บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ทางด้านของพงศ์พล ทันทีที่ปลายทางกดรับสายแล้ว เขาก็ตั้งโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะทำงาน ให้ลูกค้าจากดินแดนหลังม่านเหล็ก ได้เห็นใบหน้าของเหล่าบอร์ดี้การ์ดสาวชัดๆ จากกล้องโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเอ่ยบอกลูกค้าวีไอพี และลูกน้องของตนเองไปด้วยว่า

“ผมจะเรียกชื่อของบอร์ดี้การ์ดแต่ละคน หากผมเรียกชื่อใคร ให้คนนั้นลุกขึ้นเดินผ่านหน้ากล้อง ให้เห็นชัดๆ และผมจะอ่านประวัติการทำงานของพวกคุณด้วย”

พงศ์พลกวาดสายตามองลูกน้องแต่ละคน ซึ่งไม่มีใครได้มีโอกาสเห็นใบหน้าของลูกค้าวีไอพีรายนี้ คงมีแค่เพียงเขาเท่านั้นที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย

และเมื่อเหล่าบอร์ดี้การ์ดสาวพยักหน้าเป็นอันเข้าใจแล้ว พงศ์พลก็เริ่มเรียกชื่อบอร์ดี้การ์ดสาวคนแรก พร้อมกับอ่านประวัติของเธอให้ลูกค้าได้ฟังด้วย

พงศ์พลอ่านประวัติการทำงานของบอร์ดี้การ์ดจนเกือบครบทุกคนแล้ว และพวกเธอเหล่านั้นก็เดินผ่านกล้องให้ลูกค้าได้เห็น ทว่า...ไม่มีใครเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้าชาวรัสเซียคนนี้แม้แต่คนเดียว

กระทั่งมาถึงคนสุดท้ายนั่นก็คือนารินดา พอพงศ์พลเรียกชื่อ และนั่นหมายความว่าหญิงสาวต้องลุกขึ้นเดิน เพื่อโชว์ตัวเหมือนดั่งเพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ทำมาแล้ว

“นารินดา...”

และระหว่างที่นารินดากำลังจะลุกขึ้นเดินโชว์ตัวนั้น พงศ์พลก็ได้อ่านประวัติของนารินดาให้ลูกค้าชาวรัสเซียได้ฟังด้วย

“คนสุดท้ายชื่อนารินดา เคยอารักขาภริยาท่านทูตจากหลายประเทศ ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย เธอเรียนศิลปะการป้องกันตัวทุกแขนง และได้คะแนนในอันดับต้นๆ เป็นอดีตสไนเปอร์สาวของประเทศไทย ยิงปืนได้แม่นราวกับจับวาง นารินดาทำงานอารักขามาแล้วสี่ปี ไม่เคยทำงานพลาดแม้แต่ครั้งเดียวครับ”

อ่านประวัติของนารินดาเป็นคนสุดท้ายไปแล้ว พงศ์พลก็ลอบถอนหายใจเพราะความกังวล ได้แต่หวังว่าลูกค้ารายนี้จะเลือกลูกน้องของตนเองสักคนเพื่อให้ทำหน้าที่อารักขาเขา เพราะลูกน้องของเขาเดินโชว์ตัวครบหมดทุกคนแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่ตัดสินใจเลือกแม้แต่คนเดียว เขาไม่อยากพลาดงานชิ้นโบว์แดงชิ้นนี้ เพราะลูกค้าคนนี้จะยอมจ่ายเงินค่าจ้างให้กับบริษัทของเขาเป็นเงินก้อนโตทีเดียว

นารินดาผุดลุกขึ้นยืนเพื่อเดินผ่านหน้ากล้องเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ และด้วยขัดใจกับวิธีการเลือกเฟ้นบอร์ดี้การ์ดจากลูกค้าเรื่องมากคนนี้ หญิงสาวจึงรีบเดินเร็วๆ จนเกือบเป็นวิ่ง ให้ตนเองผ่านหน้ากล้องแค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียว คิดว่ายังไงๆ ตนเองก็ไม่เป็นที่สนใจของลูกค้าแน่ๆ

แต่แล้วก็ต้องลอบตีหน้ามุ่ย เพราะขณะกำลังจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ก็ถูกเจ้านายหนุ่มกวักมือเรียกพร้อมกับออกคำสั่งว่า

“นารินดา เดินมายืนหน้ากล้องอีกรอบ ให้ลูกค้าได้เห็นใบหน้าของคุณชัดๆ”

“บ้าจริงๆ”

นารินดาบ่นอุบ เดินลากเท้าที่แลดูเหมือนหนักอึ้งปานหินผา ไปยืนตีหน้าหงิกหน้างออยู่หน้ากล้อง โดยไม่ลืมแขวะลูกค้าเรื่องมากคนนี้ด้วย

“แค่เลือกบอร์ดี้การ์ดสักคน ก็ทำเป็นเรื่องมากซะจริงๆ ต้องให้เดินโชว์ทรวดทรง ทำยังกับเลือกนางในตู้กระจกไม่มีผิด”

“นารินดา!”

พงศ์พลถลึงตาเรียกชื่อลูกน้องแกมเอ็ดไปในตัว จากนั้นก็เอ่ยขอโทษลูกค้าเป็นการใหญ่

“ขอโทษนะครับ ลูกน้องของผมปากเปราะไปหน่อยครับ” พงศ์พลยิ้มเจื่อนๆ ให้กับลูกค้าอย่างขอลุแก่โทษ ซึ่งอีกฝ่ายกระตุกยิ้มตรงมุมปากให้เขาเห็นด้วย

“จะด่าว่าปากหมาก็ไม่เป็นไรนะคะ บอส...”

นารินดาไม่สนใจเสียงดุของเจ้านายหนุ่ม หญิงสาวแขวะเป็นภาษาไทยเสียงดัง ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้ารายนี้ต้องฟังออก เพราะพงศ์พลพูดภาษาไทยกับเขาตลอดเวลา

เมื่อต้องยืนโชว์ตัวนานๆ นารินดาก็ชักรำคาญ จึงเอ่ยถามเจ้านายหนุ่มเสียงดัง “บอสคะ นากลับไปนั่งได้หรือยังคะ ยืนโชว์ตัวแบบนี้ชักจะเมื่อยแล้วล่ะคะ”

“กลับไปนั่งก่อน นารินดา”

พงศ์พลโบกมือไล่ลูกน้องสาว ซึ่งรีบเดินไปทรุดตัวลงนั่งในทันที จากนั้นก็รอการตัดสินใจว่าลูกค้าจะเลือกใครให้เป็นบอร์ดี้การ์ดคอยอารักขาเขา

คราวนี้พงศ์พลยกโทรศัพท์แนบใบหู พลางพยักหน้ารับคำ ขณะได้ยินคำสั่งจากลูกค้าคนสำคัญ “ครับ ได้ครับ รับทราบครับ”

ขณะพงศ์พละกำลังสนทนากับลูกค้า บรรดาบอร์ดี้การ์ดสาวต่างก็รอลุ้นว่าลูกค้าจะเลือกใครให้เป็นบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว อีกทั้งยังอยากรู้ประวัติและอยากเห็นหน้าตาของลูกค้ารายนี้ซะเหลือเกินว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร

หลายคนอยากรู้ประวัติ อยากเห็นหน้าตาของลูกค้า แต่นารินดากลับไม่มีความรู้สึกเหล่านั้น หญิงสาวนั่งนิ่งเงียบ ภาวนาว่าอย่าถูกเลือกให้ทำงานชิ้นนี้

แต่...ดูเหมือนคำภาวนาของเธอไม่เป็นผล เมื่อพงศ์พลวางโทรศัพท์ลง แล้วเอ่ยบอกให้ทราบว่าใครกัน ที่ได้รับเลือกให้ทำงานชิ้นโบว์แดงคอยอารักขาลูกค้าจากดินแดนหมีขาว

“ลูกค้าเลือกแล้วว่าจะให้...นารินดา เป็นบอร์ดี้การ์ดของเขา เชิญทุกคนไปพักผ่อนก่อนครับ ยกเว้นนารินดา ที่ต้องอยู่คุยรายละเอียดกับผมต่อ”

พงศ์พลผายมือเชิญลูกน้องคนอื่นๆ ให้ออกจากห้องประชุมก่อน ซึ่งแต่ละคนพอเดินผ่านนารินดาก็ไม่ลืมแสดงความยินดีกับหญิงสาวด้วย ที่ได้รับเลือกให้ทำงานนี้

“ยินดีด้วยนะนา”

“สู้ๆ นะนา ทำงานให้เต็มที่ ให้โลกรู้ว่าหญิงไทยก็แกร่งไม่แพ้ชาติใดในโลก”

นารินดายิ้มเจื่อนๆ พยักหน้ารับคำให้กำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน และเมื่ออยู่ตามลำพังกับเจ้านายหนุ่ม ก็โอดครวญกับอีกฝ่ายในทันที

“เจ้านายคะ ทำไมต้องเลือกนาด้วยล่ะคะ”

“ผมไม่ได้เลือกคุณ แต่ลูกค้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเลือก” พงศ์พลปฏิเสธยิ้มๆ พลางยื่นแฟ้มเอกสารให้กับลูกน้องสาวด้วย

“นี่คือประวัติของลูกค้าคนนี้ เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ประวัติของเขา หากคนๆ นั้นไม่ได้ถูกรับเลือกให้เป็นบอร์ดี้การ์ดของเขา”

“แม้กระทั่งชื่อ! เขาก็ไม่อยากให้ใครรู้หรือคะ” นารินดาเอ่ยถามอย่างงุนงง ขณะเอื้อมมือไปรับแฟ้มเอกสารจากเจ้านาย

“ใช่ครับ” พงศ์พลพยักหน้ารับ พลางพยักพเยิดให้ลูกน้องเปิดอ่านประวัติของลูกค้าคนสำคัญ “อ่านประวัติของเขาสิครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel