บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ตอนที่ 2

“ตาคีมหนูรัญไปยังไงมายังไงถึงแวะมาที่นี่ได้จ๊ะ” ชลาพรมารดา ของอคิราห์เดินทักทายยิ้มร่าเข้ามายังห้องรับแขกที่ลูกชายและลูกสะใภ้นั่งรออยู่ ทั้งสองยกมือไหว้ ผู้เป็นแม่ดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นเคียงคู่กันมาเพราะปกติแล้วอคิราห์จะมาคนเดียวตลอดนี่แสดงว่าเวลาสามเดือนที่ผ่านมาอะไรๆ ที่นางหวังไว้เริ่มจะเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้ว

“นั่งก่อนนะครับคุณแม่...ไม่สบายอยู่ไม่ต้องรีบเดินก็ได้” ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปประคองมารดา

“แม่ไม่เป็นไรหรอก...หนูรัญสบายดีเหรอจ๊ะ ดูหน้าแดงๆ นะ” เมื่อลูกชายประคองให้นั่งก็ไถ่ถามทุกข์สุขลูกสะใภ้ทันที

“เอ่อ...”

“ลูกสะใภ้คุณแม่ก็หน้าแดงทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว...ข้าวใหม่ปลามันทำยังไงได้ล่ะครับ” ชายหนุ่มชิงตอบเสียก่อนด้วยกลัวว่าเธอจะเอาเรื่องที่เขากลั่นแกล้งฟ้องมารดา ถ้อยขำหยิกแกมหยอกทำให้ชลาพรยิ้มรื่น

ความหวังจะให้ณัฏฐนิชมาแทนที่ผู้หญิงคนนั้นดูท่าจะไปได้สวย ก็ลูกสะใภ้คนนี้ทั้งสวยทั้งเก่งแทบทุกด้าน ความน่ารักอ่อนหวานนั้นคงแทรกซึมเข้าในหัวใจลูกชายนางบ้างล่ะ ถึงจะยังไม่ลืมเพียงอัปสรในตอนนี้แต่อยู่ไปนานๆ คนที่ตายไปแล้วก็ย่อมไม่มีความหมายอะไรอีก

จบสิ้นกันเสียที... “ที่ผมมาวันนี้....จะมาบอกคุณแม่ว่าเราจะไปฮันนีมูนกันครับ อาจจะไปสักสองสามเดือน” ณัฏฐนิชถึงกับตาโตด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เขาพูด เดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอ “อืม...เอาสิ แต่งงานกันมาตั้งหลายเดือนแกก็มัวแต่เมาไม่สนใจเมีย ไปพักผ่อนกันสองคนก็ดีแล้ว ขากลับอย่าลืมเอาหลานมาฝากแม่นะ” ชายหนุ่มยิ้มรับคำมารดาแสดงให้สมบทบาทเต็มที่

“แล้วจะไปวันไหนล่ะ...ดูสถานที่หรือยังว่าจะไปที่ไหน”

“ไปวันนี้ครับ เครื่องออกตอนสองทุ่มผมจองตั๋วไว้แล้ว...เราจะไปฝั่งยุโรปกันครับ”

“วันนี้เลยเหรอ...ทำไมเร็วนัก” ชลาพรทำท่าแปลกใจพอๆ กับหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอไม่เคยรับรู้ในสิ่งที่เขาพูดสักนิดเลย

“ผมอยากให้คุณแม่อุ้มหลานเร็วๆ นี่ครับ” คนอ้อนแม่ก้มตัวลงหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่

“ผมแวะมาลาคุณแม่น่ะครับ นี่ก็เย็นแล้วผมต้องไปเตรียมตัวก่อน” ชายหนุ่มหาโอกาสปลีกตัวทันที มาเร็วไปเร็วแบบที่ใครก็เดาใจเขาไม่ได้

“จะกลับกันเลยเหรอ หนูรัญยังไม่ได้คุยกับแม่สักคำ อยู่กินข้าวเย็นกับแม่ก่อนนะหนูรัญนะ”

“รัญ...รัญแล้วแต่คุณคีมค่ะ” คนตัวเล็กตอบอ้อมแอ้ม

“ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่นะครับ แต่เรารีบจริงๆ ยังไม่ได้เตรียมของกันเลย เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่อง”

“เอาเถอะๆ ไม่เป็นไร แต่กลับมาจากฮันนีมูนรอบนี้แกต้องพาหนูรัญมาเยี่ยมแม่บ่อยๆ นะอย่าเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัวอีกล่ะ” แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเหตุใดตั้งแต่แต่งงานกันมาลูกชายของเธอไม่เคยสนใจไยดีในตัวณัฏฐนิชเลย วันๆ เอาแต่เมาเหล้างานการก็ไม่ทำนั้นเป็นเพราะอะไรแต่ชลาพรก็เลือกที่จะพูดในสิ่งที่ห่างไกลความเป็นจริง “ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ แล้วจะซื้อสร้อยเพชรเม็ดใหญ่ๆ มาฝาก” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก้มลงหอมแก้มมารดาอีกฟอด ก่อนจะพยักหน้าให้ณัฏฐนิช “รัญขอตัวก่อนนะคะคุณแม่ สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้แม่สามีด้วยความนอบน้อมก่อนจะถูกสามีจอมโหดดึงมือมาจูงไว้ ชายหนุ่มส่งยิ้มน้อยๆ ให้มารดาก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ชลาพรนั้นใช่ว่าจะไม่แปลกใจในตัวลูกชาย ก็เมื่อคืนพ่อตัวดียังเมาแอ๋จนต้องให้คนขับรถที่บ้านไปรับกลับที่สถานีตำรวจ เพราะโดนจับข้อหาเมาแล้วขับ และตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมาอคิราห์ก็อยู่สภาพนั้นตลอด งานก็ไม่เคยสนใจจะทำทั้งๆ ที่เขาเป็นถึงประธานบริษัท ปล่อยทุกอย่างให้นางกับลูกน้องคนสนิทรับผิดชอบ มาวันนี้กลับอี๋อ๋อกับเมียสาวมาบอกว่าจะไปฮันนีมูน แต่ก็ช่างเถอะหากมันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีก็ไม่น่าเป็นห่วงไม่ใช่หรือ เพราะนั่นคือความต้องการของนางอยู่แล้ว

ย้อนนึกกลับไปนางเองก็รู้สึกผิดกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น อคิราห์เป็นลูกชายคนเดียวของนางกับสามีชาวอังกฤษ หลังจากพ่อของชายหนุ่มประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตนางก็เลี้ยงดูลูกชายตัวคนเดียวมาตลอด ใช้กำลังทั้งหมดดูแลกิจการที่สามีทิ้งไว้ให้จนสามารถเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ความผูกพันของแม่ลูกเหนียวแน่นมากเพราะมีกันเพียงสองคน หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศเธอก็ยกตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดให้ลูกชายส่วนตัวเองก็รามือออกมาอยู่บ้านเฉยๆ

กระทั่งเมื่อสามปีที่แล้วอคิราห์ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งและคบหาดูใจกันเรื่อยมา ทั้งๆ ที่นางก็คัดค้านตลอดว่าทั้งคู่ไม่เหมาะสมกัน แต่อคิราห์ก็ไม่เคยฟังนับวันยิ่งรักยิ่งหลงผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นถึงขั้นมีโครงการจะแต่งงานกัน ตอนนั้นเองที่นางเริ่มคิดหาคู่ครองให้ลูกชาย ณัฏฐนิชคือเป้าหมายนั้น หญิงสาวเป็นลูกของพสุธาเพื่อนชายสมัยเรียนของนางมาตอนหลังบิดาของหญิงสาวเสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน นางเห็นณัฏฐนิชมาตั้งแต่เด็กๆ เนื่องจากไปมาหาสู่กันบ่อยๆ หญิงสาวเป็นเด็กน่ารักเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วน่าเสียดายที่มีแม่ติดการพนัน ชีวิตจึงค่อนข้างลำบาก ด้วยความสงสารและอยากช่วยเหลือจึงได้ไปสู่ขอมาให้อคิราห์ด้วยเงินสินสอดที่แพงลิบ

มณีแม่ของณัฏฐนิชตกลงทันทีอย่างไม่มีข้อแม้และไม่ถามไถ่ความเห็นของลูกสาวสักนิดเพราะเห็นแก่เงิน ทางด้านอคิราห์เธอก็ขอร้องแกมบังคับรวมทั้งขู่เข็ญสารพัดถึงขั้นตัดแม่ตัดลูกหากไม่ยอมแต่งงานกับคนที่เธอเลือกไว้ให้ ชายหนุ่มจึงยอมตกลง แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพียงอัปสรแฟนสาวของอคิราห์ประสบอุบัติเหตุในคืนวันแต่งงาน จากนั้นมาลูกชายนางก็เสียผู้เสียคนไปเลยก็ว่าได้

นางเองไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่ได้อยากให้เพียงอัปสรต้องตาย แค่อยากแยกลูกชายออกจากผู้หญิงอย่างนั้นเท่านั้นเอง ไม่คิดเลยว่าเจ้าหล่อนจะเสียใจจนขาดสติขับรถพุ่งชนกับรถบรรทุกจนเสียชีวิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel