เซียวอัน 2
เซียวอัน 2
การพูดคุยหัวเราะดำเนินไป แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดพลันเกิดขึ้น เมื่อเจ้าตัวที่ทุกคนกำลังพูดถึง เดินหอบถังผ้ามาตามทางน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งจื่อเอาผ้ามาซักในรอบเกือบสองเดือน
“เมิ่งจื่อ เจ้าจะแต่งสามีเข้าบ้านจริงหรือ?”
ท่านป้าผู้หนึ่งทำใจกล้า เพราะต้องการจะทราบความจริงจากปากสาวน้อย จึงพูดคุยกับนางด้วยน้ำเสียงปกติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ตุบ! ตุบ! ใช่เจ้าคะท่านป้าหง” เมิ่งจื่อทุบผ้าไปด้วยตอบไปด้วย นางทำใจได้แล้ว ดังนั้นจึงกล้าออกจากบ้านมาพบเจอผู้คน
“เออ! สามีเจ้าเป็นใครมาจากไหนหรือ?”
เมิ่งจื่อตอบกลับไปว่าเป็นญาติทางฝั่งมารดา เขาเดินทางมาจากเมืองเป่ยจิง
แทบทุกคนได้ยินเต็มสองหู พวกนางสะกดข่มอารมณ์ไว้ หลอกถามเมิ่งจื่ออีกหลายเรื่อง สุดท้ายได้ความว่า ญาติผู้นี้ตระกูลตกต่ำ จึงยินยอมให้เขาเดินทางมาแต่งกับนาง
ทุกคนย่อมทราบประวัติความเป็นมาเมิ่งผู้แม่ ได้ยินดังนั้นก็ไม่นึกสงสัย การจะขายลูกชายซักคนเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก หากยกให้แต่งเข้าบ้านญาติ แลกกับเงินจำนวนมากก็นับว่าพอจะยอมรับได้
เพียงแต่ตระกูลเมิ่งใช้เงินทองไปเท่าไรกัน?
เรื่องนี้กลายเป็นที่ถกเถียงอีกหลายวัน
เนินเขาไม่ไกลจากหมู่บ้าน ดอกไม้ใบหญ้างดงามถูกรังแกอย่างโหดร้าย ซ่งจูเอ๋อและสหายฟาดกิ่งไม้แห้งไปทั่ว ไล่ทำลายไปมั่วๆ ระบายอารมณ์คับแค้นใจ ที่เมิ่งจื่อกำลังจะได้สามีหน้าตาดี
สาวๆทั้งหมดพบเห็นเซียวเฟิงแล้ว!
พอรู้ข่าว จูเอ๋อที่บ้านอยู่ติดกันก็จับจ้อง เป็นอย่างที่คิดจริงๆ บุรุษผู้นั้นไปชายชู้ของหญิงร่าน แต่ไฉนพอรู้ว่าพวกเขาจะแต่งงานกัน นางถึงได้เจ็บปวดใจเช่นนี้
เซียวเฟิงถูกเมิ่งผู้พ่อแนะนำให้คนในหมู่บ้านรู้จัก เขาถูกเรียกว่าเซียวอัน ปกติขึ้นเขาล่าสัตว์ ดังนั้นจึงมีน้อยคนเคยเห็นหน้า แม้แต่จูเอ๋อได้เห็นเต็มตาก็เมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ก่อนเคยเห็นจากระยะไกล มองไม่ออกว่าหน้าตาอุบาทหรือดูดี
ศักดิ์ฐานะเซียวอันคือญาติผู้พี่เมิ่งจื่อ อีกสามวันจะเป็นพิธีปักปิ่น และจึงเข้าหอในคืนนั้นเลย
ชาวบ้านยากจนก็แต่งกันง่ายๆเช่นนี้เอง
ในวันงาน
สกุลเมิ่งล้มวัวถึงสองตัว โต๊ะกลมถูกจัดตั้งไว้ลานหน้า เพื่อนบ้านหลายสิบคนดื่มสุราเฮฮาลั่น ฉลองพิธีปักปิ่นและรับเขยในวันเดียวกัน
ภายในกระท่อมเมิ่งจื่อ ต้าเหนียงทั้งหลายหัวเราะคิกคัก ชมว่านางตัวเล็กน่ารัก ปักปิ่นเสร็จก็ได้สามีทันที ไม่เกินสิ้นปีต้องคลอดทารกอวบอ้วนออกมาได้แน่
“จื่อจื่อ ป้าดูไม่ผิด ก้นแบบเจ้าต้องคลอดลูกชายได้อย่างแน่นอน”
เมิ่งจื่อเขินอายแก้มแดง หญิงชาวบ้านก็มีอนาคตเพียงเท่านี้ แต่งงานมีสามีและลูก ส่วนจะมีความสุขหรือไม่เป็นเรื่องในภายภาคหน้า
อย่าว่าแต่สามีของนางหล่อมาก ทั้งยังเป็นการแต่งเข้า เมิ่งจื่อแม้จะพบหน้าเขาไม่มาก แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรชายผู้นี้
ตลอดเวลาสองเดือน เมิ่งผู้พ่อลากว่าทีสามีนางขึ้นเขาลงห้วย หกเจ็ดวันจะกลับมาบ้านซักครั้ง เมิ่งจื่อจึงยังมิได้พูดคุยกับเขา แม้กระทั่งวันนี้ นางก็ยังมิได้คุยกัน
สายตาเมิ่งจื่อตกอยู่ในความมืด เพราะว่าตอนนี้นางถูกคลุมหน้า ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน และไหว้บิดามารดา
หัวใจเมิ่งจื่อแทบหลุดออกมา ในนั้นราวกับมีกวางน้อยกระโดดโลดเต้น เสร็จพิธีนี้นางก็จะกลายเป็นภรรยาคนอื่นแล้วหรือ เป็นภรรยาพี่ชายแปลกหน้า คนที่นางช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำลำธาร...
***
ค่ำคืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง แต่เมิ่งจื่อกับไม่รู้สมควรเริ่มยังไง ท่านแม่ก็เพียงบอกให้นางนอนอยู่นิ่งๆ เดียวสามีจะเป็นคนจัดการเอง
คำว่านิ่งๆของเมิ่งจื่อก็คือนิ่งๆ ตั้งแต่เปิดผ้าคลุมหน้า ดื่มสุราคล้องแขน จากนั้นนางก็ปีนขึ้นเตียงไปนอนนิ่งๆ แม้แต่หายใจแรงยังมิกล้า นอนกะพริบตาปริบๆ
เสียงหอบหายใจดังฟึดฟัด บนโต๊ะกลมกลางห้อง สามีหมาดๆของนางกรอกสุราหมดไปสองกา
ผ่านไปครึ่งค่อนคืน เมิ่งจื่อง่วงแล้วนะ! นางหาวไปหลายสิบรอบ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสามีจะทำอะไร
“…”
