บทที่2 รู้สึกผิด
“ข้าไม่รู้สึกสนุกเหมือนแต่ก่อนแล้วสิ เหตุใดเจ้าถึงเลิกต่อต้านข้าแล้วเล่า เถียนสวี่หลัน เจ้าควรทำให้ข้าสนุกมากกว่านี้มิใช่หรือ ลุกขึ้นมาเร็วๆ ไม่ได้ยินเจ้านายของเจ้าสั่งหรืออย่างไร”
ไร้การตอบสนองจากร่างที่นอนขดอยู่บนกองฟาง จ้าวจื่ออิงพยักหน้าให้สาวใช้ทั้งสองไปลากเถียนสวี่หลันออกมา ร่างกายที่ผอมแห้งเหมือนไม้ฟืนถูกโยนลงไปแทบเท้าของจ้าวจื่ออิงอย่างไร้ความปรานี
เถียนสวี่หลันรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างจนถึงกระดูก แต่นางก็มิได้ร้องออกมา สองปีมานี้นางร้องไห้อ้อนวอนขอให้จ้าวจื่ออิงปล่อยนางไปทุกวัน มันมากเกินพอแล้ว จากนี้สิ่งที่นางจะร้องขอคงมีแค่เพียงขอให้ปลดปล่อยนางด้วยความตายเท่านั้น
จ้าวจื่ออิงเหยียบลงไปบนแขนของเถียนสวี่หลันที่ถูกตัด นางต้องการได้ยินเสียงร้องโหยหวนอันน่าสมเพชของเถียนสวี่หลันเพื่อขอความเมตตาจากนาง แต่น่าเสียดายที่เถียนสวี่หลันนั้นสิ้นหวังกับชีวิตนานแล้ว สิ่งที่นางเฝ้ารอตอนนี้คงมีเพียงความตายเท่านั้น
“ท่าทางของเจ้าทำให้ข้าหงุดหงิดยิ่งนัก กล้าขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ”
จ้าวจื่ออิงหยิบแส้ม้าออกมา นางเฆี่ยนลงไปยังร่างที่นอนขดอยู่บนพื้นอย่างแรง ร่างของเถียนสวี่หลันกระตุกทุกครั้งที่นางสัมผัสกับแส้หนังของจ้าวจื่ออิง ด้านปลายของมันมีปุ่มหนามเล็กๆ ทุกครั้งที่มันฟาดลงบนตัวนางผิวหนังของนางก็จะหลุดออกตามไปด้วย
ไม่นาน ร่างที่นอนอยู่แทบเท้าของจ้าวจื่ออิงก็ชุ่มโชกไปด้วยเลือด นางส่งเสียงหึ!!อย่างพอใจ จากนั้นจึงโยนแส้ม้าทิ้งแล้วเดินจากไป สาวใช้ร่างท้วมเดินไปปิดประตูและลงกลอนจากด้านนอก ทิ้งให้เถียนสวี่หลันนอนจมกองเลือดอยู่ที่เดิม
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันคืนแล้ว หลังจากที่ถูกทรมานอย่างหนักเถียนสวี่หลันก็สลบไป นางฟื้นคืนมาอีกครั้งกลับพบว่าตนเองยังคงไม่ตาย นางไม่เข้าใจเลยว่านางถูกทรมานขนาดนั้นแล้วเหตุใดตนเองถึงยังมีชีวิตอยู่ เถียนสวี่หลันมองไปยังกระดาษหน้าต่างที่ขาดเป็นรู ทำให้มีแสงส่องลอดเข้ามา
เวลากลางวันอย่างนั้นหรือ นางพยายามคลานไปยังกองฟางที่อยู่มุมห้องอีกครั้ง บาดแผลและรอยเลือดที่แห้งไปนานแล้วปริแตกออกจากการที่นางขยับตัว รอยเลือดที่ไหลออกมาจากร่างของนางทิ้งร่องรอยเอาไว้เป็นทาง
เถียนสวี่หลันไม่ยอมทานอาหารหรือน้ำมาเป็นเวลาหลายวันทำให้นางแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง เสียงไขกลอนประตูที่ด้านนอกทำให้นางหยุดชะงักลง นางคิดว่าผู้ที่มาที่นี่หากมิใช่จ้าวจื่ออิงก็คงเป็นเดรัจฉานพวกนั้น
เถียนสวี่หลันหลับตาลงนอนขดตัวอยู่ที่พื้นที่เดิม ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกร่างสูงโปร่งของใครบางคนก็เดินเข้ามาภายในห้อง กลิ่นหอมเย็นที่โชยมาทำให้เถียนสวี่หลันลืมตาขึ้นมอง
นางจดจำได้ดีใบหน้านี้นางไม่มีวันลืม บุรุษที่นางรู้สึกผิดต่อเขามาตลอดชีวิตของนาง เว่ยเจ๋อหมิงเขามาทำอันใดที่นี่ เถียนสวี่หลันหันหน้าหนี ความจริงนางไม่ต้องการให้เขามาเห็นนางในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้ แต่นางไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะขยับไปที่ใดอีกแล้ว
สายตาของเว่ยเจ๋อหมิงมองไปยังร่างที่นอนขดที่พื้นด้วยความรู้สึกเวทนา เถียนสวี่หลัน นี่คือสิ่งที่เจ้าได้รับหลังจากที่เจ้าพยายามหักหลังข้าอย่างนั้นหรือ
ความอบอุ่นสายหนึ่งประทับลงบนกายที่เปลือยเปล่า เถี่ยนสวี่หลันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง เสื้อคลุมของเว่ยเจ่อหมิงกำลังคลุมอยู่บนร่างของนาง เถียนสวี่หลันรู้สึกว่าความอบอุ่นนั้นมันได้ซึมลึกลงไปถึงก้นบึ้งของจิตใจของนางแล้ว
เว่ยเจ๋อหมิงก้มลงอุ้มร่างผอมแห้งที่มีแต่ร่องรอยของการถูกทรมานของเถียนสวี่หลันอย่างไม่นึกรังเกียจ ในใจของนางอยากจะกล่าวขอโทษเขาเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะสายไปแล้ว
นางอยากจะถามว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ แต่น่าเสียดายที่สวรรค์คงจะไม่ให้โอกาสนาง เถียนสวี่หลันเองก็ไม่คิดว่าคนสุดท้ายที่นางได้พบก่อนตายคือบุรุษที่นางเคยทำร้ายในอดีต นางพยายามขยับปากพึมพำเบาๆ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะถูกพรากไป
“เว่ยเจ๋อหมิง ข้าขอโทษ”
เป็นครั้งแรกที่เถียนสวี่หลันรู้สึกโล่งและเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดตามร่างกายอีกต่อไปแล้ว การได้ถูกปลดปล่อยมันเป็นเช่นนี้เอง นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนางถึงยังไม่ตายเสียที บางทีอาจเป็นเพราะนางกำลังรอให้เว่ยเจ๋อหมิง บุรุษที่นางติดค้างมาตลอดชีวิตมาช่วยปลดปล่อยนางนั่นเอง
