บท
ตั้งค่า

นวลนาง ตอนที่ 2

‘นาง’ เดินตามหลังพ่อเข้ามาในอาณาเขตเรือนไทยของกำนันอัฐ เสียงลูกสมุนของกำนันผิวปากหยอกเย้าจนหล่อนเดินติดแทบจะสิงเข้าไปในตัวพ่อ หล่อนเคยเห็นคนพวกนี้ที่ตลาดอยู่บ้าน แต่นั่นก็นานแล้ว ไม่ใช่ตอนที่หล่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแบบนี้ และสายตาของแต่ละคนที่มองมา หล่อนรู้ความหมาย

“อีนาง! มึงเดินห่างๆ กูหน่อย”

“พ่อ... ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ให้ฉันกลับไปช่วยแม่ทำนาเถอะนะ ฉันจะขยัน จะช่วยพ่อทุกอย่าง จะให้พ่อมีเงินมาใช้หนี้กำนันได้ นะพ่อนะ อย่าให้ฉันอยู่ที่นี่เลย”

“อีนาง... มึงฟังกูให้ดีนะ ต่อให้มึงไปทำงานที่กรุงเทพฯ จนตาย มึงก็หาเงินมาใช้หนี้พ่อกำนันได้ไม่พอหรอก”

แม้คำพูดจะฟังไม่หวานหูเพราะเป็นวิถีของคนยากแต่น้ำเสียงของพ่อกูดูเศร้า แววตาที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความทุกข์ท่วมท้น พ่อไม่ได้อยากพาหล่อนมาที่นี่หรอกหรือ ทั้งที่ก่อนจะออกจากบ้าน แม่ร้องไห้คร่ำครวญห้ามพ่อว่าอย่าเอาหล่อนมาที่นี่เลย แต่พ่อกลับไม่ฟัง ฉุดกระชากลากถูหล่อนมาจนได้

“เราเป็นหนี้กำนันเท่าไหร่กันพ่อ” หล่อนกัดฟันถาม รอคอยฟังคำตอบด้วยหัวใจระทึก

“ล้านกว่า”

คำตอบของพ่อเบาหวิว พอๆ กับวิญญาณของหล่อนที่กำลังล่องลอย ครอบครัวหล่อนจนแสนจน ปีนี้น้ำแล้งแทบไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปเป็นหนี้กำนันอัฐได้มากมายขนาดนั้น

“ทำไมล่ะพ่อ ทำไมเราเป็นหนี้มากขนาดนั้น”

“เงินค่ารักษาแม่มึงไง และกูก็กู้มาทำนาด้วย ห้าปีแล้วที่ไม่มีใช้หนี้พ่อกำนันเขา แล้วมึงว่ามันจะถึงล้านมั้ยล่ะ”

ปากคอนางคล้ายจะสั่นจนระงับไม่อยู่ นึกภาพแม่ตกเลือดตอนคลอดน้องคนสุดท้าย ตอนนั้นหล่อนเรียนอยู่ ม.3 พ่อให้หล่อนอยู่บ้านดูน้องๆ ส่วนพ่อนั้นพาแม่ไปโรงพยาบาล พ่อหายไปหลายวันจึงมาส่งข่าวว่าย้ายแม่ไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัด เพราะโรงพยาบาลที่อำเภอเครื่องมือไม่พร้อม แม่อยู่โรงพยาบาลนานนับเดือน จึงได้กลับบ้าน ครั้งนั้นหล่อนยังเด็ก ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าพ่อเอาเงินที่ไหนรักษาแม่ แค่แม่กลับมาบ้านก็พอแล้ว

ภาพแม่ที่ร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจตอนที่พ่อบอกว่าจะพาหล่อนมาทำงานที่บ้านกำนันยังติดตา ใบหน้าของแม่นองไปด้วยหยาดน้ำตา แม่คร่ำครวญร้องห้าม ทว่าพ่อไม่ฟังเลย ตอนนั้นหล่อนนึกเสียใจที่พ่อใจร้ายไม่ยอมให้หล่อนอยู่กับแม่กับน้อง แต่ตอนนี้หล่อนเข้าใจแล้ว

“ไป ไปทำหน้าที่ลูกของมึง กูเลี้ยงมึงมาจนโต ไม่ได้หวังให้มึงมาตอบแทนกูแบบนี้หรอกนะ แต่กูไม่มีทางเลือกอื่น”

“จ้ะพ่อ ฉันจะอยู่ที่นี่กับพ่อกำนัน พ่อไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะตั้งใจทำงาน จะไม่ให้เสียไปถึงพ่อกับแม่ได้ ไปเถอะจ้ะพ่อ ฉันพร้อมแล้ว พ่อ...”

พ่อที่จู่ๆ ก็โอบกอดหล่อนไว้ เป็นอ้อมกอดที่ร้างราไปตั้งแต่หล่อนเริ่มเป็นสาว ทว่าครั้งนี้พ่อกลับกอดหล่อนแน่น ร่างของพ่อสั่นเล็กน้อย หล่อนสัมผัสได้ว่ามันเป็นแรงสะอื้น พ่อ... ร้องไห้

“พ่อจ๋า... อย่าโทษตัวเองเลย จะโทษก็โทษโชคชะตาเถอะ ที่ทำให้ครอบครัวเราเป็นแบบนี้ พ่อไม่ต้องห่วงฉันนะ ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี จะทำตัวดีๆ ให้พ่อกำนันเขาเมตตา พ่ออยู่ทางบ้านดูแลแม่ดูแลน้องและดูแลตัวเองด้วยนะพ่อ ฉันไม่ได้อยู่ตำน้ำพริกกะปิให้พ่อกินแล้ว พ่อก็อย่าไปบ่นนังนิ่มที่มันทำไม่ถูกปากล่ะ”

หล่อนหมายถึง ‘นิ่ม’ น้องสาวคนรองที่ปีนี้อายุได้ 16 ปี มันแก่นทโมนเหมือนเด็กผู้ชายแตกต่างจากชื่อของมันนัก แต่หล่อนไม่อยู่แล้วต่อไปมันก็ต้องเป็นคนหุงหาข้าวปลาแทน

พ่อพยักหน้ากอดหล่อนแน่นอีก ก่อนจะรั้งหล่อนออก หันหน้าหนีปาดน้ำตา

นางยิ้มน้อยๆ ให้กำลังใจพ่อและให้กำลังใจตัวเอง แค่มาทำงานบ้านให้กำนันอัฐแลกกับดอกเบี้ยที่พ่อไม่มีมาชำระ เพราะนาแล้ง ข้าวที่พอได้ก็ต้องเก็บไว้กิน หล่อนมาอยู่ที่นี่ก็จะตั้งใจทำงาน ทางใดที่จะช่วยแบ่งเบาได้ หล่อนก็จะทำ

ทว่าเมื่อเข้าไปถึงเรือน ลูกน้องของกำนันกลับแจ้งว่ากำนันไม่อยู่ ไปธุระที่ตัวจังหวัด ให้พ่อทิ้งหล่อนไว้ที่นี่ได้เลย ประเดี๋ยวตอนเย็นกำนันกลับมาถึงเรือนถึงจะแจกแจงหน้าที่ให้หล่อนทำ

“นาง... ทำตัวดีๆ ให้พ่อกำนันเขาเมตตานะ”

“จ้ะพ่อ พ่อไม่ต้องห่วงจ้ะ”

หล่อนรับคำพ่อ และมองจนพ่อเดินออกจากเขตรั้วของเรือนกำนัน ก่อนจะหน้าร้อนวูบเมื่อเหล่าบรรดาลูกน้องของกำนันอัฐผิวปากล้อหล่อนอีกแล้ว

“พ่อแม่มึงเป็นนกกันหรือไง ผิวปากวี้ดวิ่วกันไม่เลิก”

เสียงแหลมที่ดังมาก่อนตัวทำให้นางหันมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นใคร หล่อนก็ไม่รีรอที่จะยกมือไหว้

“สวัสดีจ้ะน้ามุก”

“เออ! กองไว้ตรงนั้นแหละ แล้วรีบเดินขึ้นมาด้วย จะยืนล่อหมาอยู่ทำไม”

นางชะงักเล็กน้อย เพราะปกติแล้ว ‘น้ามุก’ แม่บ้านของกำนันอัฐก็ญาติดีกับหล่อนและแม่อยู่เสมอ เพราะน้ามุกเป็นเพื่อนรุ่นน้องของแม่ รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด มีผักมีปลาอะไรก็นำไปฝากกันอยู่บ่อยๆ แล้วทำไมวันนี้น้ามุกถึงได้ทำเหมือนโกรธหล่อน หรือว่าน้ามุกคิดว่าหล่อนเป็นภาระ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel