14. ไม่เหมือนเดิม
“ว้าว...ติดริมแม่น้ำด้วย น่าไปเที่ยวมาก ฉันอยากจะบินไปหาคุณเร็ว ๆ จัง แต่ก็ต้องรอพักร้อนโน่น”
“ก็อีกแค่ไม่กี่เดือนเอง เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว”
เดวิดบอกไป แต่ภายในใจเริ่มไม่อยากให้ อิซเบลล่า ตามเขามาเมืองไทยอย่างที่เคยบอกเอาไว้เสียแล้ว
“แต่ฉันอยากจะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ แต่เอาเถอะค่ะ ฉันจะอดทนรอวันที่จะได้พบคุณ และคิดว่าการรอคอยให้ถึงวันนั้นคงจะทำให้ฉันตื่นเต้นอย่างมาก”
อิซเบลล่า ยังคงเชื่อมั่นบางอย่างว่าเดวิด อาจจะวางแผนทำเซอร์ไพรส์ในวันที่เธอกับเขาได้พบกันที่เมืองไทย เธอถึงกับซ้อมท่าทางเอาไว้ในกรณีที่เดวิด คุกเข่าขอแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศที่เขาอาจจะจัดเตรียมเอาไว้ตามแผนก็ได้ อิซเบลล่าถึงขั้นที่โทรไปบอกมารดาด้วยซ้ำ และคุณแจ่มใสก็แนะนำให้ลูกสาว จัดเตรียมชุดสวยสำหรับการถูกขอแต่งงานที่เมืองไทยเอาไว้อีกต่างหาก
“เบลล่า แค่นี้ก่อนนะ พอดีผมมีนัดน่ะ นี่ก็ใกล้จะได้เวลาแล้ว เอาไว้ผมจะโทรหาคุณนะ”
เดวิด รีบบอกกับคนโทรมา เมื่อสายตามองเห็นภาพของหญิงสาวในชุดสีขาวสะอาดตา ผมปลิวสยายตามลม ที่กำลังขับรถกอล์ฟที่ใช้ภายในรีสอร์ทอยู่ แม้ภาพนั้นจะอยู่ไกลออกไปแต่เขาก็จำได้ดีว่าเป็นกัญญาวีร์ อย่างแน่นอน
“นัดกับใครคะ”
อิซเบลล่า ถามด้วยความอยากรู้
“ก็...เจ้าของรีสอร์ทที่นี่ไงครับ”
เดวิด ตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะโกหกอิซเบลล่าเลย แต่อย่างน้อยกัญญาวรีย์ ก็ถือว่าเป็นเจ้าของรีสอร์ทได้เหมือนกัน เพราะเธอเป็นน้องสาวของธีรนันท์
“อ๋อ...คุณเก่งใช่ไหมคะ เฮเลนเอาภาพที่คุณเก่งไปรับคุณที่สนามบิน ลงในไอจีด้วย ฉันเห็นแล้วล่ะ เขาก็หล่อดี ดูเหมาะสมกับเฮเลนเหมือนกัน”
“ใช่..”
แม้ปากจะพูดไป แต่สายตาเดวิด มองภาพหญิงสาวที่เขาคิดว่าเป็นกัญญาวีร์ที่อยู่ไกลออกไปด้วยความตื่นเต้น ความสนใจของเขาไปอยู่ที่เธอคนนั้น มากกว่าจะอยู่กับคนที่กำลังคุยข้ามประเทศในเวลานี้
“แล้ววันนี้คุณไปไหนมาบ้างคะ ไม่เห็นคุณอัฟรูปลงไอจีเลยนะ”
อิซเบลล่า ยังไม่ยอมที่จะจบบทสนทนา
“ผมไม่มีเวลาเลย กะว่าจะลงภาพทีเดียวตอนกลับอเมริกาดีกว่า...เบลล่า โทษทีนะ ผมต้องเตรียมตัวแล้ว เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะโทรหานะ บ๊ายบาย”
“บ๊ายบายค่ะ รักคุณนะที่รัก”
“บาย..”
เดวิด รีบตัดบทโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้พูดต่ออีก และเขาก็ไม่ได้บอกรักอิซเบลล่า เหมือนกับทุกครั้งที่จบการสนทนา แต่อิซเบลล่า ไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้เลย
เดวิด รีบลงไปรับกัญญาวีร์ ด้วยความกระตือรือร้น เมื่อเธอขับรถกอล์ฟ มาพร้อมด้วยอาหารมื้อค่ำ
“ไม่ต้องค่ะ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ฉันจัดการเองค่ะ”
กัญญาวีร์ บอกอย่างเกรงใจเมื่อเห็นเขามาช่วยยกอาหาร และถ้วยจานที่เธอเตรียมใส่ตระกร้าใบใหญ่มาด้วยตนเอง
“ผมไม่อยากเป็นแขกของคุณ แต่อยากเป็นเพื่อนมากกว่า ขอผมช่วยดีกว่า”
“ขอบคุณค่ะ”
ทั้งคู่จึงช่วยกันขนข้าวของขึ้นไปวางบนโต๊ะที่ระเบียงหน้าบ้านพัก โดยกัญญาวีร์ นำผ้าสีขาวมาปูโต๊ะ และจัดวางแก้ว จาน ช้อนจนครบ ก่อนจะแกะแผ่นพลาสติกที่ใช้ซีลห่อหุ้มอาหารออกมาวาง มีทั้งปลากะพงนึ่งซ้อส กุ้งอบกระเทียม สลัดผัก ผลไม้ รวมทั้งเครื่องดื่มที่เดวิดต้องการ คือ ไวน์ขาว
“ว้าว..เหมือนในภัตตาคารเลย คุณจัดเตรียมด้วยตัวเองหมดเลยหรือครับเนี่ย แล้วคุณฟ้า ไม่มาด้วยหรือครับ”
“คืนนี้มีแขกมาพักเต็มทุกหลัง และมีงานจัดเลี้ยงด้วยพนักงานก็เลยไม่พอ พี่เก่งก็เลยให้ยัยฟ้าไปช่วยทางโน้นค่ะ”
เดวิด ยิ้มด้วยความพอใจ ประหนึ่งว่าโชคชะตาช่างเป็นใจให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดสองต่อสองกับกัญญาวีร์ ในเวลานี้ เดวิดมีความสุขเปี่ยมล้นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกับกัญญาวีร์ เพียงแค่ไม่นานนี้เอง แต่ความรู้สึกเหมือนคนคุ้นเคยกันมานาน โดยเฉพาะตอนที่ได้พบกันครั้งแรก ที่ทำให้เขาหัวใจวูบไหวสะท้านเหมือนเจอกับรักแรกพบ เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้แต่อิซเบลล่าก็ตาม
ภาพวาด ได้นำพาให้เขามาพบกับกัญญาวีร์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ผู้หญิงในภาพวาดไม่ได้มีชีวิต จึงไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอยากจะใกล้ชิดเสน่หา เหมือนกับหญิงสาวที่มีชีวิตชีวาที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้
“ผมมีบางอย่างที่อยากจะให้คุณได้เห็น”
เดวิด เกริ่นกับกัญญาวีร์เอาไว้
“อะไรคะ”
“ภาพผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทำให้ผมต้องเดินทางมาเมืองไทย”
“ฉันขอดูได้ไหมคะ”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ เอาไว้ให้ผมมั่นใจก่อนดีกว่า”
“มั่นใจอะไรคะ”
กัญญาวีร์ เผลอมองสบตาเขาเข้าจนได้ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแววตาหวานซึ้งที่อีกฝ่ายพยายามที่จะสื่อให้เธอได้รับรู้
