บทที่6
บทที่6
แม้ร่างกายจะพิการขาสองข้างจะใช้การไม่ได้ แต่อย่างไรอวิ๋นชิงหลันก็มิใช่คนไร้ความสามารถ เพียงแค่วันแรกที่เดินทางมาถึง นางก็ขอให้ซงหลิวเร่งพาออกไปตรวจตรากิจการการค้า แน่นอนว่าการมาที่ไม่ได้แจ้งเอาไว้ล่วงหน้าทำให้เห็นสัจธรรม
ร้านไหนที่ดีก็ดีไป ส่วนบางร้านนั้นพอเข้าไปดูร้านก่อนวันปกติที่เคยมาก็เจอเรื่องราวไม่น่าพิสมัยมากมาย ไม่ว่าจะการปรับแต่งบัญชี แน่นอนว่าคนเหล่านี้ไม่กล้าถึงขั้นขโมยเงินที่ขายของได้หรืออะไรแบบนั้น แต่ก็มีการเอาเงินไปใช้ก่อนแล้วค่อยมาแต่งบัญชีก่อนวันที่จะมีคนเข้าตรวจ
และด้วยการจัดการเรื่องเหล่านั้นจึงทำให้ชิงหลันค่อนข้างเหนื่อยมาก
“กลับไปพักเถอะขอรับ” ซงหลิวที่คอยสังเกตอาการตลอดเอ่ยบอก
“ตรงนี้อีกนิดก็เสร็จแล้ว” นางยังคงขอต่อเวลาจนกระทั่งชายหนุ่มเดินตรงมาอุ้มนางขึ้นและปรายตามองไปยังสาวใช้ให้หยิบทุกสิ่งที่นางกำลังทำตามมา
ชิงหลันรู้สึกไม่พอใจมือขวาของพี่ชายคนนี้ขึ้นเรื่อย ๆ ชาติก่อนไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่วุ่นวายถึงเพียงนี้ อาจจะเพราะความผิดที่ดูแลนางและท่านพี่ไม่ได้ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป
“ถึงจะอยากทำงานมากเพียงใด คุณหนูก็เป็นเพียงหญิงสาวอายุก็เพียงแค่สิบสี่หนาวเท่านั้น หากโหมงานหนักเช่นนี้เรื่อย ๆ จะได้ไข้เอานะขอรับ”
คำของซงหลิว ชิงหลันก็เข้าใจ แต่นางอยากปรับเปลี่ยนแก้ไขเรื่องราวหลาย ๆ อย่างที่ไม่ดีให้จบ ๆ ไป อยากให้ทุกอย่างไร้ซึ่งปัญหา แม้จะรู้ว่าพอจัดการเรื่องหนึ่งก็ต้องเกิดอีกเรื่องขึ้นมาแทนก็ตาม แต่ก็ยังอยากทำอยู่ดี หากเมื่อถึงเวลานางต้องด่วนจากไปอีก พี่ชายของนางจะได้ไม่ต้องลำบากเช่นที่นางเคยเห็นมา
นางอยากระวังเอาไว้ก่อน ไม่อยากถูกหลอกใช้เหมือนชาติที่แล้วอีกแล้วไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม อย่างคนเหล่านี้เห็นท่านพี่ของนางใจดีเพราะไม่ชอบกิจการด้านค้าขายที่ต้องทำก็เพราะเป็นของที่ท่านแม่เคยริเริ่มเอาไว้ จะทิ้งไปเสียก็รู้สึกว่าไม่ควร อีกอย่างก็เป็นการได้รับรายได้ที่ดี ไม่นึกว่ามันก็สร้างความปวดหัวให้กับพี่ชายของนางด้วยเช่นเดียวกัน
ชิงหลันสังเกตดูว่าการที่นางไม่ได้ช่วยเหวินอี้และไม่ผูกสัมพันธ์ทำให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป แต่เส้นทางก็ยังคงมาบรรจบลง ตอนนี้นางกังวลกับเรื่องนี้เสียมากกว่าเรื่องของกิจการเสียอีก
มิใช่เพราะความรักที่มีต่อชายหนุ่มที่เคยเป็นคู่หมั้นของนาง แต่เพราะความแค้นที่มี และที่มากกว่านั้นก็คือความรักต่อครอบครัวของนาง เพราะนางรู้ดีว่าเหวินอี้นั้นเข้าหาตระกูลอวิ๋นของนางเพราะอะไร
ไม่มีทางหรอกที่เขาจะพึงใจคนพิการเช่นนาง เป็นทรัพย์สมบัติและอำนาจมากกว่า คนคนนี้มักใหญ่ใฝ่สูง หากเขาต้องการอะไรก็คงจะไม่เลือกวิธีที่จะคว้ามาและเรื่องราวทั้งหมดเขาคงวางแผนมานานแล้ว มิเช่นนั้นคงไม่ส่งคนคนนั้นมาอยู่ข้างกายนางหรอก
เหมือนอย่าคราก่อนที่เหวินอี้หลอกพี่ชายของนางไม่ว่าจะเป็นตอนหมั้นหมาย ที่พูดจาเสียดิบดี
‘ไม่ว่านางจะเดินไม่ได้หรือขยับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้าเนี่ยแหละที่จะเป็นขาให้นางเอง’
นั่นคือคำที่เหวินอี้เคยเอ่ยกับพี่ชายและบิดาของนาง คำพูดนั้นกินใจผู้ฟัง จนบิดาและพี่ชายของชิงหลันยอมตกปากรับคำหมั้นหมายโดยไม่ได้เขียนหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร
ตอนนี้ดูสิคนที่เป็นขาของนางจริง ๆ ก็คือซงหลิวต่างหาก พอคิดได้เช่นนั้นชิงหลันก็ชะงักไปชั่วครู่ และคิดว่านางควรจะพักผ่อนดีกว่า คิดฟุ้งซ่านเช่นนี้ ไหน ๆ ซงหลิวก็คงไม่ยอมให้นางทำอะไรต่อแล้ว
“ข้างนอกมีใครอยู่ไหม ข้าอยากอาบน้ำแล้ว” สาวใช้หลายคนช่วยกันจัดการ เข็นรถไม้ไปยังห้องอาบน้ำ ม่านบาง ๆ ป้องกันสายตาจากคนนอก นางค่อย ๆ ไปนั่งที่ขอบบ่อ ที่สร้างมาเพื่อชิงหลันโดยเฉพาะ ก่อนเหล่าสาวใช้จะค่อย ๆ พยุงตัวของนางลงไป
แม้ว่าจะพิการแต่ชิงหลันก็ถือได้ว่าเป็นสาวงามที่หาใครเปรียบได้ยาก ทั้งยังผิวพรรณดี น่าเสียดายยิ่งนัก
แต่ชิงหลันไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา นางนวดเท้าในน้ำร้อนที่แช่กายในทุก ๆ วัน และได้แต่หวังว่ามันจะมีอะไรที่ดีขึ้นได้บ้าง
ไม่ต้องเดินเหินได้เช่นคนอื่น แค่มีความรู้สึกสักนิดก็คงดี
วันแต่ละวันในเมืองของชิงหลันเป็นเช่นนั้น วนเวียนตรวจตราบัญชี ส่วนมากก็เป็นเรื่องของกิจการที่มีอยู่หลายร้านและแต่ละร้านก็แยกกันอยู่เนื่องจากถนนการค้าของเมืองนี้จะแยกกิจการแต่ละอย่างออกจากกัน จึงไม่แปลกที่วัน ๆ ชิงหลันต้องหัวหมุนอยู่กับการเดินทางและตรวจสอบบัญชีทำบัญชีอยู่เช่นนั้นทั้งวัน
และถึงแม้จะพิการแต่นั่นก็ไม่ได้มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย เพราะยามนี้นางมีซงหลิวที่ไม่ได้ทำแค่อารักขา แต่ยังช่วยทุกอย่าง ที่จริงนางแอบเห็นว่าซงหลิวหูไวตาไวไม่ใช่ย่อย จึงไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายได้เป็นมือขวาของท่านพี่ น่าเสียดายชาติที่แล้วต้องมาถูกลดตำแหน่งเพราะบาดเจ็บ ครานี้คงไม่เหมือนคราวที่แล้วอีกแล้ว
“อีกสามสี่วันท่านพี่ของคุณหนูบอกว่าจะเข้ามาหาในเมืองก่อนที่จะเดินทางไปคุยธุระ” ซงหลิวบอกกับหญิงสาวระหว่างที่อุ้มนางจากรถม้ามาถึงเรือน ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน หากเป็นเช่นนี้สาวใช้ก็คงทำเพียงแค่ช่วยกันประคองลงมานั่งที่รถเข็นไม้ จะมีก็แต่พี่ชายกับท่านพ่อเท่านั้นที่ทำเหมือนอย่างที่ซงหลิวทำอยู่ตอนนี้
“ที่จริงไม่ต้องอุ้มข้ามาถึงนี่ก็ได้นะเจ้าคงหนัก”
ซงหลิวไม่อยากอธิบาย แต่ก็กลัวหญิงสาวจะเข้าใจผิด
“ไม่ได้หนักเลยสักนิด คุณหนูตัวเบามาก และอุ้มมาเช่นนี้ก็เร็วกว่าคุณหนูจะได้พักได้เยอะขึ้นอีกหน่อย”
