บท
ตั้งค่า

บทที่4 ปลื้มใจ

วันต่อมา

มุกตื่นแต่เช้าจัดเตรียมทำอาหารเช้าให้น้องชายและตนเองเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกวันนอกจากจะทำข้าวไข่เจียวแล้ว เธอยังตั้งใจเตรียมอีกเมนูหนึ่งให้ภพเจ้านายหนุ่มคนใหม่ด้วย โดยเธอเลือกทำเมนูง่ายๆ คือข้าวผัดแหนมใส่ไข่พร้อมน้ำชุปรสชาติกลมกล่อม มันอาจจะเป็นแค่เมนูธรรมดาๆ ทั่วไป แต่สำหรับเธอกับน้องชายนั้นถือว่าเป็นเมนูพิเศษและอร่อยมาก และเธอหวังว่าเจ้านายหนุ่มจะชอบเหมือนกัน

“มาแล้วจ้า” มุกยกจานข้าวไข่เจียววางลงตรงหน้าน้องชาย

“น่ากินจังครับ”

“น่ากิน ก็กินเยอะๆ นะจะได้โตเร็วๆ “

“ครับ” มิครับคำพร้อมกับลงมือตักอาหารเข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย

ระหว่างที่ทั้งสองพี่น้องกำลังนั่งทานข้าวไข่เจียวคนละจานอย่างเอร็ดอร่อย มิคก็เหลือบไปมองกล่องใส่อาหารที่มุกนำมาวางลงบนโต๊ะด้วยความสงสัย

“นั่นกล่องข้าวเที่ยงพี่เหรอครับ”

“เปล่าจ้ะ พี่ทำไปให้เพื่อนที่ทำงานน่ะ” มุกพูดพลางยิ้มมุมปาก

“ข้าวผัดแหนมใช่ไหมครับ”

“ใช่จ้ะ ถ้ามิคอยากกินเดี๋ยวตอนเย็นพี่จะทำให้กินเอาไหม“

“ไม่ครับ มิคอยากกินอย่างอื่นบ้าง”

“เบื่อแล้วเหรอ”

“เปล่าครับ มิคแค่อยากเปลี่ยนบ้าง”

“ได้สิ พี่จะทำอย่างอื่นให้กินก็แล้วกัน”

“ครับ ดีจังเลย พี่ไปทำงานแค่วันเดียวก็มีเพื่อนแล้ว”

“เป็นธรรมดาอยู่แล้วล่ะจ้ะ แต่จะเจอเพื่อนที่ดีหรือจริงใจจริงๆ นั้น ก็ต้องดูกันไปยาวๆ มิคก็เหมือนกันนะจะคบเพื่อนก็ต้องดูให้ดี จะได้ไม่พากันเหลวไหลเข้าใจไหม”

“ครับพี่” มิคส่งยิ้มให้พี่สาว

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จทั้งสองคนพี่น้องก็พากันไปยืนรอรถอยู่ตรงป้ายรถเมล์ ในทุกๆ วันมุกกับมิคจะขึ้นรถเมล์สายเดียวกัน เพราะโรงเรียนกับที่ทำงานไปทางเดียวกันแต่โรงเรียนจะถึงก่อนถัดไปก็เป็นบริษัทใหม่ที่เธอเพิ่งไปทำงาน สองคนพี่น้องยืนรอรถผ่านไปประมาณห้านาที แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ารถจะมา จนอยู่ๆ ก็มีรถเบนซ์คันสีดำมันเงามาจอดเทียบข้างฟุตบาตตรงหน้าคนทั้งคู่พร้อมกับลดกระจกลง

“จะไปทำงานใช่ไหม” เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยขึ้นทันทีที่กระจกถูกลดลงเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม

“คุณภพ!” มุกตกใจเบิกตากว้าง

“ใช่ ผมเอง ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย”

“มุกไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี้ค่ะ”

“พอดีผมผ่านมาน่ะ เห็นคุณก็เลยจอด ขึ้นมาสิ”

“จะดีเหรอคะ พอดีน้องชายมุกจะต้องไปโรงเรียนค่ะ “

“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ฉันจะไปส่งเอง ถ้าช้ากว่านี้อาจจะสายได้นะ” ภพมองหน้าสองพี่น้องสลับกันไปมา

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มุกส่งยิ้มให้ภพด้วยความดีใจ

มุกเลือกที่จะนั่งข้างหน้าเคียงข้างชายหนุ่มมิคจึงเดินไปนั่งตรงเบาะทางด้านหลัง ระหว่างทางที่รถแล่นไปข้างหน้ามุกก็หันไปลอบมองใบหน้าเจ้านายหนุ่มอยู่เป็นระยะด้วยความปลื้มปริ่มในใจ เพราะไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้นั่งรถกับชายหนุ่มแบบนี้ส่วนมิคที่นั่งอยู่ข้างหลังก็กำลังกวาดสายตามองสำรวจไปทั่วภายในรถด้วยความตื่นเต้น

เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีรถคันหรูก็แล่นไปจอดหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง มิคจึงลงจากรถไม่ลืมที่จะไหว้ขอบคุณภพที่มาส่งและโบกมือให้พี่สาวด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

“น้องคุณเรียนอยู่ชั้นอะไรเหรอ” ภพเอ่ยทำลายความเงียบพลางขับรถแล่นออกไป

“ชั้น ม.3 ค่ะ”

“คุณมีน้องชายแค่คนเดียวเองเหรอ มีพี่มีน้องอีกไหม”

“ไม่มีค่ะ มุกกับมิคมีกันแค่สองคนมานานแล้ว”  มุกเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

“หมายความว่ายังไง “ ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน

“มุกกับน้องเป็นเด็กกำพร้าค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่เสียไปด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราสองคนก็เลยโตมาในบ้านเด็กกำพร้าค่ะ”

“ผมเสียใจด้วยนะ”

“ขอบคุณค่ะ” มุกยิ้มรับ

ไม่นานรถคันหรูก็แล่นเข้าไปจอดตรงลานจอดรถใต้ตึกของบริษัท ก่อนที่มุกจะเปิดประตูออกจากรถเธอก็สังเกตเห็นภพเอื้อมมือไปหยิบกล้องถ่ายภาพราคาแพงตรงเบาะหลังคล้องคอลงไปด้วย

“ขอบคุณมากนะคะ ที่ใจดีรับมุกติดรถมาด้วย” มุกรีบเดินอ้อมรถเข้าไปหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม

“ไม่เป็นไร” พูดจบก็หมุนตัวจะเดินเข้าไปในตึก

“คุณภพ เดี๋ยวก่อนค่ะ” มุกรีบเอ่ยเรียกชายหนุ่มเอาไว้

“มีอะไร” ภพหันไปมองใบหน้าเนียนด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อยเพราะเขาดูออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรกับเขาอยู่

“นี่ค่ะ ข้าวผัดแหนม มุกตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะคะ “ มือบางยื่นถุงผ้าใส่กล่องข้าวไปตรงหน้าชายหนุ่ม

“ขอบใจ” ภพรับมาถือไว้อย่างเสียไม่ได้

“ทานให้อร่อยนะคะ หวังว่าคุณจะชอบ” มุกส่งยิ้มหวานไปให้เจ้านายหนุ่ม

“อืม ผมขอตัวนะ” พูดจบภพก็เดินหายเข้าไปข้างในตึกทันที

มุกยืนมองแผ่นหลังกว้างกำยำหายลับตาไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้ารู้สึกปลาบปลื้มภายในหัวใจเธอชอบเจ้านายเข้าแล้วสิ ยิ่งชายหนุ่มเป็นกันเองกับเธอ เธอก็ยิ่งปลื้มในตัวชายหนุ่มมากขึ้น

ภพหิ้วถุงผ้าไปวางลงบนโต๊ะทำงานนั่งลงนำกล่องข้าวผัดแหนมออกมา พร้อมกับถุงน้ำซุปร้อนๆ ภพนั่งมองอยู่อย่างนั้นสักครู่ก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบถ้วยใบเล็กแกะเทน้ำซุปใส่ลงไป ระหว่างนั้นก็นึกถึงหน้ามุกไปด้วยแล้วส่ายหน้าเบาๆ ให้กับหญิงสาว เขาดูออกว่าเธอพยายามจะเข้าหาเขาไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงทั่วไปที่เคยเจอมา

กลิ่นน้ำซุปร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมชวนชิมให้ลิ้มลองรสชาติจนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวรีบแกะเปิดฝากล่องข้าวผัดออก พอฝากล่องเปิดออกกลิ่นของข้าวผัดแหนมก็โชยตีขึ้นจมูกชายหนุ่มทันที ภพไม่รอช้าตักข้าวผัดแหนมเข้าปากแล้วตามด้วยน้ำซุปลิ้มรสชาติด้วยความเอร็ดอร่อย

“ไม่น่าเชื่อ ว่าข้าวผัดหน้าตาธรรมดาทั่วไปจะอร่อยได้ถึงขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ “ ภพพูดพลางเคี้ยวข้าวเต็มปาก

ณ แผนกบัญชีทันทีที่ทิพเห็นมุกเดินเข้ามาในแผนกก็รีบเดินปรี่เข้าไปหาเธอทันควัน

“มุกเธอทำให้อะไรให้คุณภพเขาทานเหรอ ขอฉันดูหน่อยสิ” ทิพก้มลงมองมือมุกแต่กลับว่างเปล่า มีแต่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ เท่านั้น

“ข้าวผัดแหนมกับน้ำซุปจ้ะ”

“เหรอ แล้วไหนล่ะ” ทิพขมวดคิ้วเข้าหากัน

“เอาให้คุณภพเขาไปแล้วล่ะ”

“คุณภพมาแล้วเหรอ”

“จ้ะ พอดีคุณภพเขารับมุกติดรถมาด้วยน่ะ มุกก็เลยเอาให้เขาตรงลานจอดรถเลย”

“จริงเหรอ มุกเธอนี้มันโชคดีจังเลย น่าอิจฉาจัง”

“มันก็แค่บังเอิญน่ะ ถ้าเป็นคนอื่นคุณภพก็คงจะช่วยเหลือเหมือนกัน”

“นั่นสิ คุณภพเขาคงไม่มามองคนระดับพวกเราหรอก อย่างเขามันต้องระดับไฮโซดารานางแบบอะไรพวกนั้นแหละ มันถึงจะเหมาะ อย่างพวกเราคงจะได้แต่ฝันกลางวัน ไปทำงานกันเถอะ”

มุกพาตนเองไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของตนเองด้วยใบหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย เมื่อคิดตามคำพูดของทิพกับท่าทางของภพที่เฉยเมยต่อเธอ แต่จะให้ทำยังไงได้ก็เธอชอบชายหนุ่มไปแล้ว

เวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงบ่ายหลังจากที่มุกทานมื้อเที่ยงเสร็จ เธอก็หาเวลาปลีกตัวจากแผนกบัญชีตรงไปยังสตูดิโอถ่ายทำโฆษณาที่ภพกำลังทำงานอยู่ ร่างสาวบอบบางยืนแอบมองชายหนุ่มอยู่ทางด้านหลังทีมงานตรงมุมหนึ่งของห้องไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่ยืนรัวซัตเตอร์ถ่ายซินดี้ภาพนางแบบสาวสวยตรงหน้าด้วยความคล่องแคล่ว

“ผู้ชายอะไร ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็หล่อไปหมด “ มุกนึกคิดอยู่ในใจ

มุกยืนแอบมองชายหนุ่มอยู่อย่างนั้นสักพัก จนเห็นชายหนุ่มเดินออกไปทางประตูเธอจึงรีบเดินตามร่างหนาออกไปติดๆ

“คุณภพค่ะ”

“เธออีกแล้วเหรอ” ภพหันไปตามเสียงด้วยความหงุดหงิด มุกแอบตกใจเล็กน้อยที่ชายหนุ่มเรียกเธอด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไป

“คือ มุกจะถามว่าข้าวผัดแหนมพอจะอร่อยถูกปากของคุณไหมคะ”

“ก็อร่อยดี แต่คราวหลังไม่ต้อง เธอคงจะเข้าใจ”

“ค่ะ” ก้มหน้ารับคำด้วยความผิดหวัง

“ภพขา” ซินดี้เดินเข้าไปควงแขนบดเบียดหน้าอกอวบโตเข้าหาชายหนุ่มแนบแน่น

“มีอะไรหรือเปล่าซินดี้”

“คุณจะไปไหนเหรอคะ”

“ผมจะไปเข้าห้องน้ำน่ะ ขอตัวนะ” ภพรีบผละออกจากหญิงสาวแล้วเดินออกไปทันที

มุกยืนมองแผ่นหลังของเจ้านายหนุ่มกับนางแบบสาวสลับกันไปมาแล้วเดินตรงไปยังแผนกบัญชีช้าๆ

“มุกมาพอดีเลย พี่บุษมีงานให้ทำวางอยู่บนโต๊ะน่ะ” ทิพเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินกลับเข้ามา

“จ้ะ” มุกรับคำพลางไปนั่งลงที่โต๊ะ

“ว่าแต่คุณภพเขาชอบข้าวผัดที่มุกทำให้ไหม” ทิพถามด้วยความอยากรู้

“คุณภพเขาบอกว่าอร่อยดี” มุกส่งยิ้มให้ทิพ

“เหรอ งั้นเธอต่อไปเธอคงจะได้ทำให้เขาทานบ่อยๆ สินะ”

“ไม่แล้วล่ะ “ มุกส่ายหน้า

“ทำไมล่ะ เขาชอบไม่ใช่เหรอ”

“คุณภพเขาบอกว่าไม่ต้องทำแล้ว”

“งั้นเหรอ” ทิพเอ่ยแค่นั้นก็พอจะเดาออกว่าอะไรเป็นอะไร

เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงานระหว่างที่มุกเดินจะออกไปทางประตูชั้นหนึ่ง ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ภพกำลังเดินควงซินดี้ที่มาถ่ายโฆษณาเมื่อตอนกลางวันเดินผ่านประตูออกไปพอดี

“มุกจ๊ะ”

“___” มุกยืนนิ่งมองชายหญิงสองคนเดินไปจนลับตาด้วยความห่อเหี่ยวใจไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

“มุก!” พิศเรียกหญิงสาวตรงหน้าย้ำอีกครั้ง

“ค่ะ” มุกหันไปตามเสียงด้วยความตกใจ

“เป็นอะไร มองหาอะไรเหรอ” พิศหันมองไปรอบๆ บริเวณ

“เปล่าค่ะ” รีบปฏิเสธทันควัน

“เอานี่ กล่องข้าวของเธอ พี่ล้างให้สะอาดแล้ว” พิศยื่นถุงผ้าไปให้หญิงสาว

“ขอบใจจ้ะ” มุกรับไปถือเอาไว้พลางนึกถึงใบหน้าของภพ

“คุณภพเขาฝากพี่มาบอกมุกว่า อย่าพยายามมายุ่งย่ามกับเขาให้มาก เขาต้องการความเป็นส่วนตัว มุกคงเข้าใจนะ พี่ไปล่ะ”

“พี่พิศ เดี๋ยวก่อนสิจ้ะ”

“มีอะไรเหรอ”

“คุณซินดี้เขาเป็นแฟนคุณภพหรือเปล่าจ๊ะ”

“ไม่รู้สิ เรื่องของเจ้านายจะอยากรู้ไปทำไม “ พิศส่ายหน้าแล้วเดินจากไป

มุกได้ยินอย่างนั้นก็ก้มลงมองถุงผ้าในมือด้วยใบหน้าสิ้นหวัง ในเมื่อชายหนุ่มเอ่ยปากออกมาขนาดนี้แล้ว เธอคงทำได้แค่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ สินะ ไม่แน่ชายหนุ่มอาจจะมีคนรักอยู่แล้วถึงไม่อยากให้เธอเข้าใกล้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นใครสักคนก็ได้ แต่ดูจากท่าทีของซินดี้แล้วน่าจะชอบชายหนุ่มน่าดู  หรืออาจเป็นผู้หญิงคนอื่นแต่ยังไม่เปิดตัวก็ได้ เมื่อคิดถึงความน่าจะเป็นมาถึงตรงนี้มุกได้แต่ถอนหายใจเบาๆ เท่านั้น

ภพแล่นรถออกไปจากบริษัทเพื่อไปส่งซินดี้เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนถึงหน้าบ้าน ทันทีที่รถจอดสนิทอยู่ตรงหน้าบ้านเธอก็อิดออดไม่ยอมลงจากรถ แต่กลับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ชายหนุ่มพร้อมกับใช้แขนทั้งสองข้างคล้องคอแกร่งเอาไว้

“ซินดี้จะทำอะไร” ภพใช้มือหนาจับแขนเรียวออกจากคอตนเอง

“ภพก็รู้ว่าซินดี้คิดยังไงกับภพ”

“คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”

“ทำไมคะ ยัยน้ำมันมีอะไรดีนักหนา ภพถึงไม่ตัดใจจากมันสักที”

“เข้าบ้านเถอะซินดี้”

“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มฟอดหนึ่งแล้วรีบลงจากรถทันที

เมื่อชายหนุ่มถูกจู่โจมโดยไม่ทันได้ตั้งตัวจากหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทก็ได้แค่นั่งส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์เท่านั้น ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเลยถ้าเกิดหญิงสาวที่เขานัดหมายทานข้าวเย็นนี้มาเห็นภาพเมื่อกี้เข้าคงจะหนีไม่พ้นที่จะเข้าใจผิดในตัวเขาอย่างแน่นอน

ภพรีบแล่นรถไปยังร้านอาหารที่นัดหญิงสาวรุ่นน้องที่อยู่ในใจของเขามาโดยตลอดหลายปีด้วยความรวดเร็ว ภพนั่งรอเธอในร้านไม่นานนักเธอก็เดินเข้ามาปารกฏตัวต่อหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มอันสดใสมาให้เขา

“สวัสดีค่ะ รอนานไหมคะ” ร่างบางนั่งลงตรงข้ามชายหนุ่มรุ่นพี่

“ไม่เลย แต่ต่อจะให้นานกว่านี้พี่ก็เต็มใจรอ”

“พี่ภพอะ” น้ำมองค้อนชายหนุ่ม

“น้ำอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษไหม พี่จะสั่งให้”

“อะไรก็ได้ค่ะ น้ำทานได้หมดแหละ”

“ครับ” รับคำพร้อมกับหันสั่งอาหารกับพนักงานทันที

ระหว่างที่ทานอาหารกันไปทั้งสองคนก็ชวนกันคุยถึงเรื่องการถ่ายภาพซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ชอบเป็นชีวิตจิตใจเพราะเรียนจบคณะเดียวกันแต่คนละรุ่น แต่ถึงจะอยู่กันคนละรุ่นแต่ทั้งสองคนมักจะออกไปทำกิจกรรมถ่ายภาพด้วยกันอยู่เสมอจึงสนิทสนมกันตั้งแต่ยังเรียนไม่จบจนถึงตอนนี้

“อาทิตย์หน้าพี่กับเพื่อนๆ จะออกทิปถ่ายภาพกัน น้ำไปด้วยกันไหม”

“น้ำไม่ว่างค่ะ น่าเสียดายจัง”

“ไม่เป็นไร ไว้น้ำว่างเมื่อไหร่เราค่อยไปกันสองคนก็ได้”

“ค่ะ” น้ำยิ้มรับแก้มปริ

“พี่ยังรอน้ำอยู่รู้ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“พี่ภพอย่าพูดแบบนี้สิคะ น้ำไม่สบายใจเลย”

“พี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ น้ำถึงไม่ยอมเปิดใจให้พี่สักที” ภพตัดพ้อเสียงอ่อน

“เพราะตัวน้ำเองค่ะ พี่ก็รู้ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ เป็นพี่ชายที่แสนดีแบบนี้ตลอดไปนะคะ” ยื่นมือบางไปกุมมือหนาเอาไว้

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงพี่ก็จะรอ” มือหนาพลิกขึ้นจับกุมมือบางเอาไว้แทน

ณ บ้านเช่าหลังเล็กใจกลางเมืองทันทีที่มุกกลับถึงบ้านเธอก็รีบทำมื้อเย็นให้ตนเองกับน้องชายทาน ระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าวกันสองคนพี่น้องโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นพอเห็นว่าเป็นรุ่นพี่โทรมาเธอก็รีบกดรับสายทันที

"ฮัลโหลค่ะ พี่ปราง" กรอกเสียงใส่ปลายสาย

"มุกได้งานทำหรือยังจ๊ะ"

"ได้แล้วค่ะ"

"ที่ไหนเอ่ย"

"บริษัท พีพีเคสตูดิโอ ทำแผนกบัญชีค่ะ"

"นั่นมันบริษัทเพื่อนพี่นี่นา"

"พี่ปรางหมายถึงคุณภพเหรอคะ" มุกแอบตกใจเล็กน้อย

"จ้ะ ภพเขาเป็นเพื่อนพี่ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วล่ะ โลกกลมจังเลย"

"นั่นสิคะ โลกกลมจนไม่น่าเชื่อ"

"มุกวางใจได้นะ ทำงานกับภพไม่มีเรื่องอะไรให้ปวดหัวเหมือนที่มุกเคยเจอมาแน่นอน"

"ค่ะ พี่ปราง" พูดพลางนึกถึงหน้าเจ้านายหนุ่มที่ควงนางแบบสาวผ่านหน้าไปเมื่อตอนเลิกงาน

"เดี๋ยวพี่จะต้องบอกภพเขาหน่อยแล้วล่ะ ว่าเราสองคนรู้จักกัน ภพเขาจะได้รับรู้เอาไว้ เผื่อว่ามีปัญหาอะไร"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่ปราง"

"ไม่ต้องเกรงใจหรอก ตั้งใจทำงานล่ะ แค่นี้ก่อนนะ"

"ค่ะ" เธอไม่คิดเลยว่ารุ่นพี่จะรู้จักกับเจ้านายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอด้วย แต่มันก็ไม่แปลกหรอกเพราะปรางกับภพมีฐานะที่ร่ำรวยเหมือนกันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้จักกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel