บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ออกบ้านกับป้า

ซินซินกลับไปเล่าทุกอย่างให้ท่านย่าฟัง นางยังเข้าข้างซู่หรานว่าตอนนี้พี่สาวเปลี่ยนไปมาก ในใจท่านย่าแม้ไม่อยากเชื่อใจหลานสาวตัวร้าย แต่ทุกสิ่งที่ซู่หรานทำมาตลอดทั้งเดือนก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

ถ้าเป็นปกติ อย่าว่าแต่เดือนหนึ่งเลย ต่อให้แค่สามวันซู่หรานก็ทนไม่ได้ อย่างไรก็ต้องหาทางหลบออกไปข้างนอก แต่ตอนนี้คล้ายว่าซู่หรานจะชอบใช้ชีวิตอยู่แต่หลังเรือนไปแล้ว หรือเพราะนางเจอเรื่องร้ายในคุก จึงทำให้นางเปลี่ยนไปมากเพียงนี้

ถึงสงสัย แต่ท่านย่าก็ทำอะไรไม่ได้ หากจะสั่งขังซู่หรานอีก นางคงกลายเป็นคนแก่ใจร้ายจริงๆ เพราะตอนนี้ก็ขังซู่หรานจนผ่านมาเป็นเดือนแล้ว หลานสาวยอมเป็นเด็กดีอยู่แต่ในจวนหลังเรือนส่วนตัวตลอด ท่านย่าจำใจสั่งยกเลิกการกักบริเวณซู่หราน แต่ยังห้ามซู่หรานมาทำความเคารพตอนเช้าเพราะไม่อยากมองหน้า

เพียงแต่ท่านย่าประเมินผิด ถึงท่านย่าจะยกเลิกการกักบริเวณแล้ว ไม่ห้ามการออกนอกจวนด้วย แต่ซู่หรานยังคงนอนในเรือนส่วนตัวทั้งวัน บางครั้งถึงขั้นไม่ตื่นมากินอาหาร รอจนมืดค่ำจึงสั่งสาวใช้ให้ต้มน้ำแกงผัก เพราะในครัวไม่มีอาหารใดเหลือแล้วนอกผักสด ซู่หรานก็กินง่ายๆ เช่นนั้นไม่บ่นสักคำ

วันหนึ่งถึงขั้นขอสิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือทั้งสี่ [1] จากซินซินเพื่อไปฝึกคัดอักษร ซู่หรานอ้างว่าขี้เกียจออกไปซื้อของเอง ถึงซินซินจะยินดีออกไปซื้อให้ แต่ท่านย่าที่เฝ้าดูมาหลายวัน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว เข้าไปด่าซู่หรานถึงในห้องนอน

ต่อให้ซู่หรานไม่อยากออกไปข้างนอกมากเพียงไหน เมื่อผู้ใหญ่มาด่าถึงในห้องแล้ว อย่างไรก็ต้องไป

ท่านย่าสั่งให้ป้าหวังมี่ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของท่านพ่อพาซู่หรานไปด้วยกัน เพราะกลัวว่าซู่หรานจะวางแผนร้ายใส่ซินซินท่านย่าจึงไม่อนุญาตให้สองพี่น้องไปด้วยกัน

ระหว่างทาง ซู่หรานแอบชำเลืองท่านป้าของตัวเอง

หวังมี่ เป็นพี่สาวแท้ๆ พ่อของซู่หราน อายุมากกว่าหนึ่งปี จนป่านนี้ยังไม่ได้แต่งงาน ป้าหวังมี่จึงไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกเนื่องจากผู้คนชอบนินทา ในความทรงจำของซู่หราน ท่านป้ามักจะปฏิเสธไม่ยอมแต่งงานบ่อยๆ

ซู่หรานคนเก่าเคยคิดว่าเป็นเพราะท่านป้าช่างเลือกมากเกินไป สุดท้ายจึงไม่มีผู้ใดอยากขอนางแต่งอีก แม้แต่คนตัดฟืนยังไม่อยากมาสู่ขอ แต่ตอนนี้ซู่หรานกลับคิดว่า ท่านป้าอาจเป็นผู้เลือกจะไม่แต่งงาน ดูได้จากสิ่งที่นางทำอยู่ตอนนี้

ป้าหวังมี่ยังคงอยู่ในจวนของน้องชาย ทางหนึ่งอาจเป็นเพราะน้องชายได้เป็นขุนนาง ผู้คนจึงเงียบปากได้อยู่บ้าง ท่านป้าอยู่ในจวนก็ไม่ได้รับผิดชอบหน้าที่สำคัญอะไร นอกจากช่วยงานท่านย่าและฮูหยินเล็กๆ น้อยๆ

แต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหาอะไร ท่านขุนนางหวังจะคุยปรึกษากับพี่สาวทั้งวัน จากนั้นทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางดีขึ้น

งานที่ป้าหวังมี่ยืดเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองคือ เป็นตัวแทนขายภาพเขียนและภาพอักษร ดังนั้นท่านป้าจึงรู้จักกับพวกกวีไส้แห้งมากมาย แม้ร้านของนางจะเป็นร้านไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีผลงานชื่อดังไว้ในครอบครองหลายชิ้น และอีกหลายชิ้นก็เป็นของพวกต่างเผ่าด้วย

วันนี้ท่านป้าก็จะไปซื้อกระดาษ ดังนั้นท่านย่าจึงให้ซู่หรานติดไปด้วย ทางหนึ่งจะได้มีคนที่ไว้ใจได้ คอยดูแลควบคุมซู่หราน ทางหนึ่งเพราะซู่หรานไม่มีสาวใช้ติดตามส่วนตัว หลานสาวออกไปไหนคนเดียว อย่างไรท่านย่าก็เป็นห่วง กลัวว่าอาจเป็นขี้ปากชาวบ้านให้ผู้คนนินทา ถึงจะเป็นลูกอนุ แต่อย่างไรก็เป็นลูกขุนนาง มีผู้ใหญ่ไปด้วยจึงดีที่สุด

หลังจากซื้อสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ได้แล้ว ท่านป้าขอไปจัดการบางสิ่งในร้านของนางที่อยู่ฝั่งตรงข้าม นางอนุญาตให้ซู่หรานเดินเล่น ดูร้านค้าข้างทางได้ แต่อย่าไปไกล ท่านป้ายังให้สาวใช้ของนางเดินไปด้วย จะได้มีคนช่วยจับตาดูซู่หราน ไม่ให้ไปทำเรื่องไม่ดีได้ง่ายๆ

แต่ซู่หรานกลับขอบคุณด้วยความดีใจ เพราะจะให้เธอเดินคนเดียวไปทั่ว เธอก็ไม่กล้า แต่จะไม่เดินดูก็เสียดาย เพราะที่นี่คือตลาดยุคโบราณของแท้ มองไปทางไหนก็มีแต่คนสวมใส่ชุดโบราณน่ามอง แม้เธอจะเห็นไปมากมายในความทรงจำของซู่หรานคนเดิม แต่เทียบไม่ได้อะไรเลยกับการเห็นด้วยตาตัวเอง ที่สำคัญสาวใช้ของท่านป้าไม่พูดมาก ซู่หรานอยู่ด้วยแล้วสบายใจ

ป้าหวังมี่ตกใจในความเปลี่ยนแปลงของซู่หรานเล็กน้อย แต่เก็บอาการได้ดี ซู่หรานจึงมองไม่ออก หลังจากท่านป้าเข้าไปในร้านแล้ว ซู่หรานก็ขอให้สาวใช้พาเดินดูรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น แม้เสื้อผ้าที่ใส่จะอึดอัดมาก

สาวใช้พาเธอเดินไปร้านนั้นร้านนี้ หลังจากถุงเงินของซู่หรานหายไปเกือบครึ่ง เธอมีความสุขมาก เพราะเธอได้สั่งผ้าไปหลายชนิดหลายลาย ทุกผืนล้วนเป็นงานฝีมือทุกขั้นตอน แถมทางร้านค้ายังใจดีจะไปส่งให้ที่จวนของท่านขุนนางหวังให้ด้วย

“ซู่หราน?” เสียงผู้ชายเรียกซู่หรานด้วยความสนิทสนมดังมาจากด้านหลัง

ซู่หรานหันไปมองด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนรอยยิ้มนั้นจะค่อยๆ จางไปพร้อมกับความทรงจำที่เด้งขึ้นมาเต็มหัวเกี่ยวกับเรื่องของคนตรงหน้า เขามีรูปร่างอ้วนเล็กน้อย สูงระดับสายตาของซู่หราน อายุน่าจะสามสิบกว่าจะสี่สิบแล้ว อยู่ในชุดผ้าไหมเนื้อดีสีครามปักดิ้นทอง มีผู้ติดตามมาด้วยสองคน

‘ซู่หรานนะซู่หราน เธอนี่มันคบแต่คนประเภทไหนเนี่ย’ เธอขมวดคิ้ว ด่าซู่หรานคนเก่าในใจ

“เจ้ายังสบายดีหรือ ข้านึกว่า..แล้วนี่เจ้ามาซื้อผ้าหรือ แปลกดี ดูไม่คล้ายเจ้าสักนิด ข้าจำไม่ได้ว่าเจ้าชอบเย็บปักด้วย” ชายคนนั้นยังพูดต่อ

“ใต้เท้าเหมิน โปรดระวังคำพูดด้วย หากมีผู้ใดมาได้ยินจะเข้าใจผิดได้” ซู่หรานหลบตา ถอยไปอยู่ด้านหลังของสาวใช้ พูดตักเตือนชายตรงหน้า ไม่แม้แต่จะย่อตัวทำความเคารพ

“อะไรนะ! เจ้าลืมข้าไปแล้วหรือ ไม่หรอก..!!”

ป้าบ!! ซู่หรานใช้พัดตบลงไปบนมือของใต้เท้าเหมินที่พยายามยื่นมาจับตัวเธอ เขาเองก็ตกใจ สาวใช้หน้าซีดไปหมด ไม่คิดว่าอยู่ๆ ซู่หรานจะกล้าตี

“เจ้า!! เจ้ากล้าตีข้าหรือ?” เขาขึ้นเสียง ชี้ไปตรงหน้าของซู่หราน

------------------------------------------------------------------------------

[1] 4 สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ ได้แก่ 1.พู่กัน 2.แท่งหมึก 3.จานฝนหมึก 4.กระดาษ เนื่องจากสมัยก่อนการศึกษาถือเป็นสิ่งล้ำค่ามาก ถือเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรือง อุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษาก็มีราคาแพงและหายาก กระดาษ แท่งหมึก พู่กัน และจานฝนหมึก จึงถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel