บท
ตั้งค่า

บทที่8 พบกันโดยบังเอิญ

เถียนซู่เจิงคอยสังเกตใบหน้างามของหลานสาวอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่านางจะโกรธตนยามที่เอ่ยชื่อของเว่ยเจ๋อหมิงโดยพลการ แต่น่าแปลกที่ใบหน้าของเถียนสวี่หลันยังคงเรียบเฉยไร้การเปลี่ยนแปลง

“เป็นเช่นนี้เอง ข้าก็เคยได้ยินมาบ้างว่าเขาเป็นอัจฉริยะในด้านนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะสามารถสอนผู้อื่นได้ด้วย ท่านโชคดีจริงๆ นะอาเล็ก”

เถียนสวี่หลันยิ้มให้นาง ทั้งยังตบลงไปที่ไหล่ของนางเบาๆ จากนั้นสตรีทั้งสองก็พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อีกหลายเรื่อง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาในการรอเถียนห่าวซวน

“พี่ใหญ่อาเล็ก พวกท่านมาทำอันใดที่นี่”

เถียนห่าวซวนส่งเสียงทักทายสตรีทั้งสองมาแต่ไกล เด็กชายที่ตัวสูงแค่หน้าอกของนางวิ่งตรงมาที่ศาลาอย่างรวดเร็ว ตะวันยามบ่ายยังคงส่องแสงร้อนแรง ทำให้บนใบหน้ากลมที่เหมือนซาลาเปาของเถียนห่าวซวนมีเหงื่อผุดขึ้นมาตามไรผม เถียนสวี่หลันหยิบผ้าเช็ดหน้าของนางออกซับเหงื่อให้น้องชายอย่างอ่อนโยน

“เหนื่อยหรือไม่”

เสียงหวานเอ่ยถามน้องชายที่ดูเหนื่อยหอบเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งมาหาพวกนาง

“ข้าไม่เหนื่อยขอรับ ว่าแต่พวกท่านสองคนกำลังจะไปที่ใดหรือ เหตุใดมาถึงมานังอยู่ที่นี่ กลางวันร้อนจะตาย ระวังท่านย่าจะดุเอานะหากท่านเกิดไม่สบายขึ้นมา”

เถียนสวี่หลันหัวเราะเสียงใส เจ้าอันธพาลน้อยของนางรู้จักทำตัวเป็นผู้ใหญ่ริอ่านมาสั่งสอนพี่สาวอย่างนางหรือ เถียนสวี่หลันบีบแก้มนุ่มของเขาเล่นอย่างมันเขี้ยว

“ข้ากับอาเล็กมารอเจ้าเข้าไปในอำเภอพร้อมกัน อยากไปด้วยหรือไม่”

เถียนห่าวซวนพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น เพราะเขาไม่ได้ไปในอำเภอนานแล้ว ในระหว่างที่ทั้งสามนั่งรอเกวียนวัวที่ศาลาหน้าหมู่บ้าน ลุงหลิวที่มีอาชีพขับเกวียนวัวรับส่งคนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงไปยังอำเภอเหออันก็ขับเกวียนวัวมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าศาลา

ร่างสูงโปร่งของเว่ยเจ๋อหมิงก็ก้าวลงมาจากเกวียนวัวด้วยท่าทางสง่างาม เถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนเองจะบังเอิญมาเจอเขาที่นี่อีก ร่างบางรีบก้าวเข้าไปหลบที่ด้านหลังของเถียนซู่เจิงอย่างตั้งตัวไม่ทัน แต่น่าเสียดายที่เขาเห็นนางแล้ว เว่ยเจ๋อหมิงมองสำรวจสามคนที่ยืนอยู่หน้าศาลา ก่อนก้าวเข้ามาหาเถียนซู่เจิง

“เจ้ากำลังจะไปไหน”

เขาไม่แม้แต่จะทักทายสองพี่น้องที่ยืนอยู่ด้วยกัน เถียนซู่เจิงมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อยที่เขาแสดงออกเช่นนี้ เถียนสวี่หลันเห็นเว่ยเจ๋อหมิงไม่สนใจตนนางก็รีบดึงมือน้องชายเดินไปที่เกวียนวัวอย่างรวดเร็ว คล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่าง

“อาเล็ก ถ้าวันนี้ท่านไม่ว่างเราค่อยไปวันอื่นกันก็ได้ วันนี้ข้าไปกับซวนเอ๋อก่อน ไปเร็วท่านลุงหลิว”

เถียนสวี่หลันเร่งคนขับเกวียนวัวให้รีบไป เว่ยเจ๋อหมิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางต้องแสดงท่าทางหวาดกลัวเขาเช่นนั้นด้วย เขาเพียงเข้ามาคุยกับเถียนซู่เจิงเท่านั้นมิได้คิดจะทำอันใดนางเสียหน่อย

“แม่หนูผู้นั้นไม่ไปด้วยหรือ”

ลุงหลิวถามเถียนซู่เจิง ก่อนจะใช้แซ่ฟาดไปที่วัวไม่แรงนักเพื่อกระตุ้นให้มันออกเดิน

“ขะ...ข้าก็จะไปเจ้าค่ะ รอข้าก่อน”

ลุงหลิวดึงเชือกวัวให้หยุดเดินเพื่อรอนาง

“เว่ยเจ๋อหมิงเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง ข้ามีธุระที่อำเภอ ต้องขอตัวก่อน”

นางรีบวิ่งตามให้ทันเกวียนวัวที่หยุดรอ เว่ยเจ๋อหมิงรู้สึกคาใจเขาจึงเดินตามนางไป ด้วยขาที่ยาวกว่าทำให้เขาก้าวไม่กี่ก้าวก็ทันนางแล้ว เถียนซู่เจิงขึ้นไปนั่งบนเกวียนวัวโดยที่ไม่รู้ว่าด้านหลังของตนมีร่างสูงตามมาด้วย คนที่ตกใจมากกว่าใครคือเถียนสวี่หลัน

นางรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกที่ต้องนั่งอยู่ในสถานที่เดียวกันกับเขา นางไม่ชอบที่เว่ยเจ๋อหมิงมองมาที่นางอย่างสำรวจ เพราะมันเหมือนกับเขาสามารถมองเห็นทะลุจิตใจของนางได้ เถียนสวี่หลันค่อยๆ ถอยออกไปจนสุดม้านั่ง ตลอดทางนางเอาแต่นั่งเงียบและก้มหน้าไม่ยอมพูดจากับใคร มีเพียงเสียงของน้องชายของนางที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด

“เจ้าไปทำอันใดที่อำเภอเหออัน”

หลังจากที่เกวียนวัวออกวิ่งไปได้สักระยะ เขาจึงเอ่ยถามเถียนซู่เจิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ข้ากับหลันเอ๋อและซวนเอ๋อแค่อยากจะเข้าไปเที่ยวเล่นในอำเภอเท่านั้น เจ้าลืมแล้วหรือว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของข้าเปิดร้านขายของในอำเภอ อีกอย่างหลันเอ๋อเองก็อยากได้กระดาษเพื่อไปคัด...”

“อาเล็กท่านหิวหรือไม่!! เอาไว้เราไปถึงอำเภอเหออันเราหาอะไรกินกันก่อนก็ดีนะ ซวนเอ๋อเองก็คงจะหิวแล้วเช่นกัน”

เถียนสวี่หลันรีบเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่อาเล็กของนางจะบอกเว่ยเจ่อหมิงเรื่องที่นางเริ่มเรียนอ่านเขียน เพราะนางไม่อยากให้เขาใช้สายตาถูกนางไปมากกว่านี้

เมื่อปีก่อนเถียนสวี่หลันเคยโกรธเว่ยเจ๋อหมิงที่เขาไม่สนใจ นางเลยพูดจาดูถูกเกี่ยวกับการเรียนและสำนักศึกษาของเขามาก่อน หากให้เขารู้ว่านางกำลังเรียนหนังสือเขาจะต้องดูถูกนางเป็นแน่ นางไม่อยากให้ตนเองจะต้องอับอายไปมากกว่านี้

“ดะ..ได้”

เถียนซู่เจิงพยักหน้าตอบรับคำพูดของหลานสาว นางเหลือบตามองใบหน้าด้านข้างของสหายตนที่กำลังขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่เถียนสวีหลันเอ่ยทะลุกลางปล้องขึ้นมา เถียนสวี่หลันที่นั่งอยู่จนสุดม้านั่ง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะมองออกไปด้านนอกเกวียนวัว

อาเล็กเองก็อยู่ที่นี่เขาคงไม่กล้าทำอันใดรุนแรงกับนางหรอกกระมัง เถียนสวี่หลันเอ่ยปลอบตนเองในใจ เว่ยเจ๋อหมิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเถียนสวี่หลันเอาแต่จ้องหน้านางอยู่เช่นเดิม

เขารู้สึกแปลกใจในพฤติกรรมของนางไม่น้อย หากในเวลาปกตินางคงจะเข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว ยิ่งในสถานที่จำกัดพื้นที่เช่นเกวียนวัวนางยิ่งจะต้องฉวยโอกาสเพื่อเข้าหาเขาให้ได้

แต่นี่เกิดอันใดขึ้นกัน นางไม่เพียงไม่เข้าหาตน แต่นางถึงกับถอยออกไปจนสุดปลายม้านั่งเพื่ออยู่ให้ห่างจากเขาเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้วมิใช่หรือ นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด แต่เหตุใดเขาจะต้องรู้สึกหงุดหงิดมากมายเพียงนี้

เถียนสวี่หลันไม่รู้ความคิดในใจของเว่ยเจ๋อหมิง เมื่อเกวียนวัวมาถึงทางเข้าอำเภอเหออัน นางก็รีบจ่ายเงินค่าโดยสารสำหรับสามคนจากนั้นจึงรีบพาน้องชายเดินตัวปลิวไปที่ร้านขายบะหมี่ทันที ในใจของนางตอนนี้หวังแค่ว่าคนผู้นั้นจะไม่ตามมาที่นี่อีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel