ทาสสวาทอสูรเถื่อน

256.0K · จบแล้ว
รินธารา
91
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“คืนละล้าน คุณจ่ายให้ฉันได้ไหมล่ะคะ ถ้าได้ฉันจะอ้าขารอคุณบนเตียงทุกคืนเลยค่ะทูนหัว” พิชชาภาพูดออกไปพร้อมกับใบหน้าท้าทายอย่างไม่กลัว ในเมื่อเขาอยากจะได้ตัวเธอ เขาก็ต้องลงทุน “แพงไปหรือเปล่า สำหรับค่าตัวของคุณอย่างมากก็คืนละแสน” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับมองร่างบางที่กำลังนั่งอยู่บนตักของเขาด้วยสายตาหื่นกระหาย เขายอมรับว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวยและที่สำคัญนมตูมชะมัดยาก มันโดนใจเขาจริงๆ ยิ่งสเต็ปการอ่อยของผู้หญิงคนนี้เขาก็ยิ่งชอบ เพราะมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอกำลังทำ “ถ้าคุณไม่สู้ก็ปล่อยฉันสิคะ ฉันจะได้ไปหาคนที่เขาใจถึงกว่าคุณ” พิชชาภาพูดจบก็เอามือยันหน้าอกของฟรานติโน่แล้วทำท่าจะลุกออกจากตักของเขา ก่อนจะถูกมือใหญ่รั้งเอวไว้ไม่ให้ลุกขึ้น “ได้ ผมจะให้คุณคืนละล้าน แต่คุณต้องตามใจผมทุกอย่าง” ฟรานติโน่พูดไปพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมเสียเงินหนึ่งล้านบาทง่ายๆงั้นเหรอ คอยดูเถอะเขาจะตักตวงจากเธอให้คุ้มสมราคาที่เขาต้องจ่ายไป ฟรานติโน่ สุริยสิงห์ อายุ 32 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี่ผู้เงียบขรึมที่ใครๆต่างก็รู้จักเขาในนามของ “เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์” จึงทำให้ชีวิตของเขามีแต่คนเข้าหาเพื่อหวังผลประโยชน์ไม่เว้นแต่แต่ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของเขา เขาจึงถนัดใช้”เงินแลกเซ็กส์” มากกว่าใช้ใจ แต่ผู้หญิงที่ชื่อพิชชาภากลับมาเจ้าเล่ห์คิดจะงัดข้อต่อรองราคากับเขา เขาก็จะสนองให้เธอจนคุ้มกับเงินที่เขาต้องเสียไป พิชชาภา นามไทสงค์ อายุ 22 ปี หลานสาวของเจ้าของอ่างอบนวดชื่อดังที่กำลังจะล้มละลาย ต้องหาเงินมาช่วยพยุงกิจการจนต้องใช้แผนอ่อยให้หนุ่มไฮโซกระเป๋าหนักที่ใครๆก็บอกว่าเขาจ่ายไม่อั้นแค่บริการเขาให้แซ่บถึงใจ เธอจึงลองเสี่ยงมอบความสาวที่เก็บไว้มานานให้กับเขาได้ลิ้มลอง และมันก็คุ้มค่าเมื่อเขายอมจ่ายให้เธอแบบจัดหนักจัดเต็มอย่างสมราคาที่เธอต้องใช้ความสาวแลกมันมา ………….

นิยายรักโรแมนติกประธานนางเอกเก่งมาเฟียเลือดร้อนเศรษฐีมีลูกโรแมนติกรักหวานๆ18+

1. ชอบก็อ่อย

ณ บริษัท เฟริส์เฮ้าท์ อินดัชเตอรี่กำจัด เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทยและเป็นบริษัทที่ผลิตและนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังหลายชนิดรวมไปถึงธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ตั้งตระง่าอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพที่มีความสูงถึงห้าสิบชั้น กำลังวุ่นวายกับการจัดงานต้อนรับรองผู้บริหารคนใหม่ โดยเหล่าพนักงานต่างพากันไปยืนเรียงแถวต้อนรับรองผู้บริหารอยู่ตรงทางเข้าจนสุดทางที่ลิฟต์ จากนั้นก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามาจอด พนักงานคนหนึ่งก็เดินเข้าไปเปิดประตูให้ ก็มีผู้ชายตัวสูงใหญ่ใส่ชุดสูทหรูหราก้าวลงมาจากรถพร้อมกับถอดแว่นตาออกอย่างสมาร์ท จนพนักงานผู้หญิงถึงกับอือฮากันเสียงดังเมื่อเห็นรองผู้บริการคนใหม่ มีหน้าตาหล่อเหลาคมคายราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน

“ยินดีต้อนรับนะครับคุณแฟรงก์ ไม่เจอกันหลายปียังหล่อเหมือนเดิมเลยนะครับ” ทีรวัตรทนายประจำตระกูลสุริยสิงห์เอ่ยพูดออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร พร้อมกับส่งมอบช่อดอกไม้ให้กับทายาทคนรองของของสุริยสิงห์

“ครับลุงวัตร ขอบคุณที่มาต้อนรับผมนะครับ บอกให้พนักงานกลับไปทำงานเถอะครับลุง เดี๋ยวผมจะขึ้นไปพบพี่ฟราน” แฟรงก์ตอบกลับไปอย่างขอบคุณ เพราะเขานั้นนับถือทีรวัตรเหมือนญาติคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่พ่อของเขาเสีย ก็ได้ลุงวัตรนี่แหละที่คอยช่วยแม่และพี่ชายของเขาบริหารงานบริษัท จนกระทั่งเขากลับมาเมืองไทย

“ครับคุณแฟรงก์ งั้นเชิญเลยครับ” ทีรวัตรเอ่ยพูดไปก็ยิ้ม พร้อมกับเดินนำพาเจ้านายคนใหม่ขึ้นไปยังชั้นของผู้บริหาร ตามคำสั่งของเจ้านายใหญ่ตัวจริงของสุริยสิงห์

พอทีรวัตรพาแฟรงค์มาจนถึงห้องทำงานของผู้บริหารก็เคาะประตูห้องก่อนจะพาเข้าไปด้านในห้องทำงาน ก็เจอกับเมทีลูกชายของเขา กำลังนั่งคุยอยู่กับฟรานติโน่อยู่

“มาแล้วเหรอ กว่าฉันจะลากคอแกกลับมาทำงานได้ เล่นเอาฉันเหนื่อยเลยนะ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดเล่นออกไป พร้อมกับมองไปที่น้องชายด้วยสายตาจดจ้องอย่างคาดโทษ เพราะน้องชายของเขาเรียนจบมาหลายปีแล้ว แต่กลับไม่ยอมกลับมาช่วยเขาทำงานที่นี่ เขาจึงสั่งให้ลูกน้องไปลากตัวมันกลับมาเพื่อช่วยเขาบริหารกิจการ

“โถ่เฮียฟราน ผมก็แค่อยากเที่ยวรอบโลกอ่ะ ถ้ากลับมาทำงานผมก็ไม่ได้ไปไหนแบบเฮียน่ะสิ ขอผมเที่ยวต่ออีกสักปีสองปีไม่ได้เหรอ” แฟรงก์เอ่ยพูดออกไปพร้อมกับเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว เพราะรู้ดีว่าพี่ชายก็แค่ขู่เขาเล่นๆ

“ไม่ได้ แกต้องกลับมารับผิดชอบสิ่งที่ป๊ารัก แกจะผิดสัญญาหรือไง ตอนนี้บริษัทเรากำลังไปได้ดี เพราะฉะนั้นแกก็ควรมาบริหารงานที่นี่กับฉันได้แล้ว อย่าเอาแต่เที่ยวไปวันๆ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดออกไป เพราะตั้งแต่พ่อเขาตายไปเมื่อหกปีก่อน เขาก็เรียนจบพอดี จากบริษัทที่เกือบจะล้มละลายเขาก็ทำให้มันกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลย เขาจึงอยากให้น้องชายมาเรียนรู้งานตั้งแต่ตอนนี้

“เออๆ เฮียจะให้ผมทำงานอะไรก็ว่ามาเลย น้องคนนี้พร้อมจะรับใช้แล้วครับ” แฟงก์เอ่ยพูดออกไป ก่อนจะทำหน้ากวนๆใส่พี่ชายออกไป สงสัยงานนี้เขาจะหนีไม่รอดซะแล้ว

“ฉันจะให้แกมาเป็นรองผู้บริหาร แล้วงานของแกหลักๆก็คือดูแลบริษัทเครื่องดื่มในเครือของเราทั้งหมด ฉันจะให้ลุงวัตรเป็นคนสอนแก ไปได้แล้วเห็นหน้าแกแล้วฉันรำคาญ” ฟรานติโน่เอ่ยพูดไปก็ถอนหายใจ เพราะไม่รู้ว่าน้องชายของเขาจะได้เรื่องแค่ไหน

“ครับๆ มาวันแรกก็ได้ลุยงานเลย ดีจริงๆเนอะ” แฟรงค์พูดไปก็ยิ้มแห้ง ก่อนจะหันไปหาผู้เป็นลุง แล้วเอ่ยพูดไป

“ไปเถอะครับลุง ปล่อยให้เฮียเขาอยู่กับงาน เอ้ย อยู่กับพี่ทีดีกว่าครับ” แฟรงก์พูดออกไปอย่างแกล้งๆ เพราะพี่ชายของเขาจริงจังกับงาน จนแทบจะไม่สนใจอะไรแม้กระทั่งผู้หญิง ดีนะที่พี่ทียังหาสาวๆมาให้พี่ชายของเขาได้ปลดปล่อยบ้าง ไม่งั้นเขาคงคิดว่าพี่ชายของเขาเป็นเกย์แน่ๆ

“บ่ายนี้ฉันมีงานอะไรอีกไหมเมที” ฟรานติโน่เอ่ยถามออกไปพร้อมกับเอนตัวไปด้านหลังอย่างสบายๆ ก่อนจะอ่านรายงานการประชุมที่เข้าจะต้องเข้าร่วมในวันพรุ่งนี้

“วันนี้คุณฟรานต้องไปเป็นวิทยากรให้นักศึกษาฝึกงานของคุณพายครับ” เมทีเอ่ยบอกไป เพราะเพื่อนของฟรานติโน่ นั่นก็คือพระพายขอเชิญฟรานติโน่ไปเป็นวิทยากรแนะแนวเด็กๆที่กำลังจะเรียนจบ

“ผัวเมียคู่นี้มันไม่ยอมลงทุนเลยจริงๆ ฉันไม่น่าพลาดไปรับปากไอ้คินกับพายเลย” ฟรานติโน่เอ่ยบ่นออกไป เพราะพระพายเคยมาขอร้องเขาแล้วครั้งนึง จนเมื่ออาทิตย์ก่อนพระพายเล่นพาไอ้คินซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเขามาขอร้องเขาด้วย เขาจึงปฎิเสธไม่ได้

“แค่ครั้งเดียวแหละครับคุณฟราน ดีซะอีก เจอเด็กสาวเอาะๆ คุณฟรานจะได้เปลี่ยนสไตล์มาลองเด็กๆไงครับ” เมทีเอ่ยแซวออกไปอย่างขำๆ เพราะเขาเห็นภรรยาของนาคินเพื่อนสนิทของฟรานติโน่ มาเชิญเขาหลายครั้งแล้วฟรานติโน่ก็ไม่ยอมไปสักครั้ง จนกระทั่งเจอนาคินเอ่ยขอมานายของเขาจึงปฎิเสธไม่ได้

“ฉันไม่ชอบกินเด็ก แล้วนายก็หุปปากไปซะ” ฟรานติน่พูดออกไปแล้วชักสีหน้าใส่เมทีไป เพราะเขาชอบมีเซ็กส์ดิบเถื่อนเด็กสาวที่ด้อยประสบการณ์มักจะไปไม่รอดทุกที เขาก็เลยเลือกที่จะกินสาวๆที่เจนจัดมากว่า

“ครับๆ” เมทีบอกไปก็ยิ้มขำๆกับเจ้านายตัวเอง เพราะจริงแล้วฟรานติโน่มีด้านมืดที่หลายๆคนไม่เคยรู้ เวลาเขาหาเด็กมาให้ฟรานติโน่ปลอดปล่อยแต่ละครั้ง เขาต้องหาคนที่ทนไม้ทนมือของฟรานติโน่ได้ แน่ล่ะเด็กสาววัยรุ่นจะไปทนคนเซ็กส์จัดแบบเจ้านายเขาได้ยังไงกัน

ณ บ้านของโจเซฟเซเบอรัส เจ้าของธุรกิจนวดแผนโบราณที่กำลังจะล้มลายในไม่ช้าก็กำลังนั่งเครียดอยู่กับพิริมาภรรยาคนสวยของเขา เพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินไปใช้หนี้ให้กับเสี่ยกำธร ซึ่งเป็นเศรษฐีเจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่

“อย่าเครียดไปเลยนะคะคุณ พิมว่ายังไงเราก็ต้องหาทางออกจนได้” พิริมาเอ่ยปลอบใจสามีออกไปอย่างเห็นใจ เพราะเธอก็ไม่รู้จะช่วยสามีเธออย่างไร

ด้านสาวสวยหน้าหวานอย่างพิชชาภา นามไทสงค์ หลานสาวของพิริมากำลังจะเดินผ่านห้องนั่งเล่นเพื่อออกไปเรียนหนังสือก็ต้องหยุดอยู่ที่ขอบประตูห้องนั่งเล่น เพื่อแอบฟังน้าทั้งสองของเธอคุยกัน เพราะทั้งสองจะต้องมีปัญหาอะไรกันอยู่แน่ น้าสาวของเธอถึงพูดแบบนั้นออกมา

“มีเรื่องอะไรนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดเบาๆอย่างสงสัย ก่อนจะตั้งใจแอบฟังน้าทั้งสองของเธอพูดคุยกัน

“จะไม่ให้ผมเครียดได้ยังไง เงินตั้งสิบล้าน ผมจะไปหามันมาจากไหน ไอ้เสี่ยกำธรมันก็เจ้าเล่ห์มันคิดจะเอาลูกสาวเราไปขัดดอกกับมัน” โจเซฟเอ่ยพูดออกไปด้วยเสียงเข้ม เขาจะไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวของเขาไปลงนรกแบบนั้นเด็ดขาด

“พิมก็ไม่ยอมค่ะ พิมจะไม่ยอมให้ยัยพลอยหรือยัยพิชไปเป็นเมียไอ้เฒ่านั่นเด็ดขาด” พิริมาเอ่ยบอกออกไปอย่างไม่ยอม เพราะเธอจะไม่ส่งลูกสาวหรือหลานสาวของเธอไปให้ไอ้แก่ตัณหากลับนั่นเด็ดขาด

“ผมว่าถ้าเราไม่มีเงินคืนมันจริงๆ ผมจะปล่อยให้มันยึดร้านของเราไป” โจเซฟพูดออกมาเสียงเศร้า เพราะเขาก็จนปัญญาจะหาเงินมาชดใช้ให้เสี่ยกำธรแล้ว

“เหลือเวลาอีกตั้งสองอาทิตย์ เราค่อยๆคิดกันไปก่อนนะคะคุณ” พิริมาบอกสามีออกไป ก็คิดในใจอย่างเสียดาย เพราะเธอเปิดร้านนี้มาสิบกว่าปีแล้ว

“เรื่องนี้อย่างให้เด็กสองคนนั้นรู้นะ ผมไม่อยากให้พวกแกมาเครียดกับเรา” โจเซฟเอ่ยบอกไปเสียงเศร้า เขาไม่อยากให้ลูกกับหลานสาวต้องมารับรู้เรื่องนี้ พิชชาภาถึงจะเป็นสาวสาวของพิริมาแต่เขาก็เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะเขาก็รักพิชชาภาดังลูกคนหนึ่งของเขาเอง เขาจึงไม่คิดที่จะส่งพิชชาภาให้กับเสี่ยกำธร

พิชชาภาที่ยืนฟังอยู่ก็อึ้ง เพราะที่ผ่านมาร้านนวดก็ไปได้ดีมาตลอดเพราะเวลาที่เธอไปที่ร้านเธอก็เห็นมีลูกค้าเสมอ แต่ทำไมน้าโจถึงไปติดหนี้เสี่ยกำธรเยอะขนาดนั้นกัน แล้วถ้าปิดร้านจริงๆน้าทั้งสองของเธอจะทำยังไง ไหนจะยัยพลอยที่กำลังจะเข้าเรียนมหาลัยอีก เธอจะต้องหาทางช่วยน้าของเธอให้ได้ เพราะท่านทั้งสองก็เป็นเหมือนพ่อกับแม่ของเธอ เธอจะไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่ท่านรักต้องกลายเป้นของคนอื่นแน่ คิดได้ดังนั้นพิชชาภาก็เดินออกไปทันที

พอมาถึงมหาวิทยาลัยพิชชาภาก็มานั่งอยู่กับปัทมาและนภัทรที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอมาตั้งแต่มอปลาย เธอก็นั่งเงียบจนเพื่อนทั้งสองเอ่ยถามเธออย่างสงสัย

“นี่แกเป็นอะไรรึเปล่าอ่ะพิช นั่งเงียบเชียว” ปัทมาเอ่ยถามเพื่อสาวที่นั่งตรงข้ามเธออย่างสงสัย เพราะปกติพิชชาภาจะเนคนช่างพูด ไม่ใช่นั่งเงียบแบบนี้

“เออใช่ แกมีเรื่องอะไรรึเปล่าพิช” นภัทรซึ่งเป็นเกย์แอ๊บแมนเอ่ยถามเพื่อนสาวออกไปอย่างเป็นห่วง

“ร้านน้าพิมกำลังจะเจ้งน่ะสิแก แล้วน้าโจก็ไปติดหนี้เสี่ยกำธรตั้งสิบล้าน ฉันก็เลยไม่รู้จะช่วยน้าฉันหาเงินที่ไหนมาจ่ายให้เสี่ยนั่น แล้วนี่ไอ้เสี่ยกำธรยังจะมาเสนอให้น้าฉันส่งฉันหรือยัยพลอยไปเป็นเมียน้อยมัน ดีนะที่น้าฉันไม่ยอมส่งฉันกับยัยพลอยไป ไม่งั้นฉันคงโดดน้ำตายไปแล้ว” พิชชาภาเอ่ยพูดบอกไปพร้อมกับสีหน้าเศร้า เพราะเธอไม่รู้จะทำยังไงให้หาเงินได้เยอะขนาดนั้นในเวลารวดเร็ว

“เห้ย สิบล้านเลยเหรอ เยอะขนาดนั้นจะไปหาทันได้ยังไง ไอ้เสี่ยนั่นก็ตัณหากลับจริงๆ” ปัทมาเอ่ยพูดย่างตกใจ เพราะสิบล้านมันเยอะมากจริงๆสำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเธอ

“ก็นั่นแหละ ฉันถึงมานั่งกลุ้มอยู่นี่ไง” พิชชาภาพูดไปก็เอามือท้าวคางอย่างท้อๆ เพราะคิดหาทางที่จะหาเงินไม่ได้

“ถ้าต้องไปเป็นเมียน้อยไอ้เสี่ยนั่น ฉันว่าแกไปขายตัวให้ไฮโซหล่อๆรวยๆยังจะง่ายกว่าอีก” นภัทรเอ่ยพูดไปอย่างไม่คิด แต่มันทำให้พิชชาภาตาโตทันที

“ปากหมาจริงๆนะอีต้น เพื่อนกำลังเครียดอยู่นะยังจะมาพูดเล่นอีก” ปัทมาพูดไปก็เอื้อมมือไปตีแขนของเพื่อนหนุ่มอย่างอดไม่ได้

“อ่าว ยัยแป้ง แล้วแกคิดว่ามันจะมีวิธีไหนที่จะหาเงินตั้งมากมายขนาดนั้นได้ล่ะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องนอนกับเสี่ยแก่ๆ ” นภัทรเอ่ยพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้คิดจะสนับสนุนเพื่อนสาวให้ทำแบบนี้

“พวกแกไม่ต้องทะเลาะกันหรอก วันนี้เรามีอบรมก่อนไปฝึกงานไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะเดี๋ยวก็สายหรอก” พิชชาภาเอ่ยตัดบทไป เพราะไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองต้องมาถียงกันเพราะเธอ แต่สิ่งที่นภัทรพูดมันก็ทำให้เธอสนใจมาก แต่มันติดที่ว่าเธอจะไปหาไฮโซที่ไหนที่จะมาสนใจเด็กธรรมดาๆแบบเธอกัน

“เออใช่ วันนี้ฉันจะได้เจอเทพบุตรของฉันแล้วในที่สุดฉันก็จะเจอตัวจริงๆของคุณฟรานติโน่เขาสักที” นภัทรพูดออกไปก็ทำหน้าเพ้อฝันอย่างหื่

“นี่อีต้น แอ๊บแมนอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ออกสาวแบบนี้ฉันไม่เป็นแฟนแกแล้วนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดออกไป เพราะตั้งแต่เรียนปีหนึ่งมาเธอก็แกล้งเป็นแฟนของนภัทรมาตลอด จนใครๆไม่สงสัยในตัวนภัทรแม้กระทั่งพ่อของนภัทรที่เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยนี้ด้วย

“มันลืมตัวอ่ะแก ถ้าพวกแกเห็นคุณฟรานติโน่ของฉันนะ รับรองจิ๋มพวกแกสั่นสู้แน่ย่ะ หล่อ รวย เฟอร์เฟค พ่อของลูกชัดๆ” นภัทรพูดไปก็ทำหน้าเคลิ้มจนปัทมาและพิชชาภาส่าหน้าระอากับความแรดของเพื่อนหนุ่มที่ดูจะดี้ด้าออกนอกหน้า

“อาการหนักนะแกเนี่ย ไปลุกได้แล้ว จะไปดูพ่อของลูกไม่ใช่เหรอจ๊ะ อีกครึ่งชั่วโมงเขาจะอบรมแล้ว รีบไปสิคะ” ปัทมาพูดบอกไปพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวพวกแกไปก่อนเลยนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน จองที่ให้ฉันด้วยนะ” พิชชาภาเอ่ยพูดออกไปก็ลุกขึ้นตามเพื่อนทั้งสองคน

“อุ๊ป สั้นเสมอหูได้อีกนะย่ะหล่อน” นภัทรเอ่ยแขวะพิชชาภาเบาๆ เพราะเขามาทีหลังจึงไม่เห็นว่าพิชชาภานั้นใส่ทรงเอสั้นมาในวันนี้

“ก็อยากเชคเรตติ้งบ้างอ่ะ ผู้ชายคนอื่นเขาจะได้อิจฉาแกไงที่มีแฟนสวย แล้วก็แซ่บน่าฟัดขนาดนี้” พิชชาภาพูดไปก็เอามือเท้าเอวแล้วทำท่าท่างเซ็กซี่เหมือนโพสต์ท่าถ่ายแบบ

“เรื่องแซ่บฉันว่าไม่ แต่เรื่องแรดนี่ฉันว่าจริง ฮ่าๆ” ปัทมาเอ่ยพูดไปก็หัวเราะใส่พิชชาภาร่วมกับนภัทรอย่างขำๆ เพราะปกติพิชชาภานั้นก็เป็นสาวฮอตที่มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะ จึงมีหนุ่มๆมาคอยตามจีบจนต้องแกล้งเป็นแฟนนภัทรเพราะไม่อยากจะมีแฟน แต่ก็ไม่วายมีหนุ่มๆมาแอบจีบเธอจนได้ แต่เพื่อนสาวของเธอก็เล่นๆไปไม่จริงจังกับใคร ขนาดพี่ชายเธอที่เป็นสารวัตรมาจีบเพื่อนของเธอยังไม่สนเลย ไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอจะเลือกเยอะไปไหน

“ยัยแป้งไอ้ต้น เดี๋ยวเหอะ แกสองคนรีบไปเลยไป ฉันจะไปเข้าห้องน้ำแล้ว” พิชชาภาเอ่ยบอกไปก็โบกมือใส่ปัทมาและนภัร ก่อนจะเดินออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่หลังตึก

ด้านฟรานติโน่ก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยที่ภรรยาของของเพื่อนสนิทเขาสอนอยู่ก็ถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะก้าวลงรถไปเมื่อลูกน้องมาเปิดประตูรถให้ ก่อนจะเดินตามเข้าไปในตึกพร้อมกับเมทีที่ตามมาด้วย

“สาวๆมองใหญ่เลยนะครับ ไม่สนสักคนเหรอครับคุณฟรานเดี๋ยวผมจะไปติดต่อให้” เมทีเอ่ยถามออกไป เพราะตั้งแต่เขาเดินเข้ามาสาวๆนักศึกษาพากันมองเจ้านายของเขาแล้วกร๊ดกร๊าดกันอย่างดี้ด้า แถมบางคนยังยิ้มอ่อยมาอย่างเปิดเผยเลยด้วยซ้ำ

“หุบปากแล้วรีบเดินเมที ฉันเบื่อสายตาพวกนี้เต็มที” ฟรานติโน่เอ่ยพูดบอกไป เพราะใครๆก็อยากเข้าหาเขากันทั้งนั้น ถ้าไม่เพราะเขาหล่อก็เพราะอยากจะได้เงินจากเขา จนเขาคิดว่าชาตินี้เขาคงหาผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขาไม่ได้แล้ว ขนาดปาลมีที่เป็นคู่หมั้นของเขา เขายังไม่เคยสนใจเธอเลยด้วยซ้ำและไม่เคยคิดว่าผู้หญิงแบบนั้น จะมาเป็นแม่ของลูกเขาเลยสักนิด

“อ่าวคุณฟราน มาแล้วเหรอคะ เดี๋ยวไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ ยังไม่ถึงเวลาเลยค่ะ” พระพายเดินมารับฟรานติโน ก่อนจะเอ่ยเชิญเขาให้ตามเธอไปที่ห้องรับรองของคณะ

“แล้วพายจะให้ผมแนะนำอะไรกับเด็กๆ” ฟรานติโน่เอ่ยถามออกไปอย่างสนิทสนม เพราะพระพายเป็นภรรยาของเพื่อนสนิทของเขา เขาจึงรู้จักพระพายมานานหลายปีแล้ว

“ก็แนะนำเกี่ยวกับแนวคิด แล้วก็เรื่องการออกแบบตึกอะไรพวกนี้อ่ะค่ะ เพราะเด็กส่วนใหญ่เรียนออกแบบทั้งนั้นค่ะ จะมีแค่ไม่กี่สิบคนที่เรียนการออกแบบแฟชั่น แต่รับรองว่าไม่เป็นปัญหหาแน่นอนค่ะ เพราะเด็กของพายคงเข้าใจในสิ่งที่คุณจะสอนพวกเขาแน่นอนค่ะ” พระพายเอ่ยพูดไปก็ยิ้มให้ฟรานติโน่ ขณะพาเขาเดินไปที่ห้องรับแขก

พอเดินไปตรงมุมตึกพิชชาภาที่กำลังออกมาจากห้องน้ำก็รีบเดินไปที่ห้องอบรมเนื่อจากใกล้ถึงเวลาแล้ว จนถึงมุมตึกเธอก็เดินเลี้ยวไปแต่ก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่จนล้มไปด้วยกัน

“ตุ๊บ” ฟรานติโน่ที่เดินตามพระพายไปก็มีคนเข้ามาชนเข้าอย่างจังจนล้มไป แต่เขาก็โอบกอดไว้ตามสัญชาตญาณเมื่อรู้ว่าคนที่ชนเขาเป็นผู้หญิง ก่อนจะมองว่าใครกันที่มาชนเขา ฟรานติโน่มองหน้าเด็กสาวที่เดินมาชนเขาด้วยสายตาอึ้งๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว เธอมีหน้ารูปไข่ ตาโต ปากก็จิ้มลิ้มน่าจูบเป็นบ้า

ด้านพิชชาพาที่หลับตาปี๋เพราะกลัวจะล้มลงไปจะเจ็บ แต่พอรุ้ว่าเธอล้มบนตัวใครสักนก็ลืมตาขึ้นมองอย่างอึ้งๆ เพราะผู้ชายที่เธอล้มใส่เป็นฝรั่งที่หน้าหล่อมาก ตาสีฟ้าน้ำทะเล โอ้แม่เจ้า พ่อของลูกชัดๆ พิชชาภามองสบตากับหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อาจละสายตาได้ ยิ่งเขามองเธอแบบนี้มันก็ยิ่งละสายตาไปจากเขาไม่ได้

“พิชชาภา เธอนี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ ลุกไหวไหมนั่น” พระพายที่เห็นลูกศิษย์ของตัวเองล้มใส่ฟรานติโน่ก็ต่อว่าออกไปเบาๆ พร้อมกับนั่งยองๆไปช่วยเด็กสาวให้ลุกขึ้น

“อ่อ ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” พิชชาภาได้สติก็รีบลุกขึ้น เธอจึงเอามือยันหน้าอกของชายตรงหน้าให้ตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะมองสบตากับเขาอย่างอายๆ เพราะตอนนี้ก้นของเธอมันเบียดกับเจ้านั่นของเขาแบบจังๆ จนเธอรับรู้ได้ว่าเจ้านั่นของเขามันใหญ่เอาการเลยทีเดียว พิชชาภาบดก้นใส่ท่อนเอ็นของเขาอย่างไม่ตั้งใจเพราะเธอใส่ทรงเอสั้นมากเธอจึงต้องถอยตัวไปเพื่อให้ท้าวของเธอถึงพื้นก่อนลุกออกจากตัวของชายตรงหน้าได้เมื่อมีอาจารย์ของเธอช่วยพยุงเธอขึ้นมา

“เป็นอะไรไหมครับคุณฟราน” เมทีเข้าไปช่วยเจ้านายของตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนจะดูความเรียบร้อยให้เจ้านายอย่างเป็นห่วง

“ฉันไม่เป็นไร” ฟรานติโน่พูดกับเมที แต่สายตาของเขาก็มองเด็กสาวคนนี้ไม่คาดสายตา เพราะเด็กคนนี้เล่นบดก้นใส่น้องชายของเขาจนมันเริ่มจะตอบสนองขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจมาอ่อยเขาหรือว่ามันเป็นอุบัติเหตุกันแน่ ฟรานติโน่คิดไปก็มองเด็กสาวอย่างสำรวจ ก็เห็นเสื้อที่เธอใส่รัดตัวจนเห็นสัดส่วนและขนาดหน้าอกหน้าใจที่ดูจะใหญ่พอดีตัว และกระโปรงที่สั้นจนเห็นเนินขาอ่อนขาวๆ ฟรานติโน่มองสำรวจจนพิชชาภาที่มองเขาอยู่ถึงกลับตัวเกร็ง เพราะไม่เคยมีใครมองเธอแบบนี้จังๆมาก่อน ไม่รู้จะมองหรือจะกินเธอกันแน่ น่ากลัวจริงๆผู้ชายคนนี้