ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายในยุค80

53.0K · จบแล้ว
วริษา
27
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ในตายสิทำไมร่างที่ฉันทะลุเข้ามาอยู่ในตอนนี้ถึงชั่วร้ายขนาดนี้กันนะ แม้กระทั่งลูกของตัวเองแท้ ๆ ยังรังเกียจและไม่เคยใส่ใจให้ความอบอุ่นตั้งแต่ลืมตาออกมาดูโลกฉันจะต้องทำการปฏิวัติใหม่จะเป็นแม่ที่ดีให้ได้

นิยายจีนโบราณนิยายรักพลิกชีวิตข้ามมิติแก้แค้นจีนโบราณยุค80มีลูกยกโทษ/โอกาสอีกครั้งสัมพันธ์ครอบครัว

บทที่ 1 ข้อแลกเปลี่ยน

บทที่ 1 ข้อแลกเปลี่ยน

เมฆหมอกหนาครึ้มปกคลุมไปทั่วทุกแห่งหนไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็ล้วนแต่มืดมน วิญญาณของหญิงสาวที่ไม่เคยมีแม้แต่จะมีความรักกำลังเดินตามผู้คุมวิญญาณไปด้านหน้า ร่างกายของเธอหวาดกลัวไปหมดเธอพึ่งอายุเพียงยี่สิบปีแต่ต้องมาพบกับความตายที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับเธอ เพียงเพราะเธอกำลังเดินหางานอยู่นั้นมีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนด้วยความเร็วสูง ทำให้ร่างของเธอกระเด็นเละแหลกละเอียดแทบไม่เหลือชิ้นดีไม่มีช่วงเวลาให้เธอรู้สึกเจ็บปวดด้วยซ้ำ

"นี่รีบเดินหน่อยตอนนี้ใกล้จะถึงประตูมิติแห่งความตายแล้ว " เสียงเข้มขรึมของผู้คุมดังขึ้น ทำให้ทั้งขบวนที่เดินตามกันมาเร่งฝีเท้าอย่างเร่งรีบ วิญญาณหญิงสาวที่เดินอยู่ด้านหลังสุดจู่ ๆ มีมือปริศนาดึงเธอเอาไว้พาหายไปในความมืด

"ใครนะปล่อยฉันนะ "

"ชู่ ๆ อย่าดังไป ฉันมีเรื่องแลกเปลี่ยนกับเธอเท่านั้นเองแค่เธอรับปากคนที่เดินเข้าไปในขบวนนั้นจะเป็นฉันเองที่ไปแทนเธอ" น้ำเสียงเยือกเย็นพูดออกมาอย่างรีบร้อน

"เรื่องแลกเปลี่ยนอย่างนั้นหรือ? เธอจะบ้าหรือไงมีเรื่องอะไรมาแลกเปลี่ยนกับคนที่ตายแล้วอย่างฉันรีบปล่อยฉันเสียทีก่อนที่ขบวนที่ฉันเดินตามจะลับสายตาฉันไม่อยากเป็นวิญญาณเร่ร่อนหรอกนะ "

"ฉันรู้ว่าเธอยังไม่เคยมีความรักและสิ่งที่เคยวาดฝันเธอยังไม่ได้ทำมันด้วยซ้ำ รับปากฉันสิถ้าเธอกลับไปมีชีวิตอีกครั้งจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น"

"อะไรกัน!! เธอเป็นใครแม้กระทั่งหน้าตาเธอยังไม่โผล่มาให้ฉันเห็น แล้วถ้าฉันรับปากจริง ๆ เธอจะได้อะไรจากการที่มาแลกเปลี่ยนกับฉัน" หญิงสาวยังคงไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นกับเธอ

"สิ่งที่ฉันต้องการคือการทำให้ทุกคนมีความสุข แต่ฉันไม่สามารถกลับไปได้ดวงจิตของฉันได้สิ้นสุดลงแล้ว ฉันมองเห็นดวงจิตของเธอที่ยังไม่สิ้นอายุไข เธอจะยอมทำตามคำขอฉันหรือเปล่า?" หญิงสาวได้คิดในใจเริ่มมีความหวังและเมื่อมีคนมายืนข้อเสนอเพียงแค่ทำให้ทุกคนมีความสุขทำไมเธอจะทำไม่ได้

"ได้ฉันรับข้อเสนอของเธอและห้ามกลับคำพูดเด็ดขาด" พลันเสียงพูดของหญิงสาวพูดออกมาแสงสว่างส่องออกมาท่ามกลางความมืดมัว เผยให้เห็นหญิงสาวรูปร่างสูงสง่าใบหน้างดงามยืนอยู่ต่อหน้าพร้อมส่งยิ้มให้เธอด้วยความดีใจ

"ฉันดีใจนะที่เธอเลือกตามข้อเสนอและหวังว่าเธอจะทำตามที่สัญญาเอาไว้" พูดจบแสงสว่างได้หายวับไปกับตาและสติของวิญญาณสาวก็วูบหายไปเช่นเดียวกัน

มณฑลเหวินเทียน

ภายในบ้านหลังใหญ่มีห้องนอนหลายห้องด้วยกัน ครอบครัวสกุลหลี่มีลูกชายด้วยกันสองคน ลูกชายคนโตชื่อว่าหลี่ซืออี้ เป็นคนโลภและไร้น้ำใจเขามีภรรยาที่นิสัยเหมือนกันชื่อว่าหลันเหย่เป็นลูกสาวของพ่อค้าในตลาด ส่วนลูกคนเล็กมีชื่อว่าหลี่ยั่วถง เป็นคนเอาการเอางานเป็นลูกชายที่แม่รักและเอ็นดูต่างจากพี่ชายที่เกียจคร้าน แต่ทว่าภรรยาของเขากลับมีนิสัยที่ดุร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ตั้งแต่แต่งงานกันมาเธอไม่เคยสนใจและพูดจากับเขาดี ๆ ด้วยซ้ำแต่ถึงกระนั้นทั้งสองยังมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน เด็กน้อยเกิดมาหน้าตาน่ารักน่าชังหลี่ยั่วถงรักลูกมาก ๆ แถมยังเป็นหลานชายคนแรกของตระกูล ทว่าจื่อเหยาภรรยาของเขากลับไม่แม้จะสนใจใยดีน้ำนมสักหยดไม่เคยให้ลูกได้กินด้วยซ้ำ ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเธอไม่เคยอุ้มและเลี้ยงดู เพราะจื่อเหยามีคนรักอยู่แล้วแต่ที่เธอต้องมาแต่งกับหลี่ยั่วถงเพราะคุณพ่อของเธอเป็นคนจัดการ แถมชายที่เธอรักดันเป็นเพื่อนของหลี่ยั่วถง แม้รู้ทั้งรู้แต่เขายังจะแต่งกับเธอทำให้เธอทั้งโกรธและเกลียดเขายิ่งนัก แม้แต่หน้ายังไม่ได้เห็นเลยด้วยซ้ำ ในค่ำคืนที่เธอเสียใจที่สุดคือคืนเข้าห้องหอจื่อเหยาดื่มเหล้าไปหลายแก้วทำให้เธอมัวเมาและคืนนั้นเป็นคืนที่เธอเจ็บปวดที่สุดเช่นเดียวกัน ทำให้เธอเกลียดเด็กที่เกิดมาด้วยความไม่เต็มใจและเธอก็ไม่เคยมีความรักต่อหลี่ยั่วถงเลยมีเพียงความชิงชังเท่านั้น

เวลาล่วงเลยมา 5 ปีที่เธอทนอยู่ที่บ้านหลังนี้ ยิ่งทุกคนดีกับเธอเธอยิ่งเกลียดและเย็นชามากกว่าเดิม แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นในยามหัวค่ำจู่ ๆ จื่อเหยาได้หายตัวไปทุกคนในบ้านเร่งตามหาจนพบเธอที่นอนอยู่ในคลองหลังบ้าน เรื่องนี้สะใภ้ใหญ่อย่างซูหรงคิดว่าน่าจะเป็นตัวเธอเองที่ฆ่าตัวตาย หลี่ซืออี้สามีของเธอก็เห็นด้วยเพราะเธออยู่ที่นี่ไม่เคยเห็นเธอมีความสุขและรอยยิ้ม เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ข่าวมาว่าชายหนุ่มที่เธอเคยรักและเป็นเพื่อนของหลี่ยั่วถงแต่งงานเข้าพิธีกับหญิงสาวที่ทางบ้านจัดหาให้ เรื่องนี้คงทำให้เธอเสียใจตรอมใจจนกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลี่ยั่วถงกลับไม่คิดเช่นนั้น แม้เธอจะไม่ได้รักเขาและรังเกียจเขามากแค่ไหน คนอย่างเธอเป็นคนที่รักแต่ตัวเองคงไม่คิดฆ่าตัวตายแต่ทว่าเรื่องเช่นนี้มาพูดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อร่างของภรรยาตัวเย็นเฉียบริมฝีปากเริ่มเขียวอมม่วงแม้แต่ชีพจรของเธอก็ยังไม่เต้นแล้วด้วย เขาอุ้มร่างของเธอมาที่บ้านทันทีที่ลูกชายของเขาเห็นผู้เป็นแม่ก็ร่ำไห้ออกมาอย่างเสียใจ

"คุณพ่อเกิดอะไรขึ้นครับทำไมคุณแม่ถึงเป็นแบบนี้"

"เจ้อหยูร์พ่อขอโทษ ต่อจากนี้จะไม่มีแม่ของลูกอีกแล้วเธอจากเราไปแล้ว" ยากเหลือเกินที่เขาจะกลั้นใจพูดคำพูดนี้บอกแก่ลูกชายตัวน้อย

"อึก อึกไม่จริง คุณแม่ฟื้นขึ้นมาสิครับต่อให้คุณแม่จะทุบตีต่อว่า ทำตัวเย็นชาใส่ผมอย่างไรผมก็ไม่เคยน้อยใจและคิดเสียใจเลยสักนิดขอแค่คุณแม่ฝืนขึ้นมา ฮื้อ ฮือ" เด็กชายกอดร่างของแม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนผู้เป็นย่าต้องรีบเข้ามาปลอบใจ

"เจ้อหยูร์หลานฟังย่านะ ย่ารู้ว่าหลานเสียใจแต่ตอนนี้แม่ของหลานจากโลกใบนี้ไปแล้ว"

"นี่เจ้อหยูร์หลานจะเสียใจไปทำไม แม่ของหลานไม่คยจะสนใจหลานสักนิดแม้ไม่มีเธอหลานก็สามารถเติบโตได้ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอเคยส่งยิ้มหรือโอบกอดหลานหรือไม่ ลุงไม่เคยเห็นสักครั้งดีเสียอีกที่คนเย็นชาไร้หัวใจอย่างเธอตายจากไป" เสียงของซืออี้พูดขึ้นทำให้หลี่ยั่วถงไม่พอใจในคำพูดของพี่ชาย

"พี่ซืออี้หยุดพูดจาน่าเกลียดสักที เพียงแค่นี้เจ้อหยูร์ก็เสียใจมากพออยู่แล้ว"

"นั่นสิแกพาสะใภ้ใหญ่ไปบอกผู้ใหญ่บ้านกับนายอำเภอทีว่าตอนนี้สะใภ้เล็กของฉันได้เสียชีวิตแล้วจะได้ช่วยกันจัดงานไว้อาลัยให้เธอและช่วยส่งข่าวแจ้งกับครอบครัวของเธอให้แม่ที" ผู้เป็นแม่เห็นท่าไม่ดีรีบพูดขึ้นก่อนจะดึงตัวของหลานชายเข้ามากอดไว้แน่น

"ก็ได้ครับ หลันเหย่ไปกับเถอะตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วกว่าจะไปแจ้งทุกคนครบน่าจะดึก เฮ้อ! ตายไปแล้วยังมาสร้างปัญญาให้คนกำลังท้องอ่อน ๆ อีก" ซืออี้บ่นพึมพำกำลังหันหลังเดินออกจากบ้าน ทันใดนั่นเองร่างที่ไร้ลมหายใจของจื่อเหยาลุกขึ้นนั่งจนทุกคนพากันตกใจ

"เฮือก!!!."

"อ๊ายยย! พี่ซืออี้ผีหลอก" หลันเหย่ร้องเสียงหรงกระโดดเข้าไปกอดสามีเอาไว้แน่น

"คุณย่าคุณแม่ฟื้นแล้วว" เจ้อหยูร์ปาดน้ำตายิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อเห็นแม่ของตนฝืนขึ้นมารีบบอกผู้เป็นย่าทันที

"คุณ…คุณฟื้นขึ้นมาแล้ว ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตา" หลี่ยั่วถงดีใจไม่ต่างจากลูกชายเลยเมื่อเห็นภรรยาของตัวเองยังมีลมหายใจ