บท
ตั้งค่า

4

4

ตอนนี้อนิรุทธ์หิวมากจริงๆ เพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่แม่โจรเสียงหวานเอาอาหารออกไปก็ไม่กลับเข้ามาอีกเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้ว่าเธออยู่ข้างนอกเพราะได้ยินเสียงคนเดิน

“นี่ คุณโจรเสียงหวาน ผมหิวหาอะไรมาให้กินหน่อยสิ”

เสียงตะโกนดังทำให้คนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านนอกหันมามองประตูพร้อมทั้งถอนหายใจ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอผู้ชายเรื่องมากและหลงตัวเองขนาดนี้ หญิงสาวลุกจากเปลที่ผูกไว้และเดินเข้าไปหาด้วยความเซ็ง

“จะเอาอะไร”

อนิรุทธ์มองคนที่เพิ่งพูดจบอย่างคาดไม่ถึงเมื่อได้เห็นหน้าของนางโจรชัดๆ เธอสวยกว่าที่คิดไว้มาก ดวงตาคู่หวานเมื่อประกอบกับจมูกที่ได้รูปและริมฝีปากบางที่สวยงามแล้วทำให้ดูน่ามองเป็นที่สุด ผู้หญิงคนนี้สวยมาก มากเกินกว่าที่จะมาเป็นโจรเรียกค่าไถ่

“ถามว่าจะเอาอะไร” นภัสถามอีกครั้ง เริ่มอึดอัดเมื่อถูกจ้องมองแบบไม่ละสายตา

“คุณสวยมากนะ” เขาพูดออกมาด้วยท่าทางกรุ้มกริ่มตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ ส่วนคนฟังเม้มปากอย่างขัดใจ ก่อนที่จะเบิกตากว้างยกมือลูบไปที่หน้าเบาๆ รู้แล้วว่าตัวเองลืมอำพรางใบหน้า

“จะเอาอะไร” นภัสทำเสียงแข็งถาม เห็นหน้าก็เห็นไป ยังไงก็คงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว

“ผมหิว” อนิรุทธ์เอ่ยคำแรก

“ฉันไม่มีอาหารที่คุณต้องการ มีแต่ที่เคยเอามาให้เมื่อกี้” เธอพูดเสียงเรียบ

“คุณกำลังบังคับผมทางอ้อมนะ คุณโจรเสียงหวานคนสวย” เขาเริ่มหยอก

“คุณควรจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่ามาล้อเลียน ฉันไม่ชอบ” นภัสเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น

“ไม่ได้ล้อเลียน ก็คุณเสียงหวานมาก หวานเหมือนเสียงนกที่ร้องเพลงอยู่บนกลีบดอกไม้บางๆ นี่ถ้าไม่รู้ว่าคุณเป็นโจรผมคงคิดว่าคุณเป็นนางฟ้า”

นภัสไม่ได้สนใจ เดินออกไปข้างนอกก่อนที่จะกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับอาหารแบบเดิม

“ถ้าไม่กินก็ไม่มีอะไรให้กินแล้ว ตอนนี้คุณมีทางเลือกสองทางคือกลั้นใจกินมันไปซะกับทนหิวไปทั้งคืน” หญิงสาววางไว้แล้วหันหลังจะเดินกลับ

“แล้วผมจะกินอย่างไร”

“อะไรอีก คุณนี่มันเรื่องมากจริงๆ นะ” นภัสชักเริ่มโมโหในความมากเรื่องของเขา

“ผมไม่ได้เรื่องมาก แต่คุณมัดมือไพล่หลังแบบนี้ผมจะกินได้อย่างไร หรือจะป้อน” มันก็จริงอย่างที่เขาว่า มือถูกมัดไพล่หลังแบบนั้นคงไม่สามารถรับประทานอาหารได้

“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่หนี”

“คุณจะบ้าเหรอ ถึงผมจะหล่อมากแต่ก็ไม่ได้โง่นะ ตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ดึกมากแบบนี้ผมจะออกไปได้อย่างไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน” อนิรุทธ์พูดออกมาตามตรง

เขาไม่ผลีผลามหนีไปตอนนี้เป็นแน่ ใครจะโง่หนีตอนกลางคืน แถมยังไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนอีก ถ้าเป็นตอนกลางวันก็ว่าไปอย่าง

นภัสถอนหายใจเดินตรงไปที่ด้านหลังของเชลยพร้อมทั้งแก้มัดออกช้าๆ ไม่รีบร้อนเพราะอย่างไรเสียมันก็มีกุญแจมืออีกด่าน อนิรุทธ์เริ่มใจคอไม่ค่อยดีเมื่อหญิงสาวผู้เป็นโจรแปลกหน้าเข้ามาใกล้ชิด

ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเธอดึงดูดเขาเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกลิ่นดอกไม้จากตัวของเธอทำให้เขาไม่มีสมาธิ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นหอมนี้ทำให้ผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ทำไมหายใจแรง” นภัสถามเพราะกังวลว่าเขาจะป่วยหรือเปล่า

“คุณตัวหอมจัง” อนิรุทธ์พูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับต้องเม้มปาก

อยากจะบ้าตาย ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจกว่าที่คิดเอาไว้มาก แต่ถึงจะไม่พอใจเธอก็ยังคงแก้มัดต่อไป ไขกุญแจมือพร้อมทั้งรีบเอาข้างที่ไม่ได้ใช้งานล็อกเข้ากับข้อมือของตัวเองทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะตั้งตัวทัน

“กินข้าวได้แล้ว” หญิงสาวพูดพร้อมทั้งทรุดตัวลงนั่งข้างๆ

“ล็อกผมไว้แบบนี้เลยเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าผมไม่หนี คนอย่างผมพูดคำไหนคำนั้น”

“เพื่อความแน่ใจ อย่าพูดมากรีบๆ กินซะ” นภัสชี้ไปที่อาหารตรงหน้า อนิรุทธ์ถอนหายใจออกมาอย่างปลง เขาคงต้องอดทนกินมันไปก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้

“คุณทนกินอาหารบ้านๆ พวกนี้ไปสักสองสามวันนะ พอเขามาไถ่ตัวคุณ เอาค่าไถ่มาให้ คุณก็จะเป็นอิสระ”

“ถามหน่อย ทำไมถึงมาเป็นโจร ท่าทางของคุณดูเหมือนคนมีการศึกษา คำพูดคำจาก็ดูดีไม่น่าจะต้องมาประกอบอาชีพแบบนี้” อนิรุทธ์เริ่มสัมภาษณ์ มือก็ตักข้าวเข้าปากด้วยความหิว

“บางครั้งคนเราก็มีความจำเป็น” หญิงสาวตอบสั้นๆ

“ความจำเป็นของคุณคงเป็นเรื่องใหญ่มากสินะ ถึงได้ทำเรื่องเสี่ยงๆ แบบนี้”

“เรื่องนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้ เป็นตัวประกันก็ควรจะทำตัวให้เหมือนพวกตัวประกันหน่อยไม่ใช่ชวนคุย เราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่เราอยู่ในฐานะเชลยกับผู้คุมขัง” นภัสตัดบทการสนทนา

“เราเจอกันมาหลายชั่วโมงแล้ว ดังนั้นระหว่างเราสองคนก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า คุณน่าจะดีใจที่ได้คุยกับผู้ชายที่หล่อและรวยมากอย่างผม” เขาพูดต่อ

“หลงตัวเองที่สุด ไม่อายหรือไงเวลาที่ชมตัวเองว่าหล่อ” คนฟังแสนจะหมั่นไส้

“ไม่ ทำไมต้องอาย ผมพูดเรื่องจริง หรือคุณจะเถียง”

นภัสเม้มปากอยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ก็อนิรุทธ์หน้าตาดีมากจริงๆ

“เอาที่สบายใจเลยก็แล้วกัน ว่าแต่กินเสร็จแล้วใช่ไหม”

“ใช่ และตอนนี้ผมต้องการอาบน้ำ” เขาบอกความต้องการของตัวเองอีกครั้ง

“พูดตรงๆ นะคุณสวยมาก น่าเสียดายความสวย เอาแบบนี้ไหม เลิกเป็นโจรแล้วมาเป็นผู้หญิงของผมแทน ถ้าคุณทำตัวน่ารัก คุณจะได้มากกว่าค่าไถ่ที่ต้องการอีก”

“คุณเห็นฉันเป็นอะไร ถึงได้พูดแบบนี้” หญิงสาวสวนกลับอย่างโมโห

“อย่าหงุดหงิดสิ ผมพูดความจริง ผมให้โอกาสคุณ รู้ไหมว่ามีผู้หญิงหลายคนอยากจะนอนร่วมเตียงกับผมทั้งนั้น แต่ผมเลือกคุณ คุณจะเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ผมจะนอนด้วย ปกติผมชอบพวกลูกครึ่งหรือไม่ก็ฝรั่งจ๋าไปเลย แต่ครั้งนี้ผมถูกใจคุณ ให้ตายสิ คุณเป็นคนแรกนะที่ทำให้ผมถูกใจตั้งแต่พบกัน” เขาพูดหน้าตาเฉยและก็หวังจะได้คำตอบที่ถูกใจด้วย

“หยุดเลย อย่ามาพูดมาก ฉันเป็นโจรไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณเคยเจอ ดังนั้นไม่ต้องมาเสนอข้อต่อรองบ้าๆ ฉันพอใจแค่เรียกค่าไถ่ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงของผู้ชายหลงตัวเองแบบคุณ” หญิงสาวสวนกลับด้วยความโมโห ก็คำพูดของเขามันเป็นการดูถูกกันชัดๆ

“คุณจะไปไหน” อนิรุทธ์ร้องถามเมื่อนภัสขยับตัว เจ้าหล่อนคงลืมว่ามีกุญแจมือติดกับเขาอยู่ด้วย

“พาคุณไปอาบน้ำไง” หญิงสาวหันมาบอกแล้วเอ่ยต่อว่า

“แล้วก่อนไปอาบน้ำช่วยฉันยกของพวกนี้ออกไปข้างนอกห้องด้วย”

“คุณนี่มันเป็นโจรที่น่าเกลียดมาก ใช้ตัวประกันได้อย่างไร ยิ่งเป็นตัวประกันกิตติมศักดิ์อย่างผมยิ่งไม่ควรใช้” เขาพูดออกมาอย่างอวดดี

“อย่าพูดมาก ทำตามที่ฉันบอก ไม่อย่างนั้นฉันจะให้ลูกน้องมาซ้อมคุณ” เธอขู่

“คุณเป็นโจรเรียกค่าไถ่ที่โหดมากนะ หน้าตาก็สวยทำไมโหดจัง หัดทำตัวดีๆ หวานๆ กับผม เหมือนเสียงกับหน้าที่หวานๆ ของคุณบ้างได้ไหม” อนิรุทธ์รู้สึกขัดใจ

ที่ผ่านมาผู้หญิงมากมายต่างชื่นชมและพยายามที่จะเข้าหา แต่ผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาที่ไม่น่าสนใจเสียอย่างนั้น

“คุณก็ช่วยทำตัวเหมือนพวกที่ถูกจับตัวหน่อยสิ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเจ้านายหรือเด็กเอาแต่ใจ ฉันจะบอกให้นะ ความอดทนของฉันมีจำกัด สิ่งที่ทำตอนนี้กับคุณถือว่าทำได้ดีมากแล้ว อย่ามาเรียกร้องอะไรเพราะคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น” เธอสวนกลับทันทีอย่างคนที่เริ่มจะโมโห

“ให้ตายสิ ตอนคุณโมโหยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องดื้อๆ คำพูดนั้นทำเอานภัสไปไม่ถูกเหมือนกัน

“คุณนี่มัน ฉันไม่รู้จะต่อว่าคุณว่าอย่างไรดี หัดทำตัวให้เหมือนคนที่ถูกจับมาหน่อยได้ไหม” นภัสบ่น

“คุณควรจะพูดจากับฉันด้วยความเกรงใจบ้าง เพราะอย่างไรฉันก็เป็นคนที่จับตัวคุณมา หัดทำตามบทบาทที่ฉันหยิบยื่นให้บ้าง”

อนิรุทธ์มองห้องน้ำอย่างตกใจ ห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกล้อมด้วยผ้าใบผืนใหญ่ แถมหลังคาไม่มี เขาหันมามองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาไม่พอใจ นภัสส่งผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าให้ด้วยท่าทางสงบนิ่ง แล้วมองไปยังห้องน้ำเป็นเชิงสั่งให้เขาเข้าไปด้านในเสียที

“ผมอาบน้ำในที่แบบนี้ไม่ได้ มันโล่งเกินไป หลังคาก็ไม่มี” เขาพูดตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

“อย่ามาเรื่องมากนักเลย ถ้าคุณอยากจะอาบน้ำก็ต้องอาบที่นี่ คิดในทางที่ดีสิ อาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติแถมได้ดูดาว เห็นไหมมีแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น” นภัสพยายามโน้มน้าว

“คุณก็พูดได้สิ คุณไม่ได้มาเป็นคนอาบนี่ ผมไม่เคยอาบน้ำในสถานที่แบบนี้”

“ก็อาบซะสิจะได้เคย คุณมัวแต่พูดว่าไม่เคย แล้วไม่อาบจะเคยไหม คุณไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับฉันได้ อีกอย่างตอนนี้มันดึกมากแล้ว ทางที่ดีคุณควรเข้าไปอาบน้ำซะ”

“คุณไม่ให้ทางเลือกผมต่างหาก” เขาเถียงทันที

“แล้วผมจะอาบน้ำได้อย่างไร ในเมื่อมือถูกล็อกไว้กับคุณแบบนี้ หรือว่าจะอาบน้ำให้ผม” เขาย้อนถามบ้าง น้ำเสียงที่กวนประสาทนั้นทำให้นภัสอยากจะตบหน้าหล่อๆ สักทีสองที

“เลิกคิดไปได้เลยและฉันจะไม่ปล่อยให้คุณเป็นอิสระ ฉันคิดไว้แล้ว คุณเข้าไปด้านในฉันจะรออยู่ด้านนอก และยังคล้องกุญแจมือติดกับคุณไว้อย่างนี้แหละ”

“รู้ไหมว่าผมขาดทุน มืออยู่ใกล้กันขนาดนี้เวลาที่ผมถูตัวมือคุณก็ต้องโดนตัวผมไปด้วยน่ะสิ นอกจากจะถูกจับมาเรียกค่าไถ่แล้วยังต้องโดนคุณลวนลามอีก”

“โอ๊ย ฉันจะบ้าตาย อย่าพูดมาก เวลาคุณอาบน้ำก็ใช้อีกมือถูตัวสิจะมาใช้มือที่โดนล็อกไว้ทำไม แล้วฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่อยากจะลวนลามผู้ชาย ทางที่ดีคุณควรหุบปากแล้วเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว” คราวนี้นภัสเสียงเข้ม

“นี่ขนาดดุเสียงยังหวาน” ชายหนุ่มล้อเลียนท่าทางโมโหของเธออย่างอารมณ์ดี

“คุณนี่มัน ฉันไม่อยากพูดกับคุณแล้ว ไปเลย เข้าไปอาบน้ำตามใจคุณ และอย่าคิดหนีเป็นอันขาด บอกไว้ก่อนว่าคนของฉันอยู่รอบๆ พื้นที่ เห็นเงาดำๆ พวกนั้นไหม คนของฉันทั้งนั้น” หญิงสาวชี้ไปที่ตามพุ่มไม้ที่มีเงาดำอยู่หลายจุด

อนิรุทธ์สบตาคู่หวานของคนที่จับตัวเขามานิ่ง ดูเหมือนว่ามันจะจริงอย่างที่เธอพูด ตอนนี้ควรทำตามไปก่อน ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยท่าทางไม่เต็มใจนัก ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้วในตอนนี้

ทันทีที่เขาเข้าไปด้านในนภัสก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมทั้งมองไปที่เงาดำนั้นอย่างพอใจ เธอให้คนสวนของป้าทำหุ่นไม้มาห้าหกตัวและจับพวกหุ่นนั่นแต่งตัวแล้วเอามาวางไว้ตามจุดต่างๆ เมื่อมองจากไกลๆ จะคิดว่าเป็นคน

มันใช้ได้ผลในตอนนี้ แต่ช่วงกลางวันเธอยังไม่แน่ใจมากนัก

“นี่คุณ ผมใส่เสื้อไม่ได้” เสียงของเขาดังออกมาจากด้านใน

“ทำไม” นภัสถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“คุณไม่น่าถามเลย ก็มือผมติดอยู่กับคุณ มันจะใส่ได้อย่างไรล่ะ คิดก่อนสิคุณ”

“ใส่ไม่ได้ก็ไม่ต้องใส่” หญิงสาวเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินแบบนั้น

“จะบ้าเหรอ เกิดผมโชว์แผงอกของตัวเองให้คุณเห็นแล้วคุณเกิดอารมณ์เปลี่ยวขึ้นมาผมก็แย่น่ะสิ ผมไม่อยากเสียตัวให้กับคุณในที่แบบนี้ ถึงบรรยากาศจะน่ามากก็ตาม”

“ไอ้โรคจิต คิดเรื่องบ้าๆ ฉันไม่มีทางปล้ำคุณ คุณมันก็แค่ตัวประกันที่ฉันจับมาเพื่อเรียกค่าไถ่ ไม่ได้จับมาเพื่อหวังจะทำสามีรู้ไว้ด้วย” หญิงสาวโต้ตอบอย่างไม่ยอมแพ้

“อะไรกัน เสียของแย่” เขายังคงยั่วโมโหต่อ ริมฝีปากได้รูปยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ

ดูเหมือนว่านางโจรหน้าหวานจะโมโหง่ายเสียด้วย ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งอยากยั่วมากขึ้น อยากตอแยอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน

“หุบปากได้แล้ว” หญิงสาวออกคำสั่งพร้อมๆ กับที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนกัน อนิรุทธ์ใช้ผ้าเช็ดตัวพันรอบตัวช่วงบนไว้หลวมๆ ในขณะที่ช่วงล่างสวมกางเกงเลขายาวเอาไว้เรียบร้อย

“ผมพูดจริงๆ นะ ถ้าคุณทำแบบนั้นมันจะเสียของ คุณน่าจะลวนลามผมบ้าง ใช้ร่างกายของผมให้คุ้มก่อนที่จะปล่อยตัวไป รู้ไหมว่าคุณโชคดีมากที่ผมเปิดโอกาสให้ขนาดนี้ ผู้หญิงหลายคนอยากลวนลามผมมากแต่ไม่มีโอกาส ยิ่งตอนนี้ผมเป็นตัวประกันของคุณด้วยแล้วยิ่งถือว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุด ผมไม่อยากจะคิดเลยนะว่ามันจะเป็นข่าวดังแค่ไหนที่ผมถูกโจรเรียกค่าไถ่ข่มขืน”

นภัสเม้มปากแน่น อยากจะกรี๊ดให้ดังไปสามโลก ตั้งแต่เกิดมาจนโตอายุยี่สิบเจ็ดปี ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้ยินเรื่องบ้าๆ อย่างที่เขาพูด

“คุณนี่พูดจาน่าเกลียดที่สุด การข่มขืนมันไม่ใช่เรื่องดี ไม่ว่าจะผู้ชายข่มขืนผู้หญิงหรือผู้หญิงข่มขืนผู้ชายมันไม่ดีทั้งนั้น สภาพจิตใจของผู้ที่ถูกกระทำมันแย่มาก คุณก็เห็นข่าวที่ออกมา ผู้ถูกกระทำตายทั้งเป็นยังจะเอาเรื่องแบบนี้มาพูดเล่นอีกเหรอ” เธอพูดออกมาอย่างอดไม่ได้

“เป็นโจรที่มีคุณธรรมสูงว่างั้น แต่ผมสัญญานะว่า ถ้าคุณเกิดอยากปล้ำผมขึ้นมา มันจะไม่เรียกว่าการข่มขืนเพราะผมจะสมยอม” เขายังคงพูดหน้าตายต่อ ในขณะที่คนฟังอยากจะตบปากเสียทีเพราะหมั่นไส้

“ฉันไม่พิศวาสคุณ ต่อให้คุณสมยอมก็ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอน”

“ถ้าผมยั่วคุณล่ะ”

“พอแล้ว พูดแต่เรื่องอย่างว่าทั้งนั้น ถามจริงๆ เถอะ คุณคิดเป็นอยู่เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวหรือไง เอะอะจะให้ฉันปล้ำ บ้าหรือเปล่า” หญิงสาวพูดออกมาอย่างขัดใจ คำพูดนั้นทำให้คนฟังยิ้มออกมาเล็กน้อย แม่โจรสาวเสียงหวานหน้าสวยคนนี้โดนใจเขาเสียแล้ว

“มันก็เรื่องธรรมดาของชีวิตนี่คุณ”

“เรื่องธรรมดาของชีวิตคุณไม่ใช่เรื่องธรรมดาของชีวิตฉัน คนประสาท คิดแต่เรื่องลามก รีบเดิน ดึกมากแล้วฉันง่วง และย้ำอีกครั้งอย่าคิดหนี ไม่อย่างนั้นคุณโดนดีแน่” เธอจำต้องเล่นบทนางโจรโหดอีกครั้ง

ทันทีที่มาถึงที่พักนภัสก็จัดการมัดขาของชายหนุ่มไว้กับเสากลางบ้าน ก่อนที่จะไขกุญแจมือทำให้เป็นอิสระจากกัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว ก็จัดการมัดเขาไว้กับเสาด้วยเชือกที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วอย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มใช้โอกาสตอนที่เธอเผลอยื่นจมูกโด่งของตัวเองหอมแก้มนวลเพราะอดใจไม่ไหวจริงๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกลิ่นดอกไม้กับใบหน้าที่สวยหวานราวกับนางฟ้านั้น ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ นภัสเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่จะตบไปที่แก้มของผู้ชายที่ถูกมัดทันทีที่ตั้งสติได้

“เจ็บนะ” อนิรุทธ์พูดเสียงดัง ตอนนี้ความเจ็บเริ่มเปลี่ยนเป็นความชา และมันชาไปทั้งหน้าด้วยอีกต่างหาก

“ไอ้บ้า ไอ้คนฉวยโอกาส”

“โอกาสมีให้ฉวยก็ต้องฉวยสิจริงไหม” เขาตอบหน้าตายทั้งๆ ที่เจ็บที่แก้มอยู่

“ขอให้งานนี้จบลงเร็วๆ เถอะ ฉันไม่รู้ว่าจะทนคุณได้นานแค่ไหน บางทีถ้าฉันทนไม่ไหว ฉันอาจจะจับคุณกดน้ำไปเลยก็ได้” เธอขู่ให้เขากลัวแล้วไม่กล้ามายุ่มย่ามอีก

“ผมชักไม่อยากให้แม่จ๋าเอาเงินมาไถ่ตัวเสียแล้ว แค่แก้มยังหอมขนาดนี้ ถ้าได้จูบทั้งตัวจะฟินขนาดไหน แก้ม หน้าผาก ปาก คาง ขมับ หู ไหล่ หน้าท้อง หน้าอกแล้วก็... ” เขามองใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงจัดอย่างพอใจ

“หยุด พอ” นภัสมองหน้าเขาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะถ้าขืนอยู่ต่อไปคงได้ลงไม้ลงมือกับผู้ชายคนนี้อย่างแน่นอน

อนิรุทธ์ถอนหายใจออกมาช้าๆ ไม่น่าเชื่อว่ากลิ่นหอมจากตัวของแม่โจรสาวเสียงหวานจะทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมีเสน่ห์ แรงดึงดูดของเธอที่มีต่อเขามันมากจนไม่น่าเชื่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel