EP.1 หนีไม่ได้ตลอดไป
" ทิกเกอร์ลงเวรแล้วไปหาอะไรกินกันดีไหม ซาร่าหิวจนไส้กิ่วหมดแล้วเนี่ย เคสผ่าคลอดเมื่อกี้ก็ยากมากด้วยสงสัยต้องเยียวยาด้วยอาหารแจ่มๆสักมื้อแล้ว "
คุณหมอหนุ่มวัย 30 ปีอย่างทิกเกอร์ มาเอล หันหน้ามาหาเพื่อนสาวคนสนิทอย่างซาร่าเมื่อโดนเรียกจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมสัน จมูกโด่งเข้ารูปรับกับใบหน้า บวกกับผิวกายขาวละเอียดตามแบบฉบับคนดูแลตัวเองอย่างดี แม้เขาจะเป็นลูกเสี้ยวแต่ใบหน้านั้นออกไปทางลูกครึ่งเต็มตัวเมื่อมาอยู่ที่นี่ึจึงดูกลมกลืนเหมือนกับเป็นชาวต่างชาติ 100% ภายใต้ใบหน้าที่แสนหล่อเหลายังคงความเคร่งขรึมจนคนภายนอกที่มองเข้ามาบางคนนึกว่าเขาไม่มีหัวใจด้วยซ้ำ ใบหน้าที่แสนเรียบเฉย ไม่แสดงความรู้สึกใดๆแบบนี้มานานมากแล้ว จะมีก็แต่เพื่อนสนิทอย่างซาร่าและไมค์เท่านั้นพี่เจออาการแบบนี้ของเขาจนชินไปเสียแล้ว
" ได้สิ เราเองก็กำลังหิวอยู่พอดี อีก 10 นาทีเราไปรับที่ห้องพักแล้วกัน "
ห้องพักที่ว่าคือห้องพักของแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาล ซาร่าเพื่อนคนสนิทของทิกเกอร์ เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวเลยมั้งที่เข้าใกล้เขาได้ พวกเขาทำงานแผนกเดียวกันมา 5 ปีแล้วหลังจากที่ซาร่าได้ย้ายเข้ามาที่โรงพยาบาลเอกชนที่นี่
" แล้วเอ่อ... "
ซาร่าที่ไม่กล้าถามออกไปตรงๆแต่เธอไม่ได้อยากไปกับทิกเกอร์แค่ 2 คนที่เธอชวนทิกเกอร์เพราะมีจุดมุ่งหมายอื่นต่างหากซึ่งทิกเกอร์ก็เข้าใจความต้องการของซาร่าดีจึงรีบบอกออกไป
" หึ ไอ้ไมค์น่ะหรอ เดี๋ยวเราชวนมันไปด้วย หยุดทำหน้างอได้แล้ว "
ทิกเกอร์บอกออกไปนั่นทำให้ซาร่ายิ้มแก้มแทบฉีก เธอชอบคุณหมอไมค์ชอบจนถึงขนาดลาออกจากโรงพยาบาลรัฐมาสมัครโรงพยาบาลเอกชนเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา และเธอก็ตีสนิททิกเกอร์เพื่อเป็นสะพานไปสู่เพื่อนของเขา ข้อนี้ทิกเกอร์พอจะรู้ดีและยินดีสนับสนุนถ้าหากเพื่อนทั้งสองคนจะชอบพอกันจริงๆ ยอมรับว่าถ้าเทียบแค่ภายนอกหมอไมค์รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่เท่าหมอทิกเกอร์เลยสักนิดแต่ซาร่าเธอเป็นพวกชอบของแปลกละมั้งคุณหมอไมค์ถึงได้เข้ามาวิ่งเล่นในหัวใจของเธอซ้ำๆ พวกเธอ 3 คนสนิทกันมากจนเธอไม่รู้เลยว่าไมค์คิดกับเธอมากกว่าเพื่อนเหมือนที่เธอคิดหรือเปล่า รู้แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าหมอไมค์คงคิดว่าเธอชอบหมอทิกเกอร์
" งั้นเจอกันนะ "
ซาร่าปลีกตัวออกมาเพราะตั้งใจจะไปเติมหน้าเติมปากเสียหน่อย ไม่ได้สิ แม้จะเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ผู้ชายทั้งสองคนเธอก็ต้องเป๊ะและดูดีเพราะผู้หญิงในเมืองนี้สวยๆเยอะแยะ
เมื่อมาถึงร้านอาหารใกล้ๆกับโรงพยาบาลทั้งทิกเกอร์ ไมค์และซาร่าก็คุยกันอย่างออกรสออกชาติจนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของทิกเกอร์ดังขึ้นมา และสายนี้สำคัญมากจะไม่รับก็ไม่ได้เด็ดขาด
" ขอโทษทีว่ะเพื่อนสายนี้สำคัญมากไม่รับไม่ได้จริงๆ แป๊บนึงนะ ว่าไงคาซาร์ "
ประโยคแรกคุณหมอทิกเกอร์คุยกับเพื่อนและประโยคหลังพูดกับน้องชายที่นานๆจะโทรมาหาเขาทีนึงและโทรมาเมื่อไหร่ก็ต้องมีเรื่องตลอดสิน่า เขาและน้องชายสนิทกันมากแต่ช่วงหลังๆคุยกันไม่กี่คำเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองบวกกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล เขาอยู่อเมริกาส่วนน้องชายของเขาอยู่เมืองไทย
" แม่ไม่สบายอีกแล้ว มึงกลับมาบ้านหน่อยได้ไหมวะ "
คาซาร์มาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศพูดกับพี่ชาย สำหรับเขาถ้อยคำหวานหูแทบไม่ออกมาจากปากของเขาเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแต่ความจริงใจที่มอบให้กับทุกคน
" มึงพูดกับพี่มึงดีๆซิ ว่าแต่คุณแม่เป็นอะไร "
ทิกเกอร์ถามออกไปอย่างเป็นห่วงทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาโดนคุณแม่หลอกมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เคยเห็นเรื่องสุขภาพของท่านเป็นเรื่องเล่นๆสักครั้ง เมื่อมีคนโทรมาบอกข่าวเขาก็รู้สึกเป็นห่วงทุกครั้งนั่นแหละ
" คราวนี้คุณแม่ป่วยกินแทบไม่ได้ อาการเหมือนคนตรอมใจนั่นแหละคงคิดถึงลูกชายมึงกลับมาเถอะสัก 2-3 วันก็ยังดี "
คาซาร์ที่ไม่รู้จะหาประโยคไหนบอกออกไปดี คนแบบเขาโกหกไม่เก่งเสียด้วยแต่แม่ก็ชอบให้เขาโกหกไอ้ทิกเกอร์อยู่เรื่อย
" เดี๋ยวกูจองตั๋วไปเย็นนี้เลย "
ทิกเกอร์บอกกับน้องชายแม้ว่าจะรู้สึกว่าตัวเองอาจจะโดนหลอกอีกแล้วแต่ไปหาท่านบ้างก็ดี เพราะนานมากแล้วจริงๆที่เขาไม่ได้กลับบ้านด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้ แค่วีดีโอคอลหาคุณพ่อกับคุณแม่คงไม่พอจริงๆนั่นแหละ
" มีเรื่องอะไรหรือเปล่าทิกเกอร์ "
ไมค์ถามออกไปอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อน
" กูต้องกลับบ้านด่วนว่ะ น้องชายกูบอกว่าแม่ไม่ค่อยสบาย กูฝากงานทางนี้มึงด้วยแล้วกัน ฝากด้วยนะซาร่า "
ทิกเกอร์ฝากงานไว้กับทั้งสองคนเพราะอยู่ที่แผนกเดียวกัน ส่วนตัวเขาต้องรีบกลับไปเก็บกระเป๋าพร้อมกับลางานอย่างกระทันหัน
" แต่อาทิตย์หน้ามึงจะได้เลื่อนตำแหน่งแล้วนะแล้วแบบนี้มึงจะมาทันหรอ ถ้ามึงไม่อยู่มึงจะถูกตัดสิทธิ์นะ "
" นั่นสิ เสียดายโอกาสอุตส่าห์ตั้งใจเพื่อตำแหน่งนี้มาตั้งนานจะทิ้งไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอทิกเกอร์ "
ไมค์ถามพร้อมกับซาร่าที่พูดเสริมกันเพราะรู้สึกเสียดายกับช่วงเวลา ตำแหน่งนี้กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนทิกเกอร์ได้แต่ทำหน้าลำบากใจ ทางนี้ก็สำคัญแต่แม่ของเขาสำคัญกว่า
" กูคงไม่ได้อยู่รับหรอก ถ้ากูไม่ได้เป็นศาสตราจารย์ที่นี่ก็ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ได้รักษาคนไข้อยู่ตำแหน่งไหนก็ได้ทั้งนั้น "
ทิกเกอร์บอกกับเพื่อนพร้อมกับลุกออกไปจากโต๊ะทันทีเพื่อไปเตรียมของ และในเวลาต่อมาเขาก็รีบบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงเมืองไทย เมื่อก้าวขาลงสู่ดินแดนบ้านเกิดความคิดมากมายในหัวก็ตีเข้ามาเต็มไปหมด ทั้งความหลังครั้งก่อนที่เขาไม่อาจลืมได้ลง ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากกลับมาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ได้ตกตะกอนความคิดของตัวเองว่าบางทีเขาไม่อาจหนีความจริงได้ตลอดไปและครอบครัวของเขาก็อยู่ที่นี่ ตำแหน่งที่เขาสละมาเพื่อมาดูแม่ของตัวเองเขาก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้เขาเป็นห่วงคุณแม่เหมือนฟ้ามากกว่า เขาเป็นหมอใครตรวจแม่ของเขาก็ไม่เท่ากับเขาตรวจด้วยตัวเอง
ทิกเกอร์กลับมาจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วนเนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่สบายหนัก โดยมีน้องชายอย่างคาซาร์มารับถึงสนามบิน
" คาซาร์อยู่ไหน พี่มาถึงแล้ว "
" เออๆ กำลังรีบไปรถติดอยู่ รออยู่นั่นแหละแป๊บเดียว "
" รีบๆหน่อยนะพี่เป็นห่วงคุณแม่ "
ทิกเกอร์บอกกับน้องชายซึ่งคาซาร์ก็รู้สึกลำบากใจเพราะเกิดมาก็ไม่เคยต้องโกหกบ่อยๆยกเว้นกับเจ้าพี่ชายตัวดีของเขานี่แหละ คนอย่างคาซาร์เกลียดคนโกหกเข้าไส้แต่ตอนนี้ตัวเขาเองกลับทำเสียนี่
