บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

หลังเรื่องโต้เถียงกันสงบลง เหล่าองค์หญิงก็ต้องเบิกตาค้างเมื่อองค์หญิงใหญ่สั่งให้นางกำนัลนำเครื่องประดับมาให้พวกนางเลือกเพิ่มไปคนละชิ้น

เพราะนางเป็นคนใจกว้างเช่นนี้องค์หญิงทั้งหลายจึงยกย่องนางอีกทั้งไม่กล้าที่จะหาเรื่องอันใดให้องค์หญิงใหญ่ขุ่นเคือง อารมณ์ขององค์หญิงใหญ่มีผลต่อพวกนางเสมอหากนางดีก็ดีจนน้ำตาไหลแต่หากผู้ใดกล้าขัดใจนางก็เตรียมทำใจรับความอัปยศได้เลย

"สิบสามพี่หญิงเลือกให้เจ้าได้แล้ว ผ้าผืนนี้อีกทั้งปิ่นปักผมสีแดงงดงามนักคงมีเพียงเจ้าที่ใส่แล้วจะเหมาะสมผู้อื่นเห็นจะไม่คู่ควร"

"ขอบพระทัยเพคะพี่หญิง"

องค์หญิงสิบสามรับมาอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่องค์หญิงองค์หญิงทุกคนมองมายังองค์หญิงสิบสาม หลายคนอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความสะใจไม่ได้เมื่อวาดภาพคนงามเช่นน้องสิบสามอยู่ในอาภรณ์ตัวนั้น

องค์หญิงห้าตาโตด้วยตกใจที่เห็นอาภรณ์ไหมสีแดงฉ่ำผืนนั้น นางค่อนข้างสนิทสนมกับองค์หญิงสิบสามเห็นชัดเจนว่าแดงสีแรงเช่นนี้องค์หญิงทุกคนล้วนไม่กล้าใส่ด้วยกลัวว่าไทเฮาผู้โปรดการแต่งกายด้วยสีอ่อนหวานจะทรงขัดเคืองพระทัย การแต่งกายที่ดึงดูดมากเกินไปถือเป็นเรื่องไม่งามในราชสำนักเหตุใด พี่หญิงใหญ่จึงยังมอบผ้าไหมแดงชิ้นนี้ให้องค์หญิงสิบสามกันเล่า

ที่น่าประหลาดใจคือองค์หญิงสิบสามกลับรับมาด้วยใบหน้าใสซื่อราวกับไม่รู้ว่าตนเองนั้นต้องตกที่นั่งลำบากเป็นแน่

"เจ้ารีบเอาไปตัดเย็บเสียอีกไม่กี่วันจะถึงวันงานเลี้ยงต้อนรับทหารกล้าแล้ว เราในฐานะฝ่ายในต้องเข้าร่วมด้วยทุกคน พวกเจ้ารู้ความหมายของงานนี้ใช่หรือไม่"

องค์หญิงแต่ละคนล้วนพระพักตร์แดงซ่าน ความหมายในงานนี้ทุกคนย่อมประจักษ์แก่ใจ งานเลี้ยงนี้นอกจากจะต้อนรับท่านแม่ทัพและเหล่าทหารแล้ว ไทเฮายังอนุญาติให้ฝ่ายในเข้าร่วมด้วยนั่นย่อมเท่ากับว่าถือเป็นงานเลี้ยงดูตัวของเหล่าองค์หญิง หากคู่ใดที่เหมาะสมฝ่าบาทจะประทานสมรสให้ในงานเป็นแน่ ดังนั้นองค์หญิงทุกคนที่เฝ้าฝันอยากพบบุรุษรูปงาม และตั้งตารอที่จะออกจากวังหลังแห่งนี้มาเนิ่นนานจึงเฝ้ารอคอยนัก

อากาศหนาวเหน็บดูภายในตำหนักขององค์หญิงสิบสามจะมีความโกลาหลที่คนภายนอกไม่อาจล่วงรู้ได้ อ๋องฉางอันก้าวเข้ามาภายในอย่างเงียบเชียบใบหน้าร้อนรน

"อาชิงข้าสั่งเจ้าแล้วว่าให้เฝ้านางให้ดีครานี้กลายร่างเป็นอะไรเจ้ายังไม่รู้เช่นนี้จะหานางเจอได้อย่างไร"

"ทูลท่านอ๋อง องค์หญิงกลายร่างตอนข้าน้อยออกไปตักน้ำเพคะจึงไม่ทันระวังครานี้น่าจะเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ว่องไวและกระโดดได้เพราะองค์หญิงกระโดดออกทางหน้าต่างเพคะ"

"ข้าจะส่งข่าวไปยังตำหนักธิดาเทพให้ช่วยกันออกค้นหาอย่างลับๆ เจ้าอยู่นี่คอยรับหน้าคนไว้ข้าจะหานางให้พบในคืนนี้ คงไปได้ไม่ไกลน่าจะทิ้งเบาะแสไว้แถวนี้"

"เพคะ"

กระต่ายขาวตัวหนึ่งมุดรั้วตำหนักกระโดดออกมาอย่างว่องไว มันมองซ้ายขวาอย่างไม่รู้ทิศทางก่อนจะเริ่มสูดดมบางอย่าง แล้วพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นกระต่ายปีศาจการเคลื่อนไหวจึงรวดเร็วกว่ากระต่ายทั่วไปหลายเท่า ในไม่ช้าก็กระโดดห่างจากตำหนักองค์หญิงสิบสามมาหลายลี้ ออกนอกเขต วังหลวงได้โดยไม่มีผู้ใดสงสัย

องค์หญิงสิบสามในร่างกระต่ายขาวขนปุกปุย แม้จะรู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรแต่ไม่อาจยับยั้งจิตใจได้ ยังคงวิ่งหน้าตั้งออกมาตามกลิ่นที่จมูกของตนเองนำมาหยุดอยู่หน้าจวนใหญ่ที่น่าเกรงขามที่หนึ่ง กระต่ายน้อยแอบอยู่ข้างกำแพงสูงดมกลิ่นฟุดฟิดแล้วยิ้มออกมาเมื่อพบว่าจุดหมายของตนเองอยู่ภายหลังกำแพงสูงของจวนแห่งนี้

ดูเหมือนว่าจะมีรถม้าจอดอยู่ด้านหน้าจวนคล้ายกำลังขนบางสิ่ง กระต่ายน้อยสบโอกาสกระโดดผลุบเข้าไปในรถม้าอย่างว่องไว เมื่อเข้ามาถึงภายใน กลิ่นหอมของอร่อยช่างรุนแรงยั่วยวนกระต่ายน้อยทนไม่ไหว หลบหลีกร่างกายจวบจนพุ่งเข้าไปสู่สวนผักหลังจวนด้วยความโหยหิว หลังจากนั้นองค์หญิง สิบสามในร่างปีศาจกระต่ายก็ลงมือแทะกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ราวพายุโหมกระหน่ำ นางพังสวนผักของจวนใหญ่พินาศในพริบตา

เมื่อสวนผักแห่งนี้ว่างเปล่า หนังท้องของนางเริ่มตึงกระต่ายน้อยจึงกระโดดออกมาอย่างว่องไว ตามด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านหลังที่ดังขึ้น

"เอะอะอะไรกัน"

"เรียนท่านแม่ทัพ ข้าน้อยจะไปดูเดี๋ยวนี้ขอรับ"

หยางเอ้อหลางที่กำลังชำระร่างกายในอ่างไม้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอันมาก เดิมทีเขาอยู่ชายแดนในค่ายทหารต้องอาศัยความเงียบเพื่ออำพรางศัตรูเขาจึงเกลียดเสียงดังเอะอะโวยวายเป็นที่สุด บัดนี้กลับมาถึงจวนได้ไม่นานผู้คนต่างหลงลืมกฎที่เขาตั้งไว้ส่งเสียงเอะอะหนวกหูยิ่ง

คล้ายมีเสียงอยู่อีกด้านของห้องอาบน้ำ หยางเอ้อหลางกระโดดตัวลอยว่องไวไม่ทันได้คว้าเสื้อคลุมนอกจากกระบี่ประจำกายกระโจนไปตามเสียง เขาวาดกระบี่ออกไปยังไม่ทันได้ลงมือก็พบว่าบนพื้นห้องบัดนี้มีกระต่ายสีขาวตัวค่อนข้างใหญ่กำลังหมอบตัวสั่นงันงกอยู่

"ท่านแม่ทัพ ด้านนอกไม่รู้สิ่งใดทำลายแปลงผักจนพังพินาศขอรับ" องครักษ์ฝานเข้ามาในห้องพร้อมมองผ่านแผ่นหลังของแม่ทัพหนุ่มซึ่งไร้อาภรณ์ยืนวาดกระบี่อยู่ด้านหน้าสัตว์ตัวอ้วนขนปุกปุยสีขาว

"ข้าจับโจรได้แล้ว ไม่ต้องหา" แม่ทัพหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นพลางนั่งลงรวบหัวกระต่ายยาวของนางแล้วยกร่างอ้วนตุ้ยนุ้ยขึ้นมาพิจารณา

องค์หญิงสิบสามในร่างของกระต่ายยังคงตกตะลึงนางรู้จักเขาแน่นอน นี่นางบุกเข้ามาในจวนของแม่ทัพผู้เหี้ยมโหดเชียวหรือ บุรุษผู้นี้ไร้ยางอายมายืนเปลือยกายอยู่ต่อหน้านางเช่นนี้ ทำให้นางตื่นตระหนกจนไม่อาจขยับได้ เจ้าสิ่งนั้นที่ห้อยอยู่ตรงกลางร่างกายของเขาช่างดูดุดันน่ากลัวเสียเหลือเกิน

เจ้าบ้านี่ท่าทางจะไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ แน่ แย่แล้วจะทำอย่างไรดี

องครักษ์ฝานหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่างให้ผู้เป็นนาย เขาและแม่ทัพเติบโตมาในค่ายทหารเปลือยกายอาบน้ำด้วยกันมานับสิบปี เขาจึงชาชินกับเรือนกายของท่านแม่ทัพไปแล้ว

"กระต่ายตัวเดียวเหตุใดจึงทำลายแปลงผักมากมายภายในพริบตาได้"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel