บท
ตั้งค่า

บทที่ 16

เซี่ยเหยาเหนื่อยมากจริงๆ พยักหน้าแล้วก็ไปนอนพักบนเตียง

"จื่อฉิง เจ้าลงไปเถิด เจ้าไม่จำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่นี่"ก่อนที่จะนอนหลับ นางก็ตะโกนออกไปด้านนอก

จื่อฉิงก้มดูน้ำชาที่ได้เย็นเฉียบ ตอบรับคำ แล้วถอยออกไป

……

เวลาผ่านไป คราวนี้เซี่ยเหยานอนหลับอย่างสบาย และฝันหวาน

เมื่อลืมตาขึ้น ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวลง คาดว่าดวงตะวันก็ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว

เซี่ยเหยารู้สึกหิว ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลย และยังผ่าตัดอีกถึงสองครา

"จื่อฉิง? ข้าหิวแล้ว"นางหิวจนต้องได้กินทันที แม้แต่อาหารที่ปรุงสดจากโรงครัวก็มิอาจรอได้

ใช้เวลาเพียงไม่นาน จานผลไม้ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทันใด บนจานมีขนมหวานและผลไม้วางอยู่

เซี่ยเหยาหยิบหนึ่งชิ้นเข้าปาก จื่อฉิงโตแล้ว ไม่ต้องให้ตนเองเตือนก็รู้จัดเตรียมพร้อมไว้ ไม่เลว!แล้วทำไมมือที่ถือจานผลไม้ถึงได้หยาบเช่นนี่?

เงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นใครบางคน รอยยิ้มเจื่อนก็ปรากฏอยู่ตรงมุมปาก "ท่านพี่ ท่านยังไม่ไปงั้นหรือ"

เป็นเซี่ยเหวินอู่ที่ยื่นจานผลไม้ให้

เซี่ยเหวินอู่หยัดจานผลไว้ในมือของเซี่ยเหยาโดยตรง นั่งลงข้างเตียง เอ่ยถามอย่างสงบ:"วิชาแพทย์ของเจ้าฝึกจากผู้ใดมา?"

เซี่ยเหยารู้ว่าต้องมีคนถาม เช่นนั้นตั้งแต่ช่วยลุงอวิ๋นครั้งแรกก็ได้คิดเหตุผลไว้แล้ว แต่คำพูดที่บอกไปกลับกลายเป็น:"ข้าเรียนเอง เก่งหรือไม่!"

เป็นคนอื่นอาจถูไถไปได้ แต่เซี่ยเหวินอู่อยู่กับนางมาตั้งแต่เล็กจนโต หากบอกว่าได้เรียนรู้จากผู้มีฝีมือที่พบโดยบังเอิญ เป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยเหวินอู่เพิ่งจะมารู้เอาตอนนี้

เซี่ยเหวินอู่เม้มริมฝีปากด้วยความขบขัน "ไม่จำเป็นต้องโกหกข้า หากมีใครถามเจ้า จะอธิบายอย่างไร?"

เขารู้ว่าลุงอวิ๋นของจวนอ๋องหานได้รับบาดเจ็บ อันตรายถึงชีวิต การปรากฏตัวของเซี่ยเหยา ทำให้ลุงอวิ๋นรอดชีวิตจากคืนนั้นได้

ฝีมือการแพทย์ของเซี่ยเหยานั้นยอดเยี่ยม แม้แต่หมอหลวงก็ยังรักษาอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้ ทำได้เพียงต้องตัดแขนเพื่อยืดชีวิต แต่เพิ่งถูกรักษาให้หายเมื่อครู่นี้

อนาคต จะมีเพียงผู้คนมากขึ้นที่รู้ว่าเซี่ยเหยามีฝีมือแพทย์ที่ล้ำเลิศ เช่นนั้นจึงต้องเตรียมเหตุผลเอาไว้

เซี่ยเหยาเหลือบมองไปทางอื่นอย่างเคอะเขิน รู้สึกเขินอายที่ถูกเปิดโปรง

เป็นเพราะนางเริ่มต้นได้ไม่ดี หรือเพราะเซี่ยเหวินอู่ฉลาดเกินไป?

เห็นเช่นนั้นเซี่ยเหวินอู่ก็ไม่ได้เร่งเร้า ดวงตาถูกแทนที่ด้วยความเคร่งขรึม กล่าวเตือนด้วยท่าทีกังวลเล็กน้อย:"จำไว้ หากไม่มีความแน่นอน อย่าได้แสดงฝีมือการแพทย์ของเจ้าให้ใครเห็นง่ายๆ"

คนธรรมดาที่ไม่มีความผิดแต่การครอบครองสิ่งล้ำค่ากลับเป็นความผิด ฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ก็เป็นภัยได้เช่นกัน

เซี่ยเหยาไม่ได้พยักหน้า

ชีวิตก่อน ไม่ว่าใครจะให้นางรักษาก็ต้องนัดล่วงหน้าเอาไว้ แต่นางนั้นไม่ได้เลือกคนไข้ เป็นเพราะหาเวลาไม่ได้จริงๆ ทุกวันนอกจากกินข้าวนอนกับเร่งเดินทาง เวลาที่เหลือก็ใช้ไปกับการรักษาคนไข้และช่วยชีวิตคน

การรักษา ก็แค่การกระทำที่ไม่รู้ตัวของนาง

แต่ที่เซี่ยเหวินอู่พูดมาก็มีเหตุผล หลังจากนี้จะช่วยใครก็คงต้องคิดให้ดีเสียแล้ว

"ให้ข้าดูพิษในร่างกายท่านหน่อยว่าถูกทำความสะอาดดีแล้วหรือไม่"เห็นว่าเซี่ยเหวินอู่จะกล่าวสั่งสอนอีก นางก็รีบเอ่ยก่อน

เซี่ยเหวินอู่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ยื่นข้อมือไปให้

เซี่ยเหยายิ้มแล้วก็เอานิ้วลงไปวางไว้ คิดเอาไว้ว่าจะพูดไม่กี่คำเท่านั้น

พิษส่วนใหญ่อยู่ในกระดูกของเซี่ยเหวินอู่ เมื่อจัดการเสร็จสิ้นแล้ว ย่อมต้องสะอาดเรียบร้อย

แต่ว่า จากการเต้นของชีพจร นางก็ขมวดคิ้วแน่น

พิษยังคงอยู่ และยังแข็งแกร่งกว่าที่ถูกขูดออกมาหลายเท่า!

"บาดแผลของท่านได้มาอย่างไร?"นางกล่าวถาม

เซี่ยเหวินอู่คิดว่าเซี่ยเหยาเพียงแสร้งทำเท่านั้น กล่าวอย่างให้ความร่วมมือ:"ประมาทไปหน่อย เลยถูกธนูแทงเข้า"

เซี่ยเหยาไม่สงสัยเลย เพราะว่าบนกระดูกมีหลุมขนาดเท่าเม็ดข้าว เห็นได้ชัดว่าปลายลูกศรโดนกระดูก ไม่อย่างนั้นพิษก็คงไม่เร่งเข้ากระดูกเร็วเช่นนี้"โดนลูกศรเพียงหนึ่งดอกเท่านั้น?"

"ทำเหมือนพี่ชายเจ้าเป็นคนไร้ประโยชน์งั้นหรือ?"เซี่ยเหวินอู่กล่าวอย่างขุ่นเคือง ลูกศรครั้งนี้นับเป็นความอับอายอย่างยิ่งสำหรับเขา

เซี่ยเหยากลับขมวดคิ้ว "ท่านถูกวางยาแล้ว เป็นพิษเรื้อรัง ตอนนี้ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน"

สาเหตุที่ถูกวางยามีเยอะมาก ทำได้เพียงปล่อยให้เซี่ยเหวินอู่วิเคราะห์เอง

เริ่มแรกเซี่ยเหวินอู่คิดว่าเซี่ยเหยาเพียงล้อเล่น แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเซี่ยเหยา ก็ได้ตระหนักถึงบางอย่าง แล้วเงียบลงทันที

เซี่ยเหยาก็ไม่ได้พูด ในห้องนั้นเงียบมาก

"เรื่องนี้ยังบอกใครไม่ได้"ในที่สุดเซี่ยเหวินอู่ก็เอ่ยปาก เสียงนั้นเคร่งขรึม

เซี่ยเหยาพยักหน้า ดูเหมือนว่าเซี่ยเหวินอู่จะเดาได้ว่าใครเป็นคนวางยาแล้ว

พิษเรื้อรัง ต้องใช้เวลาหลายปีในการสะสม ไม่เพียงการวางยาครั้งเดียว เซี่ยเหวินอู่ยังต้องปกป้องชายแดดนานกว่าจะกลับ ดูท่าคงจะเป็นคนใกล้ตัว

"แล้วท่านจะทำเยี่ยงไรต่อ?"ให้เวลานางสักหน่อย การแก้พิษไม่ใช่ปัญหา แต่รักษาอาการเท่านั้นไม่รักษาต้นเหตุ

เซี่ยเหวินอู่หัวเราะเบาๆ ราวกับมีร่องรอยความขมขื่นในดวงตาที่เด็ดเดี่ยวและเย็นชา ดูเหมือนเจ้าหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ตอบสิ่งที่ถาม "วันนี้เป็นวันที่สามของการแต่งงานเจ้าสินะ อีกสักพักก็กลับจวนแม่ทัพกับข้า ถือสะว่าเป็นการกลับบ้านหลังแต่งงานก็แล้วกัน"

เซี่ยเหยาไม่ได้พูด จ้องเซี่ยเหวินอู่อย่างจริงจัง "ราชวัง?"

นางไม่มีประสบการณ์ช่วงชิงบัลลังก์ แต่เคยอ่านหนังสือที่คล้ายคลึงกัน อีกอย่างเซี่ยเหวินอู่ได้สร้างผลงานสงครามอันเกรียงไกร ไม่มีผู้ใดในแคว้นว่านฉีที่จะเทียบเทียมได้

จากนิสัยของเซี่ยเหวินอู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองถูกวางยาแล้วยังอยู่เฉยได้ นอกจากว่าไม่อาจล่วงเกินอีกฝ่ายได้

แต่คนที่สามารถทำให้เซี่ยเหวินอู่รู้ตัวว่าไม่อาจล่วงเกินได้ ในแคว้นว่านฉีคงเหลือเพียงราชวงศ์เท่านั้น

เซี่ยเหวินอู่ได้ยิน ก็รีบยื่นมือไปปิดปากของเซี่ยเหยาไว้ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "อย่าได้พูดจาเหลวไหล!"

จากนั้นก็ยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง แล้วปล่อยมือ เขากลายเป็นคนที่ขี้ขลาดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

"เจ้าไปได้ยินอะไรมาบ้าง?"เขาถาม

เซี่ยเหยาส่ายหัว จากนั้นก็เอ่ยถึงการวิเคราะห์ของตนเองอีกครา

ครั้งแรกที่พบกัน เซี่ยเหวินอู่ให้ความรู้สึกที่ดีต่อนาง บางทีอาจเป็นเพราะสายเลือด หรืออาจเป็นเพราะความรู้สึกของเจ้าของร่างเดิม

เซี่ยเหวินอู่ฟังจบ ก็เหลือบมองอย่างไม่คาดคิด

น้องสาวของตัวเองฉลาดขึ้นไม่น้อย หรือเพราะว่าหญิงที่แต่งงานแล้วต่างก็จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว?

"คำพูดพวกนี้จะพูดกับคนที่สามไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะดึงดูดภัยเข้าตัว"เขาตักเตือนอย่างจริงจัง

เซี่ยเหยาพยักหน้า

แต่ไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นภัย อีกอย่างยังเป็นภัยที่ร้ายแรง!

ขณะที่นางกำลังจะถามเซี่ยเหวินอู่ว่าจะทำอย่างไรต่อ ก็ได้มีเสียงเย็นชาของฉู่หานดังมาจากข้างนอก

"แม่ทัพเซี่ยมาจวนอ๋องหานของข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้"

สีหน้าของเซี่ยเหวินอู่มืดลง ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ก่อนหน้านั้นที่เซี่ยเหยาถูกตีเพราะแย่งของคนอื่น เขาก็แสดงสีหน้าเช่นนี้

เซี่ยเหยามองพริบตาเดียวก็รู้แล้วว่าเซี่ยเหวินอู่จะทำอันใด ได้ดึงหนึ่งที การกระทำครั้งนี้เบามาก "อย่าสร้างศัตรู"

เมื่อเรื่องได้มาถึงขั้นนี้แล้ว หากเซี่ยเหวินอู่จะเป็นศัตรูกับฉู่หานล่ะก็ จะเป็นการทำให้ราชวงศ์นั้นเคลื่อนไหวเร็วขึ้น

เซี่ยเหวินอู่หันกลับไปยิ้ม ผลักประตูเดินออกไป

เซี่ยเหยาลุกขึ้น และรีบเดินตามออกไป

"ไม่เจอกันนาน อ๋องหานดูเหมือนจะซูบผอมลงเล็กน้อย งานเลี้ยงฉลองแต่งงาน ควรจะพอประมาณดีกว่า"เซี่ยเหวินอู่กล่าวอย่างไร้อารมณ์ เดิมทีตั้งใจช่วยให้เซี่ยเหยาร้องขอเรื่องที่ภรรยาและนางสนมแต่งงานพร้อมกัน ไม่คิดเลยว่าจะทำพลาดเอง

สีหน้าฉู่หานมืดลงทันที เหลือบมองเซี่ยเหยาด้วยดวงตาหม่นหมอง

เซี่ยเหยาทำเป็นไม่เห็น

ยังไงสะนางก็ไม่เคยพูดอะไรที่ไร้มนุษยธรรม และจิตใจบริสุทธิ์ เป็นฉู่หานที่ทำชั่วแล้วระแวงไปเอง

เซี่ยเหวินอู่สังเกตเห็น ก็ขมวดคิ้วเบาๆ หรือว่า......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel