บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 หนี้ของเถ้าแก่เหอ

มู่หลี่เฉียงชี้ให้หมิงจิ้นเหอดูร้านค้าเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่หน้าค่าย

“ได้ยินนายกองเกา กับนายกองซ่งชมว่า อาหารอร่อยราวกับภัตตาคาร ท่านแม่ทัพจะลองไหม?” จวิ้นอ๋องในยามอยู่ในหมู่ทหารไม่ชอบให้ใครเรียกเขาว่า ท่านอ๋อง ทุกคนขานนามเขาเพียง ท่านแม่ทัพ และไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ใด เพื่อความสะดวกในยามสู้รบ เหล่าทหารที่เคียงบ่าเคียงไหล่มาทุกสมรภูมิต่างให้ความเคารพและจงรักภักดีกับแม่ทัพหมิงอย่างสุดหัวใจ

“เอาสิ”

เขามาอยู่ภาคเหนือที่เป็นแถบภูเขา มีช่วงอากาศหนาวเย็นแทบครึ่งปี ช่วงหนาวจัดมีหิมะปกคลุมขาวโพลนทั่วเทือกเขา ในฤดูร้อนและใบไม้ผลิในทะเลสาบและแม่น้ำก็มีปลานานาชนิดให้เอามาทำอาหาร เขาจึงชอบการอยู่ที่นี่ เรื่องอาหารการกินเขาล้วนไม่เรื่องมาก แม้บางครั้งจะคิดถึงอาหารเลิศรสในวัง แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศอันงดงามและไร้ความกดดันก็ต้องยอมแลก

จะว่าเป็นร้านก็ไม่กระไรนัก เรียกว่าเป็นเพิงจะดีกว่า แต่กลิ่นอาหารที่อบอวลอยู่ทั่วบริเวณกลับส่งกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายหก เถ้าแก่ที่เดินออกมาต้อนรับดูสุภาพอ่อนน้อม

“ผู้น้อยคารวะท่านแม่ทัพ ไม่ทราบว่าท่านอยากจะรับประทานอาหารประเภทใด ที่นี่เรามีแม่ครัวฝีมือดี ข้าน้อยรับประกันว่า ท่านจะพอใจในรสชาติ”

แม่ทัพหมิงนั่งโต๊ะริมสุดไม่ไกลจากม้าที่ผูกไว้ เพราะโต๊ะที่เหลือทั้งในและนอกชายคา ล้วนมีผู้จับจองไว้หมดแล้ว คนทั้งหมดในร้านหันมามองเขาแล้วค้อมศีรษะก่อนจะหันไปรับประทานอาหารต่อ

“เอาอาหารที่เจ้าคิดว่า ดีที่สุดในร้านมาสักสามอย่าง กับชาหนึ่งกา” เขามองสำรวจรอบเพิงนี้

“ดีนะ ที่เรายังมีที่นั่ง” มู่หลี่เฉียงที่นำม้าไปผูกแล้ว เดินมานั่งด้านข้าง

“เพิ่งเปิดก็ขายดีเพียงนี้ เห็นทีคำอวดอ้างของเถ้าแก่ไม่น่าจะเกินเลย”

เมื่ออาหารถูกลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ กลิ่นหอมที่โชยมาเข้าจมูกนั้นทำบุรุษทั้งสองต้องกลืนน้ำลาย

“ลงมือกันเถอะ ท่านแม่ทัพ” มู่หลี่เฉียงจับตะเกียงจ่อที่จานรอ

“ดี” จวิ้นอ๋อง คีบผัดผักเข้าปากเพียงคำแรกก็ทำให้หวนคิดถึงรสชาติอาหารในวัง ความกลมกล่อมและกรอบนุ่มของผักช่างคล้ายกับที่นั่น ‘นี่คงไม่ใช่แม่ครัวจากวังออกมาทำเองหรอกนะ’ เขาทั้งคิดทั้งกินจนกระทั่งข้าวหมดถ้วย “เถ้าแก่เอาข้าวเพิ่มอีกชาม”

เถ้าแก่หวังรีบกระวีกระวาดถือชามข้าวมาส่ง “นี่ขอรับ ข้าน้อยบอกแล้วว่า ท่านจะต้องติดใจ”

ท่านแม่ทัพเพียงพยักหน้าน้อยๆ รับข้าวไปพุ้ยใส่ปากโดยไม่กล่าวสิ่งใด รองแม่ทัพมู่ก็หันไปขอข้าวเพิ่มเช่นกัน เขามีสีหน้าพออกพอใจกับรสชาติอาหารอย่างชัดเจน

หลังออกจากร้าน มู่หลี่เฉียงยังคงชมรสชาติอาหารไม่ขาดปาก “สมแล้วกับที่นายกองทั้งสองบอกข้าว่า ตั้งแต่มาครั้งแรก ต่อไปก็ต้องมาอีก”

หมิงจิ้นเหอยิ้มรับ “ข้านึกว่าเป็นฝีมือแม่ครัวในวังซะอีก เห็นทีวันหลังอาจจะต้องขอพบ” หากนางทำอาหารได้อร่อยทุกอย่าง เขาอาจจะรับนางไปเป็นแม่ครัวที่จวน

“ร้านนี้เปิดเฉพาะตอนเช้ากับตอนเที่ยง ตกบ่ายอาหารก็หมดแล้ว หากท่านทัพมาไม่ทันก็คงจะอดเช่นกัน” รองแม่ทัพมู่รีบกล่าวเตือน “โชคดีวันนี้เราออกมาก่อนเที่ยง”

แม่ทัพหมิงกลับค่ายไปดูการฝึกซ้อมทหารตลอดบ่าย หลังจากการศึกที่เพิ่งผ่านพ้น เขาให้เหล่าทหารฝึกน้อยลงเพื่อเป็นการพักผ่อนร่างกายจากการกรำศึก ด้านหลังจวนแม่ทัพเป็นเนินเขาขนาดย่อมที่ต่อเนื่องถึงเชิงเขา มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เขาให้ทหารไปทำรั้วไม้ไผ่ล้อมไว้เป็นบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวเพื่อใช้แช่ผ่อนคลายความเมื่อยล้า ส่วนบ่อที่ไกลออกไปทางทิศตะวันออก อนุญาตให้เหล่าทหารและชาวบ้านเข้ามาใช้ได้

หลังจากแช่บ่อน้ำพุร้อน พ่อบ้านเกามาเชิญเขาไปรับประทานอาหาร ชายหนุ่มมองเห็นอาหารบนโต๊ะ เขากลับนึกถึงอาหารที่เพิงเล็กตอนเที่ยงวัน รสชาติที่ยังคงติดที่ปลายลิ้นทำให้เขารับประทานอาหารที่จวนได้น้อยกว่าปกติ

“ท่านอ๋อง รสชาติไม่ถูกใจหรือพะยะค่ะ?” พ่อบ้านเกาที่ติดตามรับใช้มาตั้งแต่จวนจวิ้นอ๋องในเมืองหลวงจนถึงจวนแม่ทัพ กังวลจนต้องถามออกมา

“วันนี้ข้าได้ลิ้มอาหารรสเลิศจึงยังนึกถึงอยู่กระมัง”

“เป็นร้านใดหรือท่าน” เมืองนี้มีภัตตาคารเพียงสองแห่ง ซึ่งเขาก็ไม่เคยเห็นท่านอ๋องจะกล่าวชมรสชาติอาหารเลยสักครั้ง

“เพิงที่เปิดใหม่หน้าค่าย ข้าไปกับมู่หลี่เฉียงเมื่อตอนเที่ยง รสชาติเหมือนในวังเลยทีเดียว”

“ข้าน้อยต้องลองไปดู จะได้ให้แม่ครัวปรับปรุงรสชาติเช่นเดียวกับที่ท่านอ๋องทรงโปรดพะยะค่ะ”

“ดีสิ พรุ่งนี้ข้าเองก็จะลองไปอีกครั้ง อยากรู้ว่า แม่ครัวร้านนี้จะทำอร่อยทุกอย่างหรือไม่?”

เมื่อเห็นแม่ทัพหมิงควบม้าไปที่ร้านอาหารหน้าค่ายในตอนเที่ยงพร้อมรองแม่ทัพมู่ได้สองสามวัน บรรดานายทหารต่างติดตามออกมาเพื่อชิมอาหารร้านนี้ด้วย ทำให้โต๊ะเก้าอี้ไม่พอต้อนรับ เถ้าแก่เหอเจ้าของร้านอาหารจึงบากหน้าไปขอกู้เงินท่านแม่ทัพเพื่อขยายร้าน

แม่ทัพหมิงหรือจวิ้นอ๋อง หมิงจิ้นเหอ เห็นว่าตนไม่มีข้อเสียเปรียบเพราะรู้มาว่า แม่ครัวคือบุตรสาวของเถ้าแก่เหอผู้นี้ หากอีกฝ่ายไม่มีอัฐจะมาใช้หนี้เขาก็คิดจะยึดเอานางมาเป็นแม่ครัวที่จวนแม่ทัพ ตกลงกันเสร็จสรรพก็ให้เถ้าแก่เหอลงลายมือชื่อไว้ในสัญญา เถ้าแก่เหอมีสีหน้ายินดีอย่างยิ่งเขากลับบ้านไปพร้อมกับเงินและสัญญาฉบับนั้น

“ดีมากท่านพ่อ” เหอเจียอีพยักหน้าชมเชย

“คุณหนูขอรับ ท่านจะทำให้ข้าน้อยหัวใจวาย โทษฐานหลอกลวงท่านแม่ทัพ ประหารเลยทีเดียวนะขอรับ” พ่อบ้านเหอที่โดนบังคับให้สวมบทบาทเถ้าแก่เพิงขายอาหารถึงกับเหงื่อตก แม้ช่วงวัยรุ่นเขาจะเคยเลือดร้อนชิงไถ่ตัวแม่นางหงผู้โด่งดังจากหอคณิกาตัดหน้าคุณชายตระกูลพานจนถูกอีกฝ่ายตามราวี แต่ยังไม่น่ากลัวเท่าครั้งนี้

“เอาเถอะน่าพ่อบ้านเหอ ข้าจะรับผิดชอบชีวิตน้อยๆ ของท่านเอง” คุณหนูฟ่านที่ปลอมแปลงชื่อเป็นเหอเจียอี ยิ้มขำๆ “ท่านแม่ล่ะ ท่านคิดว่ายังไง?”

ภรรยาของเถ้าแก่เหอ อดีตหญิงแม่นางหงจางลี่แห่งหอเทียบจันทราหันไปปลอบสามี “ท่านพี่ ท่านต้องเชื่อใจคุณหนู ข้าว่า ครั้งนี้ คุณหนูต้องทำสำเร็จ”

“มาถึงขั้นนี้เราต้องขยายร้านให้ใหญ่โตอีกหน่อย พอจะต้อนรับบรรดาคุณชายจากเมืองพยัคฆ์เหินให้มาแสดงงิ้วช่วยข้า”

*******************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel