ตอนที่ 7 สืบ
ตอนที่ 7 สืบ
เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงเอะอะ เสียงพูดคุยดังขึ้นที่ด้านนอกห้องตั้งแต่เช้ามืด นาราได้ยินเสียงเธอจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วเปิดประตูออกไปดู เห็นคนงานกำลังเตรียมตัวเหมือนจะออกไปทำงานแล้ว เธอหันเข้าห้องไปดูนาฬิกาที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง เวลานี้เพิ่งจะตีสามเอง...คนที่นี่ตื่นทำงานกันตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยเหรอ
"น้าๆ จะไปไหนกันเหรอจ๊ะ" นาราร้องถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้เพิ่งจะตีสามเอง นกยังไม่ตื่นเลย
"กรีดยางน่ะ เอ็งนอนต่อเถอะเพิ่งจะตีสามเอง" กรีดยาง...นาราพยักหน้าเข้าใจ
"ไปกันหมดเลยเหรอจ๊ะ" นาราเห็นมีพี่ผู้หญิงบางคนก็ทำท่าเตรียมตัว สวมเสื้อแขนยาวเหมือนจะออกไปด้วย ส่วนบางคนตื่นแล้วก็ลุกขึ้นหุงข้าวทำกับข้าว
ที่สวนแห่งนี้คนงานผู้หญิงบางส่วนจะมีหน้าที่หุงข้าวทำกับข้าว นายหัวของที่นี่จะมีงบกลางสำหรับทำอาหารเลี้ยง ช่วยกันทำ ช่วยกันกิน อยู่รวมกันเหมือนคนในครอบครัว อาหารที่ว่ามีเลี้ยงครบสามมื้อเลย
ส่วนตัวของนายหัวภูผาเอง มื้อเช้ากับมื้อเย็น เขาจะไปกินข้าวที่บ้านกับแม่ ส่วนมื้อกลางวัน เขาก็กินอยู่กับคนงานในสวนที่นี่แหละ
"ต้องไปช่วยกัน" ไม่ว่าหญิงหรือชายก็สามารถทำได้ทั้งนั้น
"แล้วหนูล่ะ ต้องไปมั้ย"
"นั่นไงนายหัวมาพอดี เอ็งลองถามนายหัวดูสิ ข้าก็เป็นลูกน้องเหมือนกันตอบไม่ได้หรอก"
"นายหัวคะ หนูต้องไปกรีดยางด้วยมั้ยคะ" เมื่อนายหัวภูผาเดินเข้ามาถึง นาราก็เอ่ยถามเขาทันที เพราะเธอเองก็เป็นลูกน้องเหมือนกับคนอื่นๆ ครั้นจะกลับเข้าไปนอนต่อคงไม่สมควร ตอนนี้คนอื่นๆก็ตื่นกันหมดแล้ว ทุกคนมีหน้าที่เป็นของตัวเองยกเว้นเธอ
"กรีดเป็นหรือเปล่าล่ะ" นาราส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ เธอไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน
"ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วมาช่วยกันทำกับข้าว สว่างแล้วค่อยไปทำความสะอาดห้องที่ให้อยู่"
"ค่ะ" นารายิ้มกว้าง เธอรีบวิ่งไปที่บ้านของนายหัวเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็รีบเดินกลับมาช่วยคนงานผู้หญิงทำกับข้าว ทุกคนพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง นาราไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด
"นารามา ช่วยพี่หั่นผักเร็ว"
"จ่ะพี่เจี๊ยบ" นาราช่วยหยิบจับงานครัวด้วยท่าทางคล่องแคล่วขยันขันแข็ง รอยยิ้มและใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของเธอทำให้พี่ๆทุกคนรู้สึกเอ็นดู
"มาอยู่ด้วยกันแล้ว มีปัญหาหรือขาดเหลืออะไรก็มาบอกพวกพี่ได้ไม่ต้องเกรงใจ"
"จ่ะ พี่รัด หนูต้องขอบคุณพี่ๆทุกคนมากนะจ๊ะที่ไม่รังเกียจหนู"
"มีอะไรต้องรังเกียจ คิดมากไปแล้ว"
"ตอบแทนพวกพี่ๆทุกคน หนูให้ทุกคนใช้หนูทำงานได้ทุกอย่าง ขอแค่สั่งมาหนูเต็มใจ" นารายังใหม่เธอยังไม่รู้งานและยังหยิบจับงานแต่ละอย่างไม่ค่อยถูก คงต้องอาศัยพวกพี่ๆที่อยู่มาก่อนคอยช่วยบอกให้
"เรานี่น่ารักนะเนี่ย หั่นผักเร็ว"
"ได้เลยจ่ะ" นารารับคำด้วยรอยยิ้ม ทุกคนยิ้มให้นารา รู้สึกเห็นใจกับปัญหาชีวิตของเธอ นาราเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทุกคนรู้สึกถูกใจ นอกจากน้องจะน่าสงสารแล้วยังน่ารักอีกด้วย
ทางด้านนายหัวและคนงานที่เข้าสวนไปกรีดยาง
"ไอ้เอกไอ้โอ มึงสองคนมานี่สิ เฮียขอคุยธุระแป็บนึง" ภูผาเรียกลูกน้องทั้งสองคนมาสอบถามเรื่องของนาราที่ให้ช่วยสังเกต
"ครับ/ครับ"
"เรื่องยัยนารานั่น ได้ทดสอบถามเธอแล้วหรือยัง"
"ถามแล้วครับ จากที่ผมได้พูดคุยกับเธอแล้ว ถ้าเป็นเรื่องจริงเธอน่าสงสารมากเลยนะครับ"
"เห็นผู้หญิงสวยๆหน่อยไม่ได้เลยนะ ใจอ่อนหรือเปล่า"
"เปล่านะครับ ผมไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้นสักหน่อย"
"ดี...ถ้าอย่างนั้นช่วงสายๆมึงสองคนไปสืบมา เธอเล่าทุกอย่างให้ฟังแล้วใช่มั้ย คงหาตำแหน่งบ้านช่องได้ไม่ยาก"
"เล่าแล้วครับ เรื่องนี้เดี๋ยวพวกผมสองคนจัดการให้"
"ป่ะ ทำงานต่อเถอะ ช่วงนี้น้ำยางกำลังออกดี"
"ครับ/ครับ" เอกกับโอ ทั้งสองคนพี่น้องขานรับแล้วแยกย้ายกันไปทำงานต่อ
ช่วงใกล้รุ่งท้องฟ้าเริ่มสาง คนงานที่เข้าสวนไปกรีดยางก็เริ่มทยอยพากันเดินกลับออกมา บ้างก็อาบน้ำล้างหน้าล้างตา บ้างก็ขอกลับเข้าห้องไปเอนหลัง บางคนก็ชงกาแฟดื่มและพูดคุยกัน ส่วนคนไหนที่หิว อาหารสุกแล้วสามารถตักกินเองได้เลย
ส่วนนาราหลังจากที่เธอช่วยทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินกลับไปที่บ้านของนายหัว เตรียมตัวทำความสะอาดห้องเพื่อที่จะย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ ซึ่งดูจากสภาพบ้านของนายหัวแล้ว นาราคงต้องมีน้ำใจทำความสะอาดบ้านทั้งหลังให้นายหัวด้วย
ช่วงสายๆในขณะที่นารากำลังเก็บกวาดพี่เจี๊ยบก็เดินมาตามนาราไปกินข้าว เมื่อเห็นว่านารายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย
"นารา นารา อยู่หรือเปล่า" เสียงตะโกนร้องเรียกดังอยู่ด้านนอก เนื่องจากไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปในบ้านหลังนี้ถ้าเจ้าของไม่เอ่ยอนุญาต
"อยู่จ่ะ พี่เจี๊ยบมีอะไรจะใช้นาราหรือเปล่าจ๊ะ" นาราเดินออกมาหน้าบ้านตามเสียงเรียก
"พี่ไม่กล้าใช้เราหรอก พี่จะเข้าสวนไปใส่ปุ๋ยต้นไม้แล้ว นารายังไม่ได้กินข้าว ไปหากินเอานะเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป"
"จ่ะ"
"ไปเลยนะ ใครหิวก็ไปตักกินเอา ไม่ต้องรอให้เรียก ถ้าอยากกินร้อนๆก็อุ่นเอาได้เลย"
"จ่ะ"
"พี่ไปแล้วนะ"
"ขอบคุณพี่เจี๊ยบค่ะ" พี่เจี๊ยบพยักหน้าแล้วเดินออกไปทำงานของตัวเอง นารายังใหม่สำหรับที่นี่ บางอย่างเธอก็ยังไม่ค่อยกล้า ตอนนี้ก็สายมากแล้วท้องเริ่มร้อง นาราจึงไปหาข้าวกินก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ดูจากสภาพบ้านของนายหัวผู้หล่อเหลา วันนี้นาราน่าจะต้องทำงานบ้านทั้งวัน
ช่วงบ่ายๆ เอกกับโอกลับมาจากในเมืองทั้งสองคนรีบเดินเข้ามาหานายหัว รายงานสิ่งที่ให้ไปสืบมาทันที
"นายหัวครับ พวกผมสองคนกลับมาแล้วครับ"
"ตกลงเรื่องจริงหรือแค่ละครรีบๆพูดมา" ภูผาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่นาราเล่ามาทั้งหมด เป็นเรื่องจริงหรือแค่แต่งขึ้น เพราะดูจากเรื่องที่เธอเล่าแล้วยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่แม่รำเพยชอบดูเสียอีก
"เรื่องจริงครับ นาราน่าสงสารมาก" ภูผามองไปที่ใบหน้าของลูกน้องทั้งสองคนนิ่งๆ เหมือนคนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
"พวกมึงสองคนแน่ใจนะ"
"แน่ใจครับ ตอนที่พวกผมไป คนเต็มบ้านเลยครับ ของในบ้านถูกทยอยขนขึ้นรถเหมือนคนโดนยึดทรัพย์ นี่ครับผมถ่ายคลิปมาให้นายหัวดูด้วย" เอกคนพี่ยื่นมือถือที่เขาเป็นคนถ่ายคลิปให้นายหัวภูผาดู มีทั้งภาพและเสียง เรื่องจริงแน่นอนไม่ได้แต่งขึ้น
"นี่พวกมึงหยุดขนของในบ้านกูเดี๋ยวนี้นะ อย่าเอาของของกูไป!" เสียงร้องบอกของผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ท่าทางไม่พอใจมาก พูดกับคนที่กำลังขนของในบ้านของเธอขึ้นรถ
"ถ้ามึงไม่อยากให้พวกกูเอาของพวกนี้ไปก็เอาเงินมาคืนกูให้หมด ถ้าไม่มีก็ไปตามอีนาราลูกสาวมึงกลับมา" ประโยคนี้คนพูดท่าทางขึงขังน่ากลัว เอ่ยชื่อนาราด้วย
"มันหนีไปแล้ว แล้วพวกมึงจะให้กูไปตามหาที่ไหน" หญิงวัยกลางคนคนนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกัน
"เสียเวลา! ขนของพวกนี้ขึ้นรถให้หมด!" ดูคลิปจบก็ส่งมือถือคืนให้ลูกน้องไป พร้อมกับสูดหายใจลึกๆเอาอากาศเข้าปอด...เธอน่าสงสารและน่าเห็นใจจริงๆ
