอหลัวต๋า ซึ่งนับว่ารายละเอียดแทบจะไม่ต่างกับสิ่งที่นางเคยประสบมาราวกับได้กลับไปยังคืนนั้นอีกครั้ง แต่นางเปิดอ่านเพียงไม่นานอาเจิงก็เดินเข้ามาแจ้งว่ามีคนผู้หนึ่งมารอพบนางอยู่ที่โถงด้านหน้า

“คุณหนูเจ้าคะ”

“มีอะไร เหตุใดเจ้าทำหน้าตาตระหนกเช่นนี้”

“ท่านอ๋องมาขอพบคุณหนูเจ้าค่ะ ตอนนี้พระองค์ประทับอยู่กับคุณชายรองที่ห้องโถงด้านหน้าเจ้าค่ะ”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel