บท
ตั้งค่า

Ch.5

(จากัวร์)

ผมพาพลับพลึงมาที่บ้านหลังจากแต่งงานกันแล้ว แม่กับภรรยาตัวน้อยของผมได้ต่างพากันหนีไปเที่ยวกันแล้วตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับพ่อผมมีเรื่องอยากจะคุยกับท่านเกี่ยวกับเรื่องคู่แห่งโชคชะตาของผมไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยตรงไหนดีเพราะตั้งแต่เลิกงานมาเมื่อวานวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำพันธะสัญญาอะไรกันเลยแม้ว่าจะมีสัมพันธ์ทางร่างกายก็เถอะแต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดกับเขายังไงดีเพราะผมไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดยังไงจะคุยกับพ่อแบบไหนเพราะเราทั้งสองคนก็ต่างฝ่ายต่างพูดไม่เก่งกันทั้งคู่ก็เลยทำให้รู้สึกอึดอัดในการใช้คำพูดของพวกเราเท่านั้นเอง

"แกมีเรื่องอะไรก็บอกมาเถอะอย่ามัวแต่อ้ำอึ้งมีเรื่องอะไรก็รีบพูดมาชักช้ายืดยาดเดี๋ยวไม่ทันการ"

"พอดีผมกับน้องมีอะไรกันแล้ว"

"แต่งงานเข้าหอมีอะไรกันแล้วก็เป็นเรื่องปกติคือแกไม่ปกติตรงไหน"

"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณพ่อคือผมยังไม่ได้ทำแบบนั้น"

"แบบนั้นแหละแบบไหนบอกมาซิแกพูดอ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละจะรู้ไหมวันนี้พวกเขาก็ไม่อยู่ตอนนี้เป็นเวลาของพวกเราสองคนจะพูดมาเถอะว่าเกิดอะไรขึ้นฉันจะได้ช่วยแก้ปัญหาได้ไม่ใช่ว่าแกจะมาอมพะนำจะพูดกับฉันแบบนี้ฉันไม่รู้กับแกด้วยนะ"

"คือผมยังไม่ได้ทำ**พันธสัญญา กับ**คู่แห่งโชคชะตาของผมเลย"

"แล้วแกจะทำเมื่อไหร่ถ้าแกไม่รีบทำต่อจากนี้จะลำบากนะไม่ใช่ว่าเด็กคนนี้จะหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อะไรแล้วแกมั่นใจไหมว่าแกอยากจะอยู่กับเขา"

"พ่อครับถ้าผมไม่มั่นใจเนี่ยผมไม่ยอมแต่งงานกับเขาแน่นอนแต่ที่ผมแต่งงานเพราะว่าผมมั่นใจที่จะอยู่กับเขายังไงล่ะแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำพันธสัญญากับเขาดีไหมผมกลัวว่าถ้าทำไปแล้วเกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ชอบผมแล้วจะทำยังไงดี"

"ทำไมแกต้องคิดแทนคนอื่นด้วยวะทำไมแกถึงคิดว่าคนอื่นจะทิ้งแกไปแบบนั้น"

"น้องยังเด็กยังไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไงผมกลัวว่าที่เขาตัดสินใจอยู่กับผมอาจจะเป็นเพราะว่าน้องไม่มีใครแล้วก็ได้"

"แกโง่จริงหรือแกล้งโง่ถ้าเขาไม่ชอบแกจริงๆเขาไม่แต่งงานกับแกหรอกนะขนาดเขายังเป็นเด็กแกคิดว่าเขายังเป็นเด็กไม่รู้ความรักคืออะไรแกแก่ขนาดนี้แล้วแกรู้หรอว่าความรักคืออะไร"

"ผมเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีแต่ผมรักเขาจนหมดหัวใจนะครับแต่ผมแค่กลัวว่าการที่ผมทำแบบนี้อาจจะปิดอนาคตเขาก็ได้"

"แกโตแล้วนะตัดสินใจอะไรเองได้หมดแล้วแต่เรื่องแค่นี้แกกลับตัดสินใจไม่ได้แกนับว่าเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า"

"ผมขอโทษนะครับพ่อแต่ผมรู้สึกว่าผมยังไม่ดีพอสำหรับน้องเขา"

"เอากันหรือยัง"

"ได้แล้วครับ"

"ได้กันกี่ครั้งแล้ว"

"หลายครั้งแล้วครับ"

"แล้วแกคิดว่าเด็กคนนึงที่ยอมมีอะไรกับแกหลายต่อหลายครั้งโดยเต็มใจได้อยู่กับแกด้วยรอยยิ้มแบบนั้นแกคิดว่าเขาอยากจะไปอยู่กับคนอื่นหรอในเมื่อเขามีที่พึ่งพิงอย่างแกเขาก็อยากอยู่กับแกตลอดชีวิตแกก็ควรให้อะไรที่สามารถยืนยันได้ว่าเขาเลือกแกแล้วไม่ผิดคนแกควรที่จะทำพันธะสัญญากับเขาบอกกับเขาตรงๆว่าแกอยากทำพันธะสัญญาด้วยเพื่อหวังว่าสักวันแกสองคนจะได้รักกันจริงๆอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า"

"ผมอยากจะให้เวลาเขาได้คิดไตร่ตรองตัวเองหน่อย"

"เพื่ออะไรวะฉันเหมือนพ่อแกฉันยังหงุดหงิดแทนเลยเพื่ออะไรก่อนแกจะให้เวลาเขาทำไมในเมื่อเขาตัดสินใจอยู่กับแกแล้วมันก็เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจเลือกแล้วที่จะทำแบบนั้นแต่แกก็ยังจะวุ่นวายยังจะให้เวลาโอกาสอะไรเขาอีกความรักน่ะอย่ารอแค่โอกาสแกต้องรีบคว้าเอาไว้ไม่อย่างนั้นสิ่งที่แกต้องการมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่แกคาดหวังก็ได้เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไหม"

"หมายความว่ายังไงครับพ่อ"

"แกฟังฉันให้ดีนะสมัยที่ฉันจีบแม่แกเป็นเรื่องยากมากเลยที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยอยากจะพูดกับใครไปจีบผู้หญิงคนนึงแม่แก่ภายนอกดูแข็งแกร่งแต่ภายในอ่อนแอฉันไปตามจีบเขาอยู่ 2 เดือนฉันตัดสินใจขอเขาแต่งงานตอนที่เขาคิดอยู่นั้นฉันบอกกับเขาเพียงแค่ว่าฉันอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้ดีที่สุดในโลกแต่ฉันจะทำให้ตัวของแม่แกมีความสุขที่สุดในโลกแม่แกยิ้มให้ฉันก่อนที่จะตอบตกลงแต่งงานแล้วก็มีแกและน้องชายแกไงการตัดสินใจในครั้งนั้นเป็นสิ่งที่แกควรทำเหมือนกับฉันตัดสินใจดีๆเถอะก่อนที่ทุกอย่างที่แกรักมากๆจะหลุดมือไป"

"ผมยังไม่ได้ทำพันธสัญญาผมนอตกับเขาหลายครั้งเขาจะท้องไหมครับ"

"แกเข้าไปถึงมดลูกเขาหรือยังล่ะ"

"ก็เข้าหลายรอบอยู่นะครับปล่อยออกก็หลายรอบอยู่เหมือนกัน"

"นั่นแหละแกไปเยี่ยมเยียนเขาถึงข้างในมดลูกถึงขนาดนั้นยังจะวุ่นวายจะไม่ทำพันธะกูจะถีบมึงให้"

"งั้นผมควรทำใช่ไหมครับ"

"เออน่ะสิมึงควรทำครับไอ้ลูกชายก่อนที่หมาคาบไปแดกแล้วมึงจะไม่ได้แดกเลย"

"เอาแบบนั้นก็ได้ครับขอบคุณนะครับพ่อที่ให้คำปรึกษาผม"

"แล้วน้องชายแกเคยมาหาแกที่บ้านหรือเปล่าช่วงนี้มันไม่ค่อยมาหาพ่อที่บ้านเลยไม่รู้ว่าไปทะเลทะไหลที่ไหนตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนก็ติดผัวจนแทบจะลืมพ่อกับแม่แล้ว"

"พ่อก็รู้ว่าผัวมันดื้อด้านจะตายชอบหนีเที่ยวจนมันต้องตามอย่างกับเงาตามตัวผมเองก็ไม่เข้าใจคู่ของพวกมันนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมชอบหนีกันเที่ยวกันจังแต่ช่วงนี้เห็นเงียบไปไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"

"แต่ถึงยังไงน้องแกก็เลือกคนนี้แล้วฉันก็ห้ามไม่ได้เพื่อนแกก็มาเป็นลูกเขยฉันต่อให้มันจะเป็นแค่แฟนของลูกชายฉันก็เถอะ"

"อดทนหน่อยนะพ่อถ้าพวกมันพร้อมเมื่อไหร่พวกมันก็จะมาบอกพ่อเองแหละว่ามันจะแต่งงานกันไหม"

"ตามใจพวกมันเถอะน่ารำคาญจะตายต่อให้พวกมันไม่แต่งงานกันอยู่ด้วยกันก็ปล่อยพวกมันเถอะฉันเบื่อที่จะต้องพูดกับมันมากแล้ว"

ผมคุยอยู่กับพ่อสักพักใหญ่รอนานอยู่พอสมควรแม่และเมียแถมพ่วงมาด้วยน้องชายก็ต่างพากันกลับมาแล้วผมเองดีใจมากเลยครับที่เมียของตัวเองกลับมาสักทีอยากหอมแก้มอยากกอดอ้อนสักที แต่อยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่ก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้เพราะอายพวกท่าน เลยต้องเก็บอารมณ์เอาไว้เพราะของผมก็คงจะมองออกว่าผมในตอนนี้รู้สึกยังไงผมเองก็ไม่ได้ปิดบังครับผมอยากกอดน้องตลอดคืนนี้

"มึงเก็บอาการหน่อยไอ้ลูกชายถ้าจะแตกลูกเข้าไปทั้งตัวแล้วน่ะใจเย็นๆไอ้หนุ่ม"

"ผมฝากน้องลูกพลับเอาไว้ที่นี่ก่อนนะครับแล้วก็เสาร์อาทิตย์ค่อยพาน้องเข้ามาหาผมหรือไม่พวกผมก็จะมารับไปวันเสาร์วันอาทิตย์แต่วันนี้พวกผมต้องกลับก่อนนะครับ"

"อ้าวทำไมรีบกลับล่ะไม่อยู่ทานข้าวเย็นกันด้วยหรออาหารก็มีเยอะอยู่นะ"

"ไม่เป็นไรครับผมจะได้กลับบ้าน"

"แล้วทำไมถึงรีบกลับล่ะ"

"ที่รักปล่อยเถอะปล่อยให้พวกเขาไปอยู่ด้วยกันปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตเป็นคู่ใหม่ข้าวใหม่ปลามันเถอะช่วงนี้เป็นช่วงที่สามีและภรรยาที่พวกเขาอยากจะอยู่ด้วยกันปล่อยพวกเขาไปเถอะ"

"อ๋อแบบนี้นี่เองก็ไม่บอกตั้งแต่แรกตามใจเดี๋ยวแม่จะดูแลลูกพลับเองส่วนคนอื่นก็ดูแลตัวเองนะจ๊ะเราก็กลัวอย่างรุนแรงมากนะลูก"

"ครับงั้นผมไปก่อนนะครับไปกันเถอะพลับพลึง"

"อ๋อครับไว้ก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ"

"ไหว้พระเถอะรีบไปเถอะดูจากัวร์สิแทบเก็บอาการไม่อยู่แล้ว"

"งั้นผมไปก่อนนะครับ"

พลับพลึงยกมือไหว้บอกลาพ่อกับแม่ของผมแล้วก็โบกมือลาน้องชายของตัวเองวันนี้น้องชายของพลับพลึงอย่างน้องลูกพลับไม่ได้ดื้ออะไรเลยครับแถมยังยิ้มกลุ้มกลิ่มให้กับผมอีกต่างหากแน่นอนว่าเด็กตัวแค่นี้ต้องรู้แน่เลยว่าผมกับพี่ของเขาจะทำอะไรกันแต่ก็อย่างว่านั่นแหละผมก็อยากที่จะรีบร้อนกลับมาทำเรื่องอย่างที่ทุกคนรู้นั่นแหละครับเพราะผมแทบจะอดใจไม่ไหวกับเรื่องนี้แล้วหลังจากที่ต้องอดทนมาทั้งวันเพราะเวลาผมคิดถึงพลับพลึงทีไรก็ทำให้หัวใจของผมแทบจะพากันเต้นออกมานอกอกอยากจะกอดหอมร่างกายที่มีกลิ่นหอมออกมาทำเอาสติของผมแทบจะเตลิดไปไกลๆตีนหอมนี้ทำเอาผมแทบจะหยุดใจตัวเองไม่ได้เลยผมคิดถึงแต่สัมผัสที่จะเกิดขึ้นของคนตรงหน้าทำเอาผมรู้สึกเขินอายจนแทบจะพูดไม่ถูกเลยกับความรู้สึกนี้มันเป็นความรู้สึกที่ผมมีความต้องการมากถึงมากที่สุดอยากจะกัดเขาให้จมเขี้ยวของตัวเองเลยเพราะความรู้สึกแบบนี้ทำเอาผมติดใจตลอดยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าผมมันเป็นพวกโรคจิตขึ้นมาทันทีแบบนี้แล้วผมยังจะมีหน้ามาพูดคุยกับน้องได้อย่างเต็มปากเต็มใจหรือเปล่านะเพราะตัวของผมกลายเป็นเจ้าตัวโรคจิตไปแล้ว

"พี่จากัวร์พี่กอดพี่หอมผมมากเกินไปแล้วนะ"

"ทำไมเขาไม่ได้หรือไงหวงเนื้อหวงตัวหรอช่วงนี้"

"ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ"

"เหนื่อยมากมั้ย ทีหลังถ้าไม่ชอบเที่ยงก็ปฏิเสธแม่ภี่ได้เสมอนะพยายามอย่าฝืนใจตัวเองมากนักแม่พี่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเรื่องบางเรื่องถ้าไม่สะดวกใจและไม่อยากไปก็บอกทำตามตรงพี่ไม่อยากจะทำให้พลับพลึงรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้"

ผมถามคนตัวเล็กตรงหน้าเพราะกลัวว่าเขาจะรู้สึกอึดอัดกับการกระทำของแม่ของผมซึ่งแน่นอนว่าแม่ของผมเป็นตัวสร้างความอึดอัดเลยก็ว่าได้เพราะความใจดีของเธอทำให้กลายเป็นที่อึดอัดสำหรับคนอื่นมากแต่ผมก็เข้าใจแม่ของผมดีนะครับเพราะวันพันปีผมไม่เคยมีข่าวคราวเรื่องผู้หญิงคนไหนเลยมีเพียงตัวของพลับพลึงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ผมก็บอกว่าจะแต่งงานกับน้องเขาแม่ผมก็คงจะตื่นเต้นน่าดู

"ใครบอกล่ะครับว่าผมอึดอัดผมไม่ได้อึดอัดเลยสักนิดเดียวผมก็รู้สึกดีนะครับได้ไปเที่ยวกับคุณแม่คุณแม่เป็นคนใจดีมากผมไม่อยากให้ท่านรู้สึกเสียใจพี่เองก็อย่าคิดว่าผมจะรู้สึกอึดอัดสิครับถ้าผมรู้สึกอึดอัดผมจะบอกพี่เองนะ"

"เอาแบบนั้นก็ได้ถ้ารู้สึกอึดอัดเมื่อไหร่บอกพี่ได้เสมอไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไม่พอใจแค่กล้าพูดออกมาพี่ก็จะทำตามคำพูดของพระเพลิงอยู่แล้ว"

"ขอบคุณนะครับแต่ผมไม่เป็นอะไรจริงๆตอนนี้ผมก็มีความสุขดีจริงไหมล่ะครับตอนนี้ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรพี่จากัวร์ก็อย่าคิดมากเลยขนาดตัวของผมยังไม่คิดมากเลยนะกลับไปแล้วพี่จากัวร์อยากทานอะไรไหม"

"พี่ยังอิ่มจากการกินอาหารที่บ้านอยู่เลยยังไม่รู้ว่าจะกินอะไรเอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกันถ้าพี่อยากกินอะไรพี่ก็จะบอกแล้วไปเที่ยวเหนื่อยไหมอยากแวะไปนวดตัวหรือเปล่าพี่สามารถพาไปได้นะ"

"ก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยนะครับแต่ก็ไม่เป็นไรมากเท่าไหร่นะแม่ของพี่ช็อปปิ้งเก่งมากไม่ว่าของลดราคาหรือของถูกของแทงคุณแม่ก็ซื้อทั้งนั้นผมเองยังตกใจเลยว่าท่านซื้อของมากมายถึงขนาดนี้ได้ยังไงแต่ก็ไม่ห้ามท่านหรอกครับเป็นความสุขของท่านเองก็ใครจะไปห้ามผู้หญิงที่กำลังช้อปปิ้งได้ล่ะครับไม่งั้นโดนดุตายเลย"

"แล้วแม่ของพี่ซื้ออะไรให้บ้างล่ะมีอะไรมาฝากพี่บ้างหรือเปล่านะ"

ผมถามออกไปเขาอยากรู้ว่าคนตรงหน้านี้ซื้ออะไรให้กับผมเพราะผมเองไม่ได้บอกถึงรสนิยมความชอบเราได้เจอกันเราแต่งงานกันโดยที่ทั้งสองฝ่ายรีบเร่งจนเกินไปตอนนี้สิ่งที่ทำได้ที่ดีที่สุดก็คือเรียนรู้ซึ่งกันและกันแต่ผมก็ไม่ได้บอกเขาไปนะครับว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไรรอให้อีกฝ่ายสังเกตผมผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขารู้สึกยังไงกับผมแล้วรู้หรือเปล่าว่าผมชอบสิ่งไหนมากที่สุดดูท่าทางแล้วพลับพลึงเป็นกังวลมากเลยกับสิ่งที่ผมถามขึ้นมาแน่นอนแล้วครับใครบ้างจะไม่รู้สึกเครียดเพราะตัวเองไม่ได้รู้จักอะไรกับคนอย่างผมเลย

"ผมเองไม่รู้ว่าพี่จากัวร์ชอบอะไรผมก็เลยซื้ออุปกรณ์ถักโครเชต์มานะครับหวังว่าพี่จะได้ชอบผมคงจะถักเสื้อกันหนาวให้กับพี่ไม่งั้นก็ถักผ้าพันคอผมมีความรู้ด้านนี้นิดหน่อยอาจจะไม่สวยตรงตามร้านค้าที่เขาทำเป็นประจำแต่ผมก็มั่นใจว่าใส่แล้วไม่อายใคร"

"พี่มั่นใจในความสามารถของพลับพลึง ต่อให้มันไม่สวยจริงๆพี่ก็จะใส่ไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าพี่จะอายคนอื่นพี่ไม่อายใครอยู่แล้วไม่ต้องคิดมากทำอะไรมาพี่ก็รับหมดนั่นแหละ"

"พี่ก็ต้องคอยติเตือนผมบ้างนะครับ ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ผมทำอะไรตามใจตัวเองแบบนึ้"

"แล้วถ้าพี่ห้ามพลับพลึงจะฟังพี่งั้นหรอสิ่งเดียวที่คนเป็นสามีทำได้ก็คือคอยให้กำลังใจและคอยส่งเสริมให้ตัวของภรรยาตัวเองทำงานทำในสิ่งที่ตัวเองชอบไม่กล้าที่จะห้ามหรอกนะอยากทำอะไรก็ทำขอเพียงแค่บอกพี่พร้อมจะสนับสนุนไปในทุกๆที่ทุกๆอย่างตามที่ตัวของเราต้องการไม่ต้องเป็นห่วงหรอกว่าพี่จะขัดขวางมันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน"

"พี่ก็ตามใจอยู่เรื่อยเลยผมเองก็เกรงใจพี่ถ้าเกิดว่าผมทำอะไรผิดพลาดก็กลัวว่าพี่จะเสียหน้าเสียตาไปผมจะพยายามให้เต็มที่นะครับจะทำของขวัญชิ้นนี้ออกมาให้ดีๆไม่ให้พี่น้อยเนื้อต่ำใจแน่นอนแล้วก็จะทำให้พี่รู้สึกว่าการได้แต่งงานกับผมมันช่างมีความสุขแน่นอนครับ"

"ปากหวานแบบนี้บ่อยๆพี่เองก็ทนไม่ไหวนะอยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวแล้วเนี่ย"

"ผู้ชายเย็นชาก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดล่ะครับเดี๋ยวนี้นะไม่ค่อยเห็นผู้ชายเย็นชาเลยเคยเจอแต่หนุ่มนักรักตรงหน้า"

"ตอนก่อนหน้านี้พี่เย็นชาถึงขนาดนั้นเลยหรอพี่ว่าพี่เป็นปกตินะปกติพี่ก็ทำตัวแบบนี้อยู่แล้ว"

"พี่อ่ะเย็นชามากนานนิ่งคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลานานมากตอนแรกที่ผมเจอพี่ผมไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้กับพี่เลยนะครับผมกลัวว่าพูดไปแล้วจะทำให้พี่ไม่พอใจผมเองก็กลัวว่าคนคนนึงที่พี่ใช้เงินซื้อมาจะทำให้พี่ไม่พอใจแล้วก็ทิ้งผม"

"ที่เราแต่งงานกันได้ก็เพราะว่าพี่ชอบเธอจริงๆถ้าไม่ชอบก็คือไม่แต่งอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าถึงขนาดนั้น"

"ถ้าอย่างนั้นหรอผมต้องดีใจมากๆแน่ถ้าพี่เอ่ยคำนั้นออกมา"

"ใครจะไปพูดกันไม่มีใครพูดหรอกใกล้ถึงบ้านแล้วอย่ามัวพูดอีกเลย"

ผมพูดตัดบทไปนาของผมก็แดงขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ผมรู้สึกว่าคำพูดคำจาของเขาฟังแล้วดูน่ารักจนผมแทบจะทำให้หัวใจหยุดเต้นจนจะเก็บอาการไม่ไหวอยู่แล้วตอนนี้ ทำไมกันนะเด็กคนนี้ถึงได้น่ารักน่าชังถึงขนาดนี้ผมอยากจะกัดแก้มนุ่มๆของเขาเลยทั้งๆที่กลืนกินเข้ามาตั้งหลายรอบแล้วแต่ทุกครั้งก็เหมือนกับได้ของใหม่ทุกครั้งกลิ่นหอมที่ยั่วยวนออกมาทำเอาผมแทบคลั่งตายเพราะตัวของเขาสร้างความตื่นเต้นให้กับผมทุกๆครั้งไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดนี่แหละครับเขาเรียกว่าคลั่งรักแล้วเขาก็คงจะรู้แหละว่าผมกำลังเขินอยู่เขาถึงได้เบือนหน้านี้ผมไป แถมยังแอบยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ผมอีกพอเจอรอยยิ้มที่แสนไร้เดียงสากับลักยิ้มที่บุบข้างแก้มทำเอาผมอยากจะเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาเหมือนครั้งที่ผ่านมาแทบจะอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้วความกว้างรักของผมมันอันตรายแบบนี้นี่เองเรากับคนโรคจิตเลยนะครับนับวันยิ่งน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้วตัวของผม

*************************************************************************************************************************

**พันธสัญญา = การผูกพันธะหรือการจับคู่ทำได้แค่ alpha กับ omega เท่านั้นซึ่ง alpha จะทำการกัดคอของโอเมก้าตำแหน่งในการกัดนั้นไม่ได้กำหนดว่าต้องกัดตรงไหนแต่ส่วนใหญ่จะกัดที่บริเวณต่อมกลิ่นซึ่งอยู่แถวๆหลังคอหลังจากที่ omega ถูกกัดแล้วรอยกัดของอัลฟ่าจะคงอยู่ตลอดไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเสียชีวิตรอยกัดถึงจะค่อยๆหายไปและจางลงไปหลังจากการกัดผูกพันธะสัญญาแล้วฟีโรโมนของโอเมก้าที่ถูกกัดจะมีผลกับอัลฟ่าคนอื่นที่ไม่ใช่คู่พันธะสัญญาและจะเกิดการต่อต้านการผสมพันธุ์กับ alpha ตัวอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตัวเองโดยจะมีอาการเวียนหัวคลื่นไส้อย่างรุนแรงโอเมก้าส่วนใหญ่จึงต้องสวมปลอกคอกันกัดป้องกันการผูกพันธสัญญาโดยไม่ได้ตั้งใจต่างจากแอลฟาที่ถูกที่จะผูกพันธะสัญญากับโอเมก้ากี่คนก็ได้

**คู่แห่งโชคชะตา = คู่แห่งโชคชะตาจะสามารถเกิดได้ทุกเพศแต่ส่วนใหญ่จะชัดเจนที่อัลฟ่าและโอเมก้า อัลฟ่าโอเมก้าที่เป็นคู่แท้ของกันและกันจะรู้สึกถึงการได้ตั้งแต่แรกพบการเป็นคู่นั้นไม่สามารถกำหนดได้เพราะเป็นคู่ที่เกิดจากการเกี่ยวพันทางด้านจิตวิญญาณ(บางเวิร์สก็บอกว่าเกี่ยวกับทางเคมีในสมอง)ซึ่งไม่เกี่ยวกับฟีโรโมนหรือช่วงฤดูผสมพันธุ์เพียงแค่ชั่วพริบตาวินาทีที่สบตากันทั้งคู่จะรับรู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคือครึ่งหนึ่งของชีวิตของตนเองในกรณีนี้จะเกิดขึ้นได้ยากมากเรียกว่าเป็นเรื่องในตำนานเลยก็ว่าได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel