บท
ตั้งค่า

5

บทที่ 5

“ถ้าเหตุผลทางธุรกิจมันบังคับล่ะ” นวพลมองเพื่อนรักที่นิ่งเงียบเป็นครั้งแรกตั้งแต่พูดเรื่องนี้กัน ถึงแม้เธอจะเป็นคนดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเอง แต่สิบหกปีที่เป็นเพื่อนกันมา ทำให้เขารู้ว่าเธอเป็นคนแข็งนอกแต่อ่อนใน ปากร้ายแต่ใจดี เธอมีเหตุผล มีน้ำใจและเอาใจใส่ต่อคนรอบข้างเสมอ “แกก็คิดซะว่าพี่นุ่มเขาแต่งงานแทนแกก็แล้วกันนะนิ่ม แกจะได้เลิกโกรธพี่เขา”

“แต่งแทนฉันทำไม ฉันโตพอที่จะแต่งงานได้แล้วเหมือนกัน” เธอเริ่มเอะใจเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน หรือว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ

“เมื่อกี้แกยังบอกว่าไม่อยากแต่งอยู่เลยนะ”

“ก็แกมาพูดให้ฉันคิดทำไมล่ะ” ท่อนขายาวแต่ไม่ค่อยเรียวยกขึ้นหมายจะยันใส่เพื่อนหนุ่ม แต่โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นเสียก่อน จึงต้องเปลี่ยนใจไปหยิบโทรศัพท์แทน “พี่กูลโทรมา” เธอปั้นหน้าเครียดเพราะสังหรณ์ใจว่าจะไม่ใช่เรื่องดี “ปิ่นรับสายแทนนิ่มหน่อยสิ บอกว่านิ่มเข้าห้องน้ำก็ได้”

ปรียากรที่นั่งเงียบมาตลอดถูกยัดโทรศัพท์ใส่มือ หล่อนจึงกดรับสาย กรอกเสียงทักทายสวัสดีลงไปและพูดตามที่โชติรสบอก

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” เธอเอามือปิดลำโพงแล้วขยับปากพูดแทบไม่มีเสียง “พี่เขาบอกว่าให้ฉันเรียกแกให้หน่อย เขามีเรื่องด่วนมากที่ต้องคุยกับแกให้ได้” แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อน “รับเถอะนิ่ม น้ำเสียงพี่เขาไม่ดีเลยว่ะ”

ได้ยินดังนั้นโชติรสจึงยอมรับโทรศัพท์จากเพื่อนมาคุยต่อ “หนูนิ่มเองค่ะพี่กูล.. พี่กูลรู้แล้วเหรอคะ” เธอถามเสียงเครือเพราะรู้สึกสงสารเขาเหลือเกิน

(นุ่มเขาโทรบอกพี่เมื่อกี้นี้เอง พี่ตั้งตัวไม่ติดเลยนิ่ม พี่อยากจะถามเขาตั้งหลายอย่าง แต่เขาไม่เปิดโอกาสให้พี่ถามเลย นิ่มพอจะรู้ไหมว่าทำไมนุ่มเขาถึงทำกับพี่แบบนี้ พี่ทำอะไรผิดใจเขาไปหรือเปล่า นิ่มบอกพี่หน่อยได้ไหม)

หญิงสาวปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพราะความสงสารและเห็นใจ “หนูนิ่มก็ไม่รู้ว่าทำไมพี่นุ่มถึงทำแบบนี้เหมือนกัน แต่หนูนิ่มมั่นใจว่าพี่นุ่มต้องมีเหตุผล และหนูนิ่มก็รู้ว่าพี่นุ่มยังรักพี่กูลอยู่นะคะ”

(พี่อยากคุยกับนุ่ม นิ่มช่วยพี่หน่อยนะ)

“วันนี้เลยเหรอคะพี่กูล”

(พี่มีโอกาสแค่วันนี้ก่อนเขาจะเข้าห้องหอเท่านั้น ก่อนที่เขาจะกลายเป็นของคนอื่น พี่อยากใช้โอกาสที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเปลี่ยนใจเขา นิ่มช่วยพี่ด้วยนะ.. น้องนิ่ม)

“ค่ะ หนูนิ่มจะช่วยพี่กูลเอง” เธอรับปากอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของเขา ต่อให้เธอต้องแต่งงานกับไอ้ฝรั่งนั่นแทนพี่สาวเธอก็จะแต่ง เพื่อให้คนที่เธอรักทั้งคู่ได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข

คฤหาสน์อัครวัตร

โชติกามองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกบานใหญ่ วันนี้เธอคือเจ้าสาวที่งดงามไร้ที่ติ แต่เธอกลับไม่มีความสุขแม้สักนิด หัวใจของเธอมีแต่ความเจ็บปวดและโศกตรม และเกลียดตัวเองที่เห็นแก่ตัว ถึงขั้นกล้าทำร้ายจิตใจผู้ชายที่รักเธอมากคนหนึ่งได้ลงคอ เธอหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตาที่เริ่มไหล แต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งไหล สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้มันไหลออกมาตามที่ใจต้องการ

สุริสาแอบมองลูกสาวร้องห่มร้องไห้ปานใจจะขาดกับรูปใบหนึ่ง ค่อย ๆ ปิดประตูอย่างเบามือที่สุด นางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาด้วยความรู้สึกปวดใจเหลือเกิน ที่ต้องมาเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเสียใจ เพราะเธอเป็นคนเลือกแบบนี้เอง นางยืนทำอารมณ์อยู่สักพัก แล้วจึงเดินลงไปที่ชั้นล่างเพื่อทำหน้าที่ของแม่คนหนึ่ง

ไบรอันยืนขึ้นเมื่อเห็นสตรีที่เดินลงมาจากชั้นบน จำได้ว่าท่านคือมารดาของเจ้าสาวคนสวยที่ไม่ใช่สเป็กของเขาสักนิด เขาเดินไปหาท่านแล้วโค้งศีรษะกล่าวคำทักทายอย่างอ่อนน้อม

สุริสาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่กำลังจะกลายมาเป็นลูกเขยคนโตตามกฎหมาย และนางก็เดาว่าเขาคงอยากจะเจอเจ้าสาว แต่เวลานี้มันยังไม่เหมาะ

“ฉันอยากให้คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม”

“ได้สิครับมาดาม”

นางมองไปทางสามี เห็นเขากำลังคุยกับครอบครัวของว่าที่ลูกเขยโดยไม่ได้สนใจมองมาทางนี้

“เราไปคุยกันที่ห้องหนังสือดีกว่า”

“ได้ครับ” ไบรอันตอบรับและเดินตามไปอย่างไม่ลังเล “เชิญพูดมาเลยครับมาดาม มีอะไรอยากพูดกับผมก็พูดได้เลยครับ” เมื่ออยู่ในห้องหนังสือด้วยกันตามลำพังเขาก็เปิดปากถามทันที

“คุณอย่าเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับลูกสาวฉันตอนนี้ได้ไหม” สุริสาไม่อ้อมค้อม

“..มาดามกลัวผมจะหลอกลูกสาวมาดามเหรอครับ ความจริงเราแต่งงานกันเพราะธุรกิจ เราก็กำลังหลอกกันอยู่แล้วนี่ครับ” เขาไม่กลัวว่าสุภาพสตรีท่านนี้จะโกรธเพราะที่พูดมันคือเรื่องจริง และเขามั่นใจว่าท่านเองก็รู้ดี

“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ฉันแค่อยากให้ลูกสาวฉันมีเวลาทบทวนบางอย่างเท่านั้น แต่ฉันพูดเรื่องนี้กับเธอไม่ได้เพราะเธอคงไม่ฟังฉัน ฉันจึงอยากให้คุณช่วย”

แค่ยื้อเวลาจดทะเบียนสมรสจะยื้อไปทำไม ถ้าให้ยื้อเวลาแต่งงานออกไปสิเขาจะรีบรับปากทันที

“ผมเสียใจที่ไม่สามารถช่วยมาดามได้ ขอตัวก่อนนะครับ” แล้วเดินออกไปจากห้อง เพราะกลัวจะเผลอใจอ่อนถ้าได้ยินประโยคต่อไปของท่าน

โชติลุกขึ้นยืนด้วยความดีใจ เมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้กลับมา เขากวักมือเรียกเธอให้เข้ามาหา

“เธอคือน้องสาวของลิก้า ชื่อโรส” เขาบอกกับครอบครัวของไบรอันแล้วหันไปบอกกับลูกสาว โดยใช้ชื่อที่พวกเธอใช้กับเพื่อนฝรั่งเพื่อให้ง่ายต่อการเรียก “รู้จักกันไว้สิลูก”

โชติรสฝืนใจส่งยิ้มให้กับแขกฝรั่งของบิดา ไหว้พวกเขาตามวัฒนธรรมไทยเมื่อถูกแนะนำให้รู้จัก แต่คนไหนล่ะที่จะมาเป็นพี่เขยของเธอ เธอมองไปที่ชายหนุ่มสองคนทางด้านขวามือ คนหนึ่งดูเด็กไปหน่อยสำหรับคำว่าเจ้าบ่าว ส่วนอีกคนหนึ่งมีเด็กหญิงตัวน้อยกำลังนั่งอยู่บนตัก และเธอก็ได้ยินเด็กน้อยเรียกเขาว่าแด๊ดดี้

“พี่นุ่มล่ะคะคุณพ่อ” บางทีเขาอาจจะอยู่กับพี่สาวของเธอก็ได้

“พี่นุ่มเขาบ่นว่าปวดหัว พ่อก็เลยให้ขึ้นไปพักก่อน เพราะเจ้าหน้าที่จากเขตจะมาช่วงบ่าย”

“ก็แค่แต่งงานเพื่อธุรกิจ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีฤกษ์มียามเลยนี่คะคุณพ่อ” ใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ้มพูดประชดบิดา

“จริง ๆ มันก็ไม่มีฤกษ์มียามหรอกลูก พี่สาวของลูกบอกว่านัดนายทะเบียนเอาไว้ตอนบ่ายสองโมง ตอนนี้ก็เลยเป็นเวลาว่างเพราะเสร็จพิธีไปหมดแล้ว พ่อก็เลยให้พี่เขาไปพัก เพราะอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา” โชติอธิบายให้ลูกสาวสุดที่รักเข้าใจ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกแย่ไปกว่านี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel