บทที่4เตรียมเดินทางออกจากเมืองหลวง
ทันทีที่เสิ่นชิงเวยพูดจบ บัณฑิตและขุนนางทุกคนก็ต่างพากันขยับหนีทันที นึกว่าจะมาดูเรื่องสนุกกลายเป็นต้องเสียเงิน สุดท้ายเสิ่นชิงเวยก็ได้มาสามพันตำลึงเบาๆ อีกทั้งยังกระตุกหยกห้อยเอวจ้าวเหวินและปิ่นหยกผีเสื้อของหลิวเสี่ยวเหยียนมาได้อีกด้วย
ไม่ทันพ้นประตูบ้านก็ได้ยินเสียงโหยหวนของป้าฝางดังมาจากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านเผยเอ่ยเสียวเข้มเพื่อจงใจให้นางได้ยิน
"โบยให้ครบร้อยไม้ เอาไปทิ้งสุสานไร้ญาตบังอาจคิดไม่ชื่อกับท่านแม่ทัพ"
เสิ่นชิงเวยต้องหาทางไปจากที่นี่ ผู้ชายคนนี้ใจแคบ ไม่ฟังเหตุผล หาทางกลับบ้านก่อนค่อยว่ากัน
เมื่อมาถึงบ้านน้องชายกับน้องสาวก็นั่งหลับรอนางทั้งคืนแต่เหตุใดมานั่งอยู่หน้าประตูบ้าน ในบ้านผู้คนพลุกพล่านนัก ทันทีทีที่เห็นนางก็วิ่งมากอด
เสิ่นชิงเวยกำลังปลอบใจน้องๆ ชายวัยกลางคนก็เดินมาหานางก่อนจะเอ่ย
"แม่นนางเสิ่น ข้าคือเถ้าแก่พ่านแม่นางเสิ่นจำข้าได้หรือไม่"
เสิ่นชิงเวยมองหน้าบุรุษตรงหน้า พยายามเค้นความทรงจำของร่างเดิมก็จำบุคคลคนนี้ได้ เขาเป็นเถ้าแก่ซื้อขายบ้านหรือเช่าบ้านในเมืองหลวง สมัยก่อนบิดาของร่างเดิมเคยคบค้าสมาคมกับเขาอยู่พอสมควร แต่สนิทถึงขั้นไหนนั้นนางไม่อาจรู้
"ท่านลุงพ่าน บังเอิญจังได้เจอท่านวันนี้ อาของข้านำไปจำนองท่านไว้หรือเจ้าคะ"
"เอ้อ นายท่านรองติดการพนันเขาไม่เพียงจำนำบ้านหลังนี้ ได้ข่าวว่าให้คนวาดรูปของท่านให้กับขุนนางเฒ่าคนหนึ่งในเมืองหลวงเพื่อต้องการขายท่านไปเป็นอนุ รวมถึงน้องสาวท่านด้วยได้ยินมาว่าเพียงแค่เห็นรูปวาดของท่านพวกเขาจ่ายถึงห้าพันตำลึงสำหรับท่านสองคนพี่น้อง ส่วนน้องชายท่านพวกเขาจ่ายอีกสองพันเพื่อส่งไปแคว้นลู่ ที่นั่นได้ยินว่าองค์ชายรองชอบบุรุษหนุ่มหน้าตาดี ข้าเองก็แค่คนกลางในการซื้อขายบ้าน แม่นางเสิ่นใต้เท้าเสิ่นชวนเคยช่วยข้าหลายครั้ง วันนี้บอกกล่าวท่านเพื่อให้ระวังตัว หากหาทางออกจากเมืองหลวงได้จงอย่ากลับมา"
พ่านจื่อส่งตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงให้แก่นาง ก่อนจะบอกว่าเขาเตรียมรถม้าไว้ให้นางแล้ว ให้รีบออกเดินทาง บ่ายวันนี้ใต้เท้าเหลียนจะส่งคนมารับนางกับน้องสาว เสิ่นชิงเวยเกลียดอารองของร่างเดิมนัก นางรับเอาตั๋วเงินมาก่อนจะกล่าวขอบคุณ เสิ่นชิงเวยเก็บของใช้บางอย่าง ป้ายฐานะรวมถึงป้ายวิญญาณบิดามารดา จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดบุรุษก่อนจะจับน้องทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษ ตั๋วเงินถูกเย็บใส่ในชอบชายเสื้อกับกางเกง นางเหลือเงินติดตัวเพียงห้าพวงกับตั๋วเงินห้าตำลึงสองใบ
เมื่อถึงเวลาก็ออกทางหลังจวน ยามอู่แล้วสามพี่น้องพากันเดินเลาะชายแม่น้ำหลังเมืองหลวงไปยังรถม้าที่พ่านจื่อจอดรอ ทั้งสามนั่งพักอยู่ที่ร้านน้ำชาเก่าๆของสองตายายคู่หนึ่ง ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกัน
"ได้ข่าวว่าเมื่อคืนมีสตรีคิดปีนเตียงท่านแม่ทัพ ป้าฝางหญิงชราที่ส่งนางไปขึ้นเตียงถูกโบยจนตาย"
"วันนี้มีประชุมเช้า แต่ท่านแม่ทัพให้คนไปสืบแล้ว สตรีนางนั้นจะถูกโยนไปเป็นนางบำเรอกองทัพหรือถูกแส้ฟาดจนตายกันแน่"
"เฮ้อ หากเป็นข้าคงยอมตายดีกว่า เป็นนางบำเรอกองทัพยิ่งกว่าตกนรกเสียอีก วันหนึ่งต้องหลับนอนกับทหารกลัดมันเหล่านั้น นางโลมในหอโคมเขียวยังดีกว่าเสียอีก"
เสิ่นชิงเวยที่กำลังยกน้ำชาขึ้นดื่มถึงกับสำลักจนน้องสาวต้องลูบหลังให้นาง เสิ่นชิงเวยยิ้มให้น้องสาวก่อนจะจ่ายเงินแล้วพากันออกไป เสิ่นชิงเวยเดินไปหาคนรับเขียนคำร้องก่อนจะจ่ายเงินแล้วเขียนข้อความส่งให้กับคนรับส่งข่าวสาร นางไม่อยากให้ลุงพ่านเดือดร้อน
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เอาดินมาทาหน้าตนเองกับน้องๆ เสื้อผ้าทาด้วยดินสกปรกมอมแมม จากนั้นก็ไปรวมกับบรรดาขอทานที่กำลังจะถูกผลักให้ออกนอกเมืองหลวง ไม่นานนางกับน้องก็มาอยู่ตรงกลางกลุ่มผู้อพยพ เสียงร่ำไห้ระงม ชาวบ้านเหล่านี้หนีภัยพิบัติมา แต่กลับถูกผลักดันให้ออกจากเมืองหลวง ต้องไปอดอยากฮ่องเต้ทำอะไรกัน คนเหล่านี้มิใช่ราษฎรต้าหลี่หรอกหรือ
"ฮือๆๆ ใต้เท้าท่านนี้ ข้าไม่มีบ้านให้กลับแล้วอย่าไล่พวกเราไปเลย"
"ฮือ นั่นสิใต้เท้าอย่าไล่พวกเราไปเลยนะขอรับ พวกข้าหนีมาเพราะสงครามตอนนี้ไม่มีที่ทำกินแล้ว"
เหล่าผู้อพยพต่างร้องขอแต่ทหารยามกลับเงื้อทวงเตรียมจ้วงแทงคนที่มาเกาะขอเขา แต่กลับถูกขวางไว้จากทหารด้วยกัน
ทหารพากันผลักดันเหล่าผู้ลี้ภัยออกไป เสิ่นชิงเวยจับมือน้องๆแน่น ขอเพียงพ้นประตูเมืองได้นางก็จะเป็นอิสระ นางไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่นางต้องการหนีมากที่สุดกำลังให้คนไปสืบเรื่องของนางแล้ว
"พี่ใหญ่ท่านหายไปทั้งคืนเลย เหนื่อยมากไหมเจ้าคะ"
"อืมไม่เหนื่อย ว่าแต่คนมากมายมาทำอันใดกัน"
"พวกเขามายึดบ้าน บอกว่าท่านพ่อติหนี้ ไล่พวกเราออกมาอยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ"
"อยู่ที่นี่เดี๋ยวพี่มา"
เมื่อไปสอบถามจึงรู้ว่าอาของพวกนางเสิ่นชิวติดหนี้พนันเอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง เสิ่นชิงเวยจึงขอเวลาพวกเขาสามวันเพื่อย้ายออก ขอเวลาหาบ้านเช่าให้ได้ก่อน จากนั้นก็เดินมาหาน้องชายน้องสาวยิ้มให้
"เราจะย้ายไปที่อื่น คืนนี้ไปนอนโรงเตี้ยมกันพี่ขอเวลาพวกเขาเก็บเสื้อผ้าของใช้"
เด็กทั้งสองพยักหน้าเสิ่นชิงเวยก็ลูบศรีษะพวกเขา พี่สาวเจ้าจากไปแล้วต่อไปนี้ ข้าจะดูแลพวกเจ้าแทนนางเอง
