บทที่ 5 จะไม่ยอมปล่อยมือ
บทที่ 5 จะไม่ยอมปล่อยมือ
"ฉันจะไม่ลืมอีกแน่นอนต่อจากนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะท่านนายอำเภอเสวียนเฉิน"
"ไม่สิ ต้องไม่ใช่แบบนี้ต่อไปต้องเรียกฉันว่าเสวียนเฉิน "
"ทั้งสองคุยอะไรกันอยู่เหรอ ? เสวียนเฉินแม่รู้ว่าลูกดีใจที่ได้เจอเสี่ยวอิงแต่ตอนนี้ให้เสี่ยวอิงพักก่อนเถอะเรามาช่วยกันทำความสะอาดบ้านเดี๋ยวตะวันจะตกดินเสียก่อนจริงสิตอนนี้เสี่ยวอิงเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่อาหารกับข้าวคงยังไม่มีสินะดีเลย ดีเลย หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จป้าจะทำอาหารต้อนรับเสี่ยวอิงกลับมานะถ้าพ่อแม่ของเธออยู่คงจะดีกว่านี้ อุ้ย ! ป้าขอโทษไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้เลย"ป้าเสวียนหนี่เดินมาพร้อมกับเด็ก ๆ บอกให้ลูกชายตัวเองไปช่วยกันทำความสะอาดบ้าน
“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้า บ่อยครั้งฉันเองยังคิดเลยว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่อยู่คงดีกว่านี้” เสี่ยวอิงพูดขึ้นอย่างถนอมน้ำใจรู้ดีว่าป้าเสวียนหนี่ไม่ได้ต้องการพูดให้เธอกับน้อง ๆ เศร้าใจ
ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนต่างพากันช่วยทำความสะอาดบ้านที่สกปรกเต็มด้วยฝุ่นกลับกลายเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียวแม้ว่าจะมีของบางสิ่งพังไปบ้างแต่ว่าเสี่ยวอิงคิดเอาไว้แล้วหลังจากที่ทุกคนกลับเธอจะเอาของใช้ออกมาจากมิติมาใช้ที่บ้านหลังนี้แม้เธอจะช่วยเขาไม่ได้มากแต่ก็ช่วยหยิบจับอะไรเล็กน้อยได้อยู่ ระหว่างที่ทำความสะอาดบ้านนั้นเธอรู้สึกเหมือนถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่เสมออย่างไม่ละสายตาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ในที่สุดบ้านของเธอก็สะอาดเรียบร้อยเธอจึงเอ่ยขอบคุณป้าเสวียนหนี่กับเสวียนเฉินที่มาช่วยเธอในครั้งนี้
"ขอบคุณคุณป้าเสวียนหนี่มาก ๆ นะคะถ้าไม่ได้ป้ากับเสวียนเฉินป่านนี้ฉันกับน้อง ๆ ก็คงยังทำงานบ้านยังไม่เสร็จ"
"พูดอะไรอย่างนั้นไม่เห็นต้องขอบคุณมากมายเลยแค่ช่วยจับคนละไม้คนละมือก็เสร็จแล้วอย่างนั้นเดี๋ยวป้าจะไปทำกับข้าวเพื่อต้อนรับเธอและน้อง ๆ นะ"
"หนูไปด้วยค่ะป้าเสวียนหนี่หนูก็ทำกับข้าวเป็นนะคะตอนที่อยู่บ้านตระกูลโจวหนูช่วยพี่เสี่ยวอิงทำอาหารอยู่เสมอจ้าวเหวินเราเองก็มาช่วยกันเถอะ" จิ่งเหยาชักชวนน้องชายไปช่วยอีกแรง ตอนนี้ทำให้เสี่ยวอิงนั่งอยู่กับเสวียนเฉินเพียงลำพัง
“ต่อจากนี้เธอจะกลับมาอยู่ที่นี่จะทำงานอะไรอย่างนั้นหรือ ? คิดไว้หรือยัง”
“ฉันคิดมาบ้างแล้วว่าจะเปิดร้านขายของกิน ระหว่างทางเดินกลับมาฉันสังเกตเห็นว่ายังไม่มีร้านขายขนม ฉันเลยคิดว่าจะขายขนมนะ มันน่าจะขายได้หากราคาไม่สูงมากนัก ”
“ดีเลย ไม่ว่าเธอจะทำอะไรฉันสนับสนุนเธอเต็มที่มีอะไรขาดเหลือบอกฉันได้เสมอไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดสลัวแล้วเธอไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเถอะ จะได้พักผ่อนยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย”
“ขอบคุณอีกครั้งที่มาช่วยเหลือฉันในครั้งนี้นะ สมแล้วที่เป็นนายอำเภอดูแลลูกบ้านดีเช่นนี้ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะชื่นชอบ”
“ใครบอกว่าฉันใจดี ฉันใจดีเพียงแค่กับเธอคนเดียวเท่านั้น” เสวียนเจินพูดเบา ๆ ในลำคอทำให้เสี่ยวอิงแทบไม่ได้ยินเอ่ยถามเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เมื่อครู่นายว่าอะไรฉันไม่ค่อยได้ยินเลย”
“หน้าที่ของนายอำเภอต้องดูแลลูกบ้านอยู่แล้ว เธอไม่ต้องรู้สึกเกรงใจอะไรมากขนาดนั้นทำตัวสบาย ๆ เถอะ ” เสี่ยวอิงไม่ได้เอะใจคิดว่าเขาพูดอย่างนั้นจริง ๆ เธอหันหลังให้เขาก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าบ้านสำรวจตามห้องต่าง ๆ เมื่อตอนนี้ทุกคนไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอเปิดใช้ระบบนำของใช้ต่าง ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องครัว ครีมอาบน้ำต่าง ๆ มาเตรียมไว้รอน้อง ๆ จนครบทุกอย่าง เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและไม่ลืมที่จะกินยาบำรุงร่างกายรักษาแผลด้านในอีกด้วย
“โชคดีที่ฉันมีระบบมิติ แต่เรื่องนี้คงบอกน้อง ๆ ไม่ได้ส่วนของใช้พวกนี้คงต้องบอกว่าเสวียนเฉินให้มาไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเชื่อแน่ ๆ เฮ้อ..ไม่คิดเลยว่าวัน ๆ หนึ่งกว่าจะผ่านพ้นไปนานขนาดนี้เมื่อไหร่ร่างกายจะกลับมาแข็งแรงสักทีฉันจะได้ค้าขายหาเงินเสียที”
ฝั่งบ้านของเสวียนเฉินหลังจากที่เขาแยกจากเธอก็กลับบ้านของตัวเองมาอาบน้ำเช่นเดียวกันเพราะทำความสะอาดช่วยเธอทั้งวันเหงื่อไหลออกมาจนเริ่มมีกลิ่นตัว แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านได้ยินเสียงเด็ก ๆ ทั้งสองกำลังพูดคุยกับแม่ของเขาอยู่ในครัวเรื่องของเสี่ยวอิง เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็น ครั้นได้ยินดวงตาของเขาเบิกโพลงโตด้วยความโมโห เพราะสิ่งที่ทั้งสามกำลังสนทนาอยู่นั้นเป็นเรื่องของหยางเจี้ยนสามีเก่าของเสี่ยวอิงอีกทั้งครอบครัวตระกูลโจวที่รังแกและยังทำร้ายร่าวกายจิตใจของเสี่ยวอิงแตกสลาย
‘ที่แท้เธอไม่ได้ไม่สบายอย่างที่ฉันคิด แต่เธอแท้งลูกแถมยังถูกสามีสวมเขาเล่นชู้คนที่ทำให้เธอแท้งก็เป็นสามีของเธอ ฮึ ! ไอ้คนชาติชั่วมาทำให้เสี่ยวอิงเสียใจคอยดูเถอะฉันจะเอาคืนให้เสี่ยวอิงอย่างสาสม และไม่มีทางที่จะปล่อยให้เสี่ยวอิงกลับไปตกนรกอีก’ เสวียนเฉินคิดในใจหันหลังกลับห้องของตัวเองเพื่อจัดการความรู้สึกโมโหตอนนี้ อย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ชายคนนี้มีความสุขท่ามกลางความเจ็บปวดของเสี่ยวอิงแน่นอน
หลังจากทำอาหารเย็นเสร็จป้าเสวียนหนี่ให้จิ่งเหยามาตามเสี่ยวอิงไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แต่ทว่ากลับถูกเสวียนเฉินเอ่ยปากบอกจะไปตามเธอมาเองให้เด็ก ๆ จัดโต๊ะรอที่นี่ เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้านของเธอพร้อมเอ่ยเรียกชื่อเธออยู่ด้านหน้าเกรงว่าจะเข้าไปแล้วเธอยังไม่สะดวก
“เสี่ยวอิงคุณแม่ให้มาตามไปกินข้าวด้วยกัน เธออาบน้ำเสร็จหรือยัง”
แอ้ด .. ประตูถูกเปิดออกมาจากด้านในเสี่ยวอิงสวมชุดสบาย ๆ แต่แตกต่างจากที่เขาเคยเห็นช่างเป็นชุดที่เหมาะสมกับเธอเสียจริง ใบหน้าของเธอที่ซีดไร้เลือดฝาดคงเป็นเพราะเธอสูญเสียเลือดไปมากยิ่งเห็นสีหน้าดวงตาเศร้าหมองของเสี่ยวอิงเสวียนเฉินยิ่งเจ็บใจ เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ยื่นมือมาจับมือของเสี่ยวอิงจนเธอตกใจเบิกตามโพลงโต
“นี่ ! ทำอะไรของนายกันฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่คุ้นชินกับการถูกเนื้อต้องตัว ฉันเดินเองได้ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
“ไม่! ฉันไม่ปล่อย จับมือฉันแล้วเดินตามมาต่อจากนี้เธอก็ต้องหัดให้คุ้นชินเพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยมือจากเธออีก ค่อย ๆ เดินล่ะไม่ต้องรีบยิ่งเจ็บแผลอยู่อย่าเดินมาก ใจจริงฉันล่ะอยากจะอุ้มเธอแทนที่จับมือด้วยซ้ำ” เสี่ยวอิงอ้าปากค้างพูดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย ชายคนนี้คาดเดาไม่ได้สักนิดไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำราวกับว่าเขาชอบเธออย่างไรอย่างนั้น
‘หากฉันไม่คิดเข้าข้างตัวเองผู้ชายคนนี้จะน่าแอบชอบเสี่ยวอิงแน่ ๆ เลย แต่ก็อาจจะไม่ใช่หรอกทั้งสองไม่ได้พบเจอกันมานานอายุก็จนปูนนี้แล้ว เขาเป็นถึงนายอำเภอคงมีภรรยาอยู่แล้วแน่ ๆ ฉันนี่คิดอะไรบ้า ๆ แต่ที่เขาพูดเรื่องแผลเมื่อครู่อย่าบอกนะว่ารู้ความจริงแล้วว่าเสี่ยวอิงพบเจอเรื่องอะไรมา ก็คงเป็นอย่างนั้นเขาคงรู้สึกสงสารสินะ ’ เสี่ยวอิงคิดในใจก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องที่ข้องใจ
“ ที่พูดมาเมื่อครู่รู้แล้วสินะว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันนะไม่ได้อยากโกหกหรอกแต่มันเป็นเรื่องที่น่าสมเพชจนไม่อยากพูดถึงมันเท่านั้น ทุกอย่างมันจบลงแล้วฉันไม่อยากนึกถึงมันอีก..” ไม่ทันที่เสี่ยวอิงจะพูดจบร่างใหญ่ดึงเธอเข้าไปสวมกอดพูดจาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ไม่ต้องพูอะไรทั้งนั้น …ฉันเข้าใจว่าเธอต้องพยายามทนความเจ็บปวดมาขนาดไหนในเมื่อเธอไม่อยากพูดถึงมันขอให้เธอลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นและเริ่มต้นใหม่เถอะนะ ต่อจากนี้ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือร่างกาย” ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดที่สั่นเทาหรือเพราะได้ยินแล้วเธอรู้สึกสบายใจแม้จะถูกเขาสวมกอดแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธผลักไสไล่ส่งกลับอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
