บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 11 งานเลี้ยงสกุลจาง 1

ท่านอ๋องหันไปมองหน้าองครักษ์ และรีบสลับกลับมาดึงจอกชาขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

“เอาล่ะเจ้ายังไม่ค่อยแข็งแรง รีบกลับไปพักเถอะ”

“ท่านพี่เพคะ เรื่องข่าวลือนั่นท่านเชื่อมากน้อยแค่ไหนเพคะ”

“อีกสองวันที่สกุลจางจะมีงานเลี้ยง เอาไว้เมื่อถึงวันนั้นเจ้าก็ไปดูด้วยตัวเองเถอะ”

“เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัว”

ซ่งจินหรูลุกขึ้นโดยมีสาวใช้คอยพยุงให้เดินกลับไป ท่านอ๋องวางจอกชาลงพร้อมกับเรียกนางไว้อีกครั้ง

“จริงสิจินหรู”

“เพคะท่านพี่”

“ข้าคิดว่าในเมื่อเจ้าเริ่มแข็งแรงแล้ว หลังจากงานเลี้ยงสกุลจางก็น่าจะกลับเข้าวังไปอยู่กับพระสนมหลันเหมือนเดิมได้แล้ว”

ซ่งจินหรูทำสายตาเศร้าและหันมามองพักตร์ท่านอ๋องอีกครั้ง

“พี่เว่ยเซียวนี่ท่าน... รังเกียจข้าหรือเพคะ”

“ไม่ใช่เช่นนั้น บัดนี้เจ้าหาใช่น้องสาวตัวน้อยที่เอาแต่ตามข้า ตอนนี้เจ้าผ่านพิธีปักปิ่นมาหลายเดือนแล้ว อีกอย่างจวนนี้ก็เป็นจวนพักของข้านอกวังไม่เหมาะที่เจ้าซึ่งเป็นสตรียังไม่ออกเรือนมาพักอยู่ด้วย”

“แต่ว่าข้าอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลท่าน”

“เจ้าดูแลตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้แม้แต่เดินยังต้องมีคนคอยพยุง กลับไปพักในตำหนักพระสนามหลันข้าจะได้ไม่ต้องกังวล อีกอย่างในวังมีการอารักขาเข้มงวดกว่าที่นี่มากนัก”

“หากท่านพี่ต้องการเช่นนั้น จินหรูก็จะเชื่อฟังเพคะ”

“อืม เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”

“จินหรูทูลลา”

ซ่งจินหรูเดินออกไปพร้อมกับสายตาเศร้า เมื่อนางออกไปแล้วท่านอ๋องจึงได้ยกชาขึ้นมาจิบอีกครั้งและสั่งให้ตันฉินไปปิดประตูทันที องครักษ์หนุ่มหันมาถามด้วยความสนใจ

“ท่านอ๋องทรงตรัสเช่นนั้น ไม่กลัวว่าคุณหนูซ่งจะเสียใจหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เสียใจอันใดข้าคำนึงถึงความปลอดภัยของนางเป็นที่ตั้ง เหตุใดจะต้องเสียใจด้วย”

“แต่ว่าดูเหมือนว่าคุณหนูซ่งอยากจะอยู่กับพระองค์ที่นี่นะพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่นี่ไม่ปลอดภัย อีกทั้งข้าก็คิดว่าไม่เหมาะเท่าใดนักเพราะนางยังมิได้ออกเรือน นางเป็นสตรีที่พระสนมหลันดูแลหลังจากเสด็จแม่ข้าสิ้นไปแล้ว ให้กลับไปอยู่ในวังจะเหมาะกับนางมากกว่า อย่าลืมเรื่องที่ข้าสั่ง”

“ท่านอ๋อง หรือว่าพระองค์… มิได้คิดอะไรกับคุณหนูซ่ง ทำเช่นนี้ไม่ต่างกับสงสัยนาง...”

“ข้าเห็นจินหรูเป็นน้องสาวแท้ ๆ มาโดยตลอด อีกอย่างในเวลานี้นางก็ได้เวลาที่จะออกเรือนแล้ว ข้าแม้มิใช่พี่ชายแท้ ๆ ของนางแต่ก็หวังว่าจะให้จินหรูได้แต่งงานกับคนดีและเหมาะสม หาากว่านาง... จะคิดได้”

“แต่ว่าคุณหนูซ่งไม่มองชายใดเลยนอกจากพระองค์”

“อย่าพูดจาเหลวไหล ข้าไม่เคยคิดกับนางเกินกว่าฐานะน้องสาวและไม่มีทางเป็นไปได้”

“หรือว่าพระองค์…ยังไม่ลืม... สตรีผู้นั้น”

ท่านอ่องนิ่งอึ้งไป เมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่ตอบตันฉินจึงได้ถามอีกครั้ง

"หรือว่าพระองค์จะเลิกสงสัยคุณหนูกงเพราะ..."

“เจ้าเพ้อเจ้ออันใด ข้าน่ะหรือจะคิดถึงสตรี…”

เมื่อตรัสถึงตอนนี้ กลับมีใบหน้าของสตรีผู้หนึ่งผุดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ สายตาที่เกรี้ยวกราด ดื้อดึงและไม่ยอมคนทำให้หัวใจของท่านอ๋องหนุ่มกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรงโดยไม่ทันรู้ตัว เขาไม่เคยมองนางเช่นนั้นมาก่อนแต่เหตุใดเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้กลับไปนึกถึงนางได้

“หยุดเพ้อเจ้อแล้วสืบเรื่องนี้ต่อ เจ้าบอกว่านางรับสาวใช้มาใหม่คนหนึ่งที่มีวรยุทธ์ด้วยงั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ ดูเหมือนว่าจะได้มาจากหอหลัวต๋า”

“หอหลัวต๋างั้นหรือ นี่นางรู้จักคนในยุทธภพงั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“นางไปหอหลัวต๋าที่มีแต่สายข่าวและนักฆ่า เรื่องนี้น่าสงสัยยิ่งนัก”

“ท่านอ๋อง! แต่ว่าพวกเราจับนางมาสอบสวนแล้ว แต่นางปฏิเสธอย่างแข็งขัน..”

“ข้ามิได้หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับจินหรู แค่กำลังสงสัยว่าเหตุใดนางจึงไปที่หอหลัวต๋าเท่านั้น”

"เช่นนั้นพระองค์ก็ไม่คิดที่จะสงสัยนางแล้วงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เรื่องที่คุณหนูซ่งถูกปองร้ายในวัง..."

"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ตอนนี้จำเป็นต้องแกล้งโง่ไปก่อน คนของเราเริ่มสืบไปถึงไหนแล้ว"

"หากเป็นเรื่องในวังกระหม่อมสั่งให้เริ่มทำการค้นหาเบาะแสแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"อืม ดีแล้ว ทางสกุลกงเล่า"

“นอกจากเรื่องที่รับสาวใช้คนใหม่ก็แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นเลย อีกอย่างนางก็แทบจะไม่ออกจากจวนสกุลกงเลย นี่นับว่าแปลกมากนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เอาเถอะอีกสองวันจะมีงานเลี้ยงที่สกุลจาง เจ้าคอยให้คนจับตาดูนางเอาไว้สักหน่อยก็แล้วกัน ข้าเองก็อยากจะรู้ว่านางจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีกหรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ตันฉินเดินออกไปจากห้องแล้ว ท่านอ๋องจึงได้หันกลับมานั่งจิบชาอีกครั้ง เมื่อมองขนมและคิดถึงเรื่องที่ตันฉินมารายงานเขาเมื่อครู่นี้ก็เริ่มคิดอีกครั้ง

“พลิกวิกฤติที่เสียเปรียบกลับมาเอาคืนฝ่ายตรงข้ามได้ในทันที กลยุทธ์เช่นนี้นาน ๆ ทีจะได้เห็น เจ้าร้ายกาจไม่เบาเลยนี่กงเหรินซิน ข้าอยากจะดูสิว่าเจ้ายังซ่อนความร้ายกาจไว้อีกมากเพียงใดกันแน่ หวังว่าเจ้าจะไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกนะ.... ซ่งจินหรู”

สองวันถัดมา / งานเลี้ยงสกุลจาง

ข่าวลือเท็จที่จางลี่เหมยเที่ยวปล่อยข่าวถูกกงเหรินซินจับได้ และบัดนี้เรื่องราวที่นางใช้เงินจ้างคนให้ร้ายกงเหรินซินเป็นที่รู้กันโดยทั่ว แต่ข่าวนั้นยังไม่ค่อยแพร่หลายเข้ามาในหมู่บรรดาขุนนาง ใต้เท้าจางรีบใช้เงินปิดข่าวเสียก่อน แต่ก็ยังมีซุบซิบกันในวงแคบ ๆ แม้ว่าวันนี้สกุลจางจะจัดงานเลี้ยงขึ้นแต่เรื่องข่าวที่บุตรสาวของเขากระทำไปก็ยังคงถูกพูดถึง

“ยินดีต้อนรับ เชิญด้านใน เชิญ ๆ”

“จางซื่อ” เจ้ากรมขุนนางออกมารับแขกด้วยตัวเอง เพียงเพราะป้องกันมิให้ผู้ที่มาร่วมงานเอ่ยถึงเรื่องอื้อฉาวของบุตรสาวก่อนหน้านี้ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็รู้และให้เกียรติเจ้าของงานเช่นกัน

“นายท่าน รถม้าสกุลกงมาแล้วขอรับ”

“เร็วเข้า ข้าจะต้องไปต้อนรับด้วยตัวเอง”

ใต้เท้าจางรีบเดินมาที่รถม้าของสกุลกง เมื่อคุณชายรองและคุณหนูสามพร้อมกับสาวใช้สองคนของนางเดินตามมา เขาก็รีบเข้ามาต้อนรับด้วยความนอบน้อม

“ท่านรองเจ้ากรมกงยินดีต้องรับ เชิญด้านในขอรับ”

“ใต้เท้าจางเกรงใจเกินไปแล้วผู้เยาว์มิอาจรับคารวะนี้ได้ ข้ามีของขวัญเล็กน้อยมามอบให้ขอท่านรับเอาไว้ด้วย”

“ขอบคุณมาก เช่นนั้นเชิญใต้เท้ากงและคุณหนูกงด้านในเลย”

“ขอบคุณ น้องสามไปกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ ขอบคุณคำเชิญของใต้เท้าจางด้วยเจ้าค่ะ”

“ยินดี ๆ เชิญด้านในเลย”

เมื่อเดินเข้าไปนั่งในงาน กงอวี้หานก็แยกไปคุยกับเหล่าขุนนางที่เข้ามาทักทายเขา กงเหรินซินจึงนั่งอยู่ที่โต๊ะของเหล่าสตรีที่อยู่ด้านใน โดยมีสาวใช้ทั้งสองนั่งอยู่ด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง

ท่านอ๋องและซ่งจินหรูมาถึงที่งานแล้ว ผู้คนต่างรีบลุกขึ้นไปต้อนรับ บางคนก็ไม่ได้ไป เหรินซินพึ่งจะสังเกตเห็นว่าจางลี่เหมยวิ่งออกไปต้อนรับพร้อมกับจางฮูหยินด้วยท่าทางเร่งรีบ

“คุณหนูท่านไม่ไปรับเสด็จท่านอ๋องหรือเจ้าคะ”

“อีกเดี๋ยวเขาก็เข้ามาข้างในเหมือนกัน เหตุใดข้าต้องเสียเวลาเดินไปเดินมาด้วยเล่า อาเจิงเจ้าชิมนี่สิ อร่อยใช้ได้เลย”

“คุณหนูเจ้าคะ พวกนางซุบซิบกันตั้งแต่ท่านเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะแล้วนะเจ้าคะ”

“อ่ะเจ้าก็ลองชิมดูสิอันเมี่ยน”

กงเหรินซินสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้วก่อนที่อันเมี่ยนจะบอกนางเสียอีก เหล่าสตรีในเมืองหลวงเริ่มจับกลุ่มซุบซิบกันอย่างเปิดเผยและยังหันมามองนางเป็นครั้งคราว แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจคนเหล่านี้เท่าใดนักเพราะวันนี้คนที่นางอยากพบมากที่สุดไม่ใช่คนสกุลจาง แต่เป็นคู่กรณีที่เคยตกน้ำไปพร้อมกับนางต่างหาก

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องกับคุณหนูซ่งเข้ามาแล้วเจ้าค่ะ”

กงเหรินซินวางจอกชาลงและค่อย ๆ หันไปมอง ท่านอ๋องที่เดินนำสตรีตัวเล็กสวมชุดสีชมพูอ่อนที่ประดับตกแต่งด้วยมุกหรูหรา ใบหน้าของนางงดงามดุจบุปผาแรกแย้ม แต่เมื่อหันมาเห็นนางที่นั่งอยู่กลับรีบจับแขนท่านอ๋องเอาไว้แน่น

“ตายจริงเพียงแค่เห็นหน้าคุณหนูกงก็กลัวจนตัวสั่น น่าสงสารคุณหนูซ่งยิ่งนักพวกเจ้าว่าหรือไม่”

“นั่นสิคนอะไรหน้าด้านยิ่งนัก ยังกล้ามางานเลี้ยงอย่างเปิดเผย ไม่กลัวสิ่งชั่วร้ายที่ทำเอาไว้ถูกเปิดโปงหรืออย่างไรกัน”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ข้ายังไม่รู้สึกอะไรพวกเจ้าก็อยู่เฉย ๆ เถอะ นี่น่ะหรือซ่งจินหรู ช่างดูบอบบางและน่าทะนุถนอมดั่งดอกบัวขาวในสระโคลนเสียจริง”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel