9 ด้ายแดงร้อยใจ
ด้ายแดงร้อยใจ
“เหล่ยต้าเกอ คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไงเสี่ยวหลุนอยู่ตรงนี้”
“เฮอะ บ้าแน่นอน ถ้ายังได้ยินเสียงเธอหัวเราะเยาะเรื่องของอั๊ว”
ยามนั้น เซียวตี้หลุนทำตัวสั่นน้อยๆ ไม่ได้กลัว หรือตกใจ เขาแค่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น อีกอย่างเด็กชายรู้ว่า บิดามาที่นี่เพราะจะพาหญิงสาวกลับเรือนหลักด้วยกัน และนั่นคือสิ่งที่เขาร้องขอมาหลายวัน
“น้องแค่อยากให้พี่ซีซี ไปนอนเล่นด้วย ปะ ป๊า อย่าโกรธเลยนะ เกี่ยวก้อยกันเถอะ ครอบครัวเดียวกัน ต้องรักกันไว้ฮะ”
ชายหนุ่มลดความฉุนเฉียวลง ก่อนกวักมือเรียกพี่เลี้ยงของลูกชายให้มารับตัวเขาไป
“เสี่ยวหลุนเด็กดี กลับบ้านไปกินขนมกับคุณย่าใหญ่ก่อนนะครับ เดี๋ยวป่าป๊า จะพามามี้ เอ๊ย พี่ซีซี ไปหาช่วงบ่าย ตอนนี้ต้องทำธุระของผู้ใหญ่ให้เสร็จเสียก่อน”
“ได้ฮะ แต่ห้ามตีก้นเพียะๆ แต่นอนบนเตียงเล่นกันได้ น้องอนุญาตแล้ว จะไม่งองแง และร้องไห้สักแอะ ให้ป่าป๊าปวดหัว”
ความไร้เดียงสาทำให้ทั้งชายหนุ่ม และหญิงสาวเงียบไปเกือบหนึ่งอึดใจใหญ่ๆ ก่อนที่เขาจะพูดเจื้อยแจ้วต่อ
“ถ้าไม่ชอบ จะนอนกันสามคนก็ได้ น้องหลุนจะเป็นลูกให้ป่าป๊า และพี่ซีซี เอง... เป็นลูกหมูอู๊ดๆ ๆ กินนมมามี้ และให้ป่าป๊าเล่านิทานฮะ”
เซียวหวังเหล่ยกลัวว่าลูกชายจะเข้าใจอะไรผิดไปมากว่านั้นเลยอุ้มอีกฝ่ายขึ้น แล้วส่งให้พี่เลี้ยงพากลับเรือนหลักโดยด่วน
เมื่อได้อยู่กับหญิงสาวเพียงสองต่อสอง เซียวหวังเหล่ยจึงปรับเสียงเข้มจัด สีหน้าสีตาขังขัง จนเธอนึกว่าเขารับบทผู้พิพากษาหน้าดำ ที่กำลังนั่งบัลลังก์ในศาลไคฟง!
“อั๊วมีเรื่องบอก ตอนเช้าทำงานที่นี่กับต้าเจี่ยหมิง บ่ายขึ้นไปรับใช้ฉันกับเสี่ยวหลุน ถ้าวันไหน มีงานพิเศษให้ทำ ก็นอนที่ห้องพักบนเรือนใหญ่ อั๊วจัดไว้แล้ว สะดวกสบาย ไม่คับแคบ”
ตอนแรกเธอไม่ได้หวั่นวิตกสิ่งใดหรอก ทว่าพอเขาพูดย้ำถึงงานพิเศษ โจวหยางซีที่ทำเป็นเก่งมาตลอดเลยอดปอดแหกไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เธอคือนางร้าย ย่อมต้องตีบทให้แตก มิเช่นนั้นจะปีนขึ้นเตียงเขาสำเร็จหรือ
“งานพิเศษที่ว่า คือการที่เถ้าแก่เซียว จะให้ฉันไปนอนบนเตียงเป็นเพื่อนอะไรทำนองนั้นใช่ไหมคะ”
โจวหยางซีมิวายเล่นลิ้นกับเขา
ฝ่ายชายหนุ่มแยกเขี้ยวอีกหน และกัดฟันพูดเสียงดังกรอดๆ ว่า
“เอ่อ ใช่ เอ๊ย ไม่ใช่ ลูกชายอั๊วต่างหาก งอแง และประท้วงอดข้าว เขาบอกถ้าไม่เห็นเธอ บอกจะโป้งอั๊วไปร้อยชาติ ฉะนั้นตอนนี้เธอต้องไปกับอั๊ว ที่สำคัญทำพิธีถอนคุณไสย หรือมนตร์ดำบ้าๆ นั่นออกเสีย ไม่อย่างนั้น อั๊วจะจับเข้าคุก”
ดวงตากลมโตมองชายหนุ่ม ทั้งงงที่เขาโยนข้อกล่าวหาให้เธอ “ซีซี นี่นะคะ จะทำเรื่องพรรคนั้นกับเสี่ยวหลุน โถ... ไม่เคยคิดเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นเถ้าแก่เซียว ก็ไม่แน่ ทั้งคุณไสย ทั้งเสน่ห์ ผู้ชายอย่างคุณเห็นแล้วก็อยากจับให้อยู่หมัด ชาตินี้ซีซีจะได้สบายไปตลอดชาติ”
เซียวหวังเหล่ยหรี่ตามองเธออย่างจับพิรุธ แล้วถามเสียงห้าวจัด
“เธอยอมรับว่าทำเรื่องระยำ แบบนั้นกับฉันแล้วหรือ”
โจวหยางซีไม่ได้ตอบ เธอขบขันที่ชายหนุ่มจริงจังเกินไป คนสวยอย่างเธอเหตุใดต้องพึ่งเรื่องน่ากลัว และสิ่งลี้ลับด้วย
“ซีซี...เธอไม่รู้ตัวว่า กำลังก่อเรื่องร้ายแรง”
เป็นตอนนั้นที่ สายลมหอบใหญ่พัดผ่านชายหนุ่ม ทำให้เขาย้อนคิดถึงการที่พาเธอเข้ามาอยู่ที่ตระกูลเซียว จริงอยู่ตอนแรกอยากได้เธอเป็นภรรยา นั่นเพราะตั้งใตทำตามคำสั่งเสียบิดา สิบกว่าปีก่อน บ้านหลังเก่าที่เขาเคยอาศัยไฟไหม้ และได้บิดาของโจวหยางซีช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง พาเซียวหวังเหล่ยหนีออกจากกองไฟ บุญคุณครั้งนั้นทำให้เถ้าแก่เซียว บิดาชายหนุ่มออกปากว่า ภายภาคหน้าอยากให้เขากับครอบครัวโจวเกี่ยวดองกัน
เรื่องนี้แม้จะพูดคุยเพียงปากเปล่า คนรู้เห็นไม่มาก ทว่าเซียวหวังเหล่ยจำได้เสมอ ก่อนบิดาเขาเสียยังย้ำว่า บุญคุณต้องตอบแทน ทว่าเมื่อเติบโตเขาไปเรียนต่างประเทศพักใหญ่ กลับมาจึงรู้ข่าวว่า ลูกสาวผู้มีพระคุณคือโจวหยางซี เป็นผู้หญิงที่สวย เหมือนแม่ที่เป็นถึงเทพธิดาถนนสายสี่ ผิดแต่รักสบาย ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็คอยติดตามเรื่องของเธออยู่เสมอ หากไม่ได้คิดแต่งเป็นภรรยา เนื่องจากเขาในวัยหนุ่มรักสนุก มีครอบครัวเร็ว มีภรรยามาแล้วถึงสองคน ซึ่งพวกเธอล้วนเสียชีวิต ฝ่ายเขาจึงดูแลลูกแบบพ่อหม้ายตลอดมา
จวนจนเมื่อต้นปี บิดาได้เข้าฝัน แล้วสาปแช่งเขาอย่างหนัก เพื่อให้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับโจวเหวินผู้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้
“รีบแต่งงานกับลูกสาวอาเหวินเสีย ไม่อย่างนั้น แกจะพบความฉิบหาย ค้าขายไม่เจริญ จำไว้ เป็นตายร้ายดีอย่างไร ก็ต้องดูแลลูกสาวของอาเหวิน เรื่องนี้ต้องทำให้สำเร็จโดยเร็ว ไม่อย่างนั้น ภูตผี ปีศาจจะตามรังควาน และคนดวงกินเมียอย่างแก มีแต่ลูกสาวของอาเหวินเท่านั้นที่จะลบล้างกรรมเก่าในเรื่องนี้ได้”
โจวหยางซีรู้สึกได้ว่าบรรยากาศไม่ปกติ ชายหนุ่มไม่ใช่แค่วางสีหน้าขรึม หากเขามีเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากด้วย ทั้งที่อากาศค่อนข้างเย็น
“เถ้าแก่เซียว อยากคุยอะไรกับฉันกันแน่”
ชายหนุ่มได้สติกลับคืน และคำรามใส่เธอ พร้อมบอกว่า
“เหล่ยต้าเกอ... ขืนเรียกอั๊วว่าเถ้าแก่เซียวเหมือนคนอื่น เธอได้เจ็บตัวแน่”
เมื่อเขาทำเสียงจริงจัง พร้อมแสดงท่าทางร้ายๆ ใส่ หญิงสาวเริ่มรู้สึกได้ว่า มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น
และเพียงประเดี๋ยวเดี๋ยว เฮยหมิงก็ก้าวมาสมทบ สีหน้าสีตาอีกฝ่ายเครียดกว่าชายหนุ่มหลายเท่า
“เมื่อกี้ คนของคุณนายเล็กมาที่นี่เจ้าค่ะ บอกจะค้นเรือนนอนคนงานหญิงทั้งหมด โชคดีที่เถ้าแก่เซียวมาถึงเสียก่อน พวกนั้นเลยไม่กล้าทำอะไร แต่...”
เฮยหมิงเอ่ยจบเพียงเท่านั้น เธอถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วมองมาทางโจวหยางซี
“อาซี... ฉันเห็นเธอตั้งใจทำงาน ขี้เกียจบ้างในบางวัน ถึงอย่างนั้น ก็ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะกล้าทำเรื่องอัปมงคลแบบนี้”
อีกฝ่ายกล่าวจบก็ส่งของที่ห่อในผ้าเช็ดหน้าให้แก่เซียวหวังเหล่ย
ชายหนุ่มรับไว้ และแกะดูอย่างลวกๆ เขาไม่ได้พูดสิ่งใด ส่วนโจวหยางซีตาโต ทั้งตกใจจัด ด้วยเห็นทั้งหมดว่ามีสิ่งใดบ้าง
เธอจึงก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วเซเสียหลัก สุดท้ายก็ล้มลงไปกองบนพื้น
สิ่งที่เห็นนั้นเป็นรูปถ่ายของชายหนุ่มกับรูปถ่ายของเธอ และมีด้ายแดงพันเอาไว้ให้อยู่คู่กัน !!
และยังมีนาฬิกาผู้ชายกับปิ่นไม้ที่เธอจำได้ว่าเป็นของตนเอง...บัดซบ เรื่องเหล่านี้โจวหยางซีไม่ได้ทำ มีคนใส่ร้ายเธอ
